“เทศกาลแห่งแสงไฟฯจังหวัดราชบุรี” ย้อนเวลาสู่สงครามโลกครั้งที่ 2


เพิ่มเพื่อน    

  

การแสดงแสงไฟ สื่อประสม จ.ราชบุรี  ย้อนเวลาไปสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 

 

      “ราชบุรี” ในปัจจุบันเป็นที่รู้จักในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติและอาหารการกิน มีร้านค้า ร้านอาหาร รีสอร์ตที่ทันสมัยเกิดขึ้นมากมายตอบสนองนักท่องเที่ยว แต่กว่าที่ราชบุรีจะอุดมสมบูรณ์และเป็นที่นิยมในทุกวันนี้ เมืองราชบุรีก็เคยผ่านช่วงเวลาและเหตุการณ์สำคัญอยู่หลายครั้งในอดีต โดยเฉพาะเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ระบุว่ามีความเกี่ยวข้องกับสมรภูมิการรบหลายสมัย หนึ่งในเหตุการณ์ที่คนราชบุรีลืมไม่ลงคือ ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่กองทัพญี่ปุ่นเริ่มพ่ายแพ้สงครามในเมียนมา และจะต้องถอยทัพผ่านราชบุรี เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้บุคคลสำคัญของจังหวัดเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เยี่ยมราษฎรในขณะนั้น
    ด้วยเหตุนี้ จังหวัดราชบุรีจึงได้ร่วมกับหน่วยงานราชการและเอกชน โดยการสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานราชบุรี จะจัดงาน “เทศกาลแห่งแสงไฟและสื่อประสมจังหวัดราชบุรี” สุดยิ่งใหญ่ ย้อนเวลาไปสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และการแสดง “ย้อนรอยเล่าขาน ตำนานเมืองราชบุรี เรืองรุจี เกริกก้องปฐพี” เป็นครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 15-20 มกราคมนี้ ที่บริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา แม่น้ำแม่กลอง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เพื่ออนุรักษ์สืบสานประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของจังหวัดราชบุรี 

ย้อนรอยราชบุรีผ่านม่านน้ำพุ

    โดยนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการ จ.ราชบุรี กล่าวถึงที่มาการจัดงานว่า การจัดงานขึ้นมาในช่วงวันที่ 15-20 มกราคม มีวัตถุประสงค์เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี “ท่านหลวงนิคมคณารักษ์” บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ราชบุรี ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากสมัยนั้นเมืองราชบุรีเป็นเส้นทางลำเลียงทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ของญี่ปุ่นไปมลายูและเมียนมา เมื่อกองทัพญี่ปุ่นเริ่มพ่ายแพ้สงครามในเมียนมา ฝ่ายสัมพันธมิตรจึงจำเป็นต้องทำลายเส้นทางถอยทัพกองทัพญี่ปุ่นที่จะเดินทางลงใต้ไปยังมาเลเซียและไปฐานทัพใหญ่ที่สิงคโปร์ โดยในคืนวันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2488 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรได้มาโจมตีทิ้งระเบิดที่สะพานจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี ขณะนั้นท่านหลวงนิคมคณารักษ์ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ในช่วงเช้าวันที่ 15 มกราคม 2488 ได้ออกเยี่ยมราษฎรและลงตรวจพื้นที่ ในระหว่างปฏิบัติงานท่านได้ประสบอุบัติเหตุจากระเบิดที่ทิ้งจากเครื่องบิน แต่ยังไม่ระเบิดทันทีของคืนที่ 14 มกราคม ได้เกิดระเบิดขึ้นในวันนั้น ทำให้ท่านเสียชีวิต ราษฎรชาวราชบุรีต่างเศร้าโศกเสียใจเป็นอันมาก นี่ก็เป็นวัตถุประสงค์อย่างแรกที่เราจัดขึ้นมา เพราะอยากจะนึกถึงบุคคลทางประวัติศาสตร์
    นายวิสาห์กล่าวต่อว่า แต่จริงๆ แล้วในสมัยนั้นมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นที่ราชบุรีจำนวนมาก นอกจากราชบุรีจะเป็นเส้นทางลำเลียงหลักที่ทางญี่ปุ่นใช้ขนเชลยศึกจากสิงคโปร์ไปลงชุมทางรถไฟหนองปลาดุก เพื่อสร้างรถไฟจากหนองปลาดุกไปเมียนมาแล้ว จากตำรายังบอกอีกว่า ก่อนจะโดนระเบิด ในขณะนั้นทางญี่ปุ่นได้มีการตั้งค่ายที่ราชบุรีเพื่อสร้างสะพานรถไฟอีกเช่นกัน ก็มีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่คนไทยทำให้สะพานที่ญี่ปุ่นสร้างขึ้นมา รถจักรไม่สามารถวิ่งได้ จมลงไปอยู่ในน้ำแม่กลองเป็นเวลา 74 ปีผ่านมาแล้ว ตอนนี้ทางการรถไฟฯ ก็มีการสำรวจพบระเบิดอีกด้วย ตอนแรกเราทราบว่ามีอยู่ 3 ลูกในน้ำ ตอนนี้ทางกรมสรรพวุธทหารเรือได้ลงไปพิสูจน์ว่ามีระเบิดที่โดนทิ้งอยู่ในน้ำทั้งหมด 7 ลูกที่พบแล้ว รวมถึงหัวรถจักรที่เล่าขานกันมาแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองถึงปัจจุบัน 
    “เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ก็กลัวว่าจะจางหาย จึงนำมาเสนอให้เห็นในงาน ที่น้อยคนนักจะทราบว่ามีอดีตผู้ว่าจังหวัดราชบุรีเสียชีวิตจากการตรวจพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ราษฎรในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เรื่องหัวรถจักรในน้ำคนราชบุรีก็ยังรู้น้อย ยิ่งระเบิดในน้ำยิ่งไม่มีใครทราบ ก็เป็นที่มาส่วนหนึ่งของการจัดงาน ไม่เพียงเท่านี้ ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่ราชบุรีจำนวนมาก ก็พยายามสร้างกิจกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชม มาดู สัมผัส เพิ่มเติมจากแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ สถานที่อื่นๆ ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในราชบุรีด้วย” นายวิสาห์กล่าว 


    ด้านนายวรรธนชัย โตสวัสดิ์ ท่องเที่ยวและกีฬาราชบุรี กล่าวเสริมว่า สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน วันที่ 16 มกราคม เป็นต้นไป จะได้ช็อป ชิม อาหารอร่อย และสินค้า OTOP มีชื่อเสียงมากมายของจังหวัดราชบุรี ซึ่งมีประมาณ 700-800 ผลิตภัณฑ์ มีความหลากหลายทั้งอาหารการกิน ของใช้ ไม่ว่าจะเป็นผ้าทอราชบุรี เป็นผ้าตีนจก ผ้าลายเต้าหู้ดำ ที่น่าจะมีลายเดียวในประเทศไทย สินค้าพืชผักทางการเกษตร แปรรูป และที่พิเศษคือในช่วงค่ำของทุกวันจะได้ชมการประดับไฟโชว์แสงสี การแสดงน้ำพุดนตรี และการแสดงหนังใหญ่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดราชบุรี ส่วนวันที่ 18-20 มกราคม ตั้งแต่ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป จะได้ชมงานศิลป์และนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ทั้งแฟชั่นโชว์ผ้าขาวม้า ซึ่งผ้าขาวม้าค่อนข้างขึ้นชื่อของราชบุรี แล้วก็ผลงานนิทรรศการศิลปะโดยศิลปินราชบุรี และชมศิลปะการแสดงพื้นบ้าน กิจกรรม Workshop และการสาธิตศิลปะจากเหล่าศิลปินมากมาย พร้อมประกวดวาดภาพชิงเงินรางวัล 

 

สะพานจุฬาลงกรณ์ สถานที่สำคัญช่วยเล่าเรื่องราว 


    นอกจากนี้ นายวรรธนชัยยังบอกอีกว่า ไฮไลต์ของงานในช่วงวันที่ 18-20 มกราคม ตั้งแต่เวลา 1 ทุ่มครึ่ง จะได้ชมการแสดงแสง-เสียงจินตภาพประกอบแสง สี เสียง และสื่อประสม อิงประวัติศาสตร์ “ย้อนรอยเล่าขาน ตำนานเมืองราชบุรี เรืองรุจี เกริกก้องปฐพี” เรื่องเล่าราชบุรี ด้วยเวทีกลางน้ำแม่กลองยาว 60 เมตร โดยจำลองเหตุการณ์สำคัญสัมพันธมิตรนำระเบิดทิ้งสะพานจุฬาลงกรณ์ ด้วยการแสดงพลุประกอบเสียงเพลง พร้อมเอฟเฟ็กต์ที่หาชมยาก และการเล่าเรื่องผ่านในน้ำพุยาว 100 เมตร รวมถึงไฟประดับตกแต่งทั่วบริเวณงานลานแสดงที่นำมาประยุกต์ใช้ในการจัดงานให้มีความสวยงาม ทันสมัย นับล้านดวงด้วยเทคนิคการเล่นแสงไฟ การย้อมสี เพื่อให้เข้ากับการแสดง พร้อมทั้งไประดับงานรูปแบบอื่นๆ บริเวณถนนวรเดชตลอดสาย ตั้งแต่หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีจนถึงสะพานจุฬาลงกรณ์ ให้เกิดความประทับใจต่อนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น
    สำหรับผู้สนใจจะมาชม “เทศกาลแห่งแสงไฟและสื่อประสมจังหวัดราชบุรี” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดราชบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 0-3232-2028 และ ททท.สำนักงานราชบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 0-3291-9176-7 Call center 1672.



เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"