ท่าทางน่าจะเหนื่อย...น่าจะระโหยโรยแรงกันไปมิใช่น้อย สำหรับบรรดาผู้ที่ อยากเลือกตั้ง หรือ ไม่อยากให้เลื่อนเลือกตั้ง ที่พยายามออกมาปลุกเร้าใครต่อใคร ให้ เห็นควรด้วย กับการกำหนดวัน-เวลา-นาทีของ การเลือกตั้งที่รัก ภายในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่จะถึง อย่างไม่มีสิทธิ์ยืดหยุ่น หรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะดูเหมือนว่า...โดยสีสัน บรรยากาศ ของการปลุกเร้า ปลุกระดม มันออกไปทาง ด้วนๆ อย่างเห็นได้โดยชัดเจน...

                                                                 ----------------------------------------------

                ช่วงวันศุกร์...เห็นว่าผู้ที่เห็นควรด้วย หรือเห็นด้วย ออกมาชูป้ง ชูป้าย น่าจะตกราวๆ ไม่เกิน 100 คน ช่วงวันเสาร์ที่วงเวียนใหญ่ อนุสาวรีย์พระเจ้าตาก ตั้งแต่ 5 โมงไปยันถึง 2 ทุ่ม ตามที่ ไทยโพสต์ เขานับหัว เห็นว่าน่าจะอยู่ราวๆ 50 คน ส่วนฉบับอื่นๆ ที่ไม่ถึงกับเหี้ยมโหดเกินไปนัก ก็นับจำนวนหัวตกประมาณ 100 หัว ไม่เกินไปกว่านั้น ส่วนวันอาทิตย์ที่กะจะปลุก กะจะเร้ากันอีกเที่ยว แถวๆ สี่แยกราชประสงค์ จะออกกันมาเป็นแสนๆ หรือไม่ อย่างไร ก็มิอาจคาดคะเนได้ เพราะขณะที่เขียนต้นฉบับชิ้นนี้ ก็ยังไม่มีโอกาสได้รู้ ว่าจะซักเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่...

                                                                  ----------------------------------------------

                คือถ้าใช้ มาตรฐาน ตามแบบฉบับของ น้าชาติ หรือพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ได้ชื่อว่าเป็น มังกือการเมือง ระดับมังกรเรียกพี่ ซึ่งได้วายชนม์ไปนานแล้ว ว่ากันว่า...ขณะที่เดินลงมาจากห้องนอนในบ้านพักซอยราชครู เพื่อ ประเมินสถานการณ์การเมือง ด้วยการเอ่ยถาม อาจารย์โต้ง ว่า บรรดามวลชนของฝ่ายเรา ที่ลุกฮือขึ้นมากดดัน เล่นงาน ฝ่ายตรงกันข้าม มีจำนวนเท่าไหร่แล้ว พอลูกชายและเพื่อนๆ ของลูกชาย แจ้งว่า...ตกประมาณเหยียบหมื่น หรืออาจจะหมื่นกว่าๆ น้าชาติ ท่านใช้เวลาแค่ชั่วกะพริบตาสอง-สามที หรือแค่ไม่กี่วินาที แล้วสรุปว่า ถ้างั้น...กลับไปนอนต่อดีกว่า!!! !!! !!!

                                                                  -------------------------------------------------

                พูดง่ายๆ ว่า...ออกไปทาง โนพลอมแพลม หรือไม่อาจสร้าง ปัญหา ใดๆ ให้กับฝ่ายตรงข้ามได้เลยแม้แต่น้อย สู้กลับไปนอนเก็บเรี่ยว เก็บแรง เก็บสมองเอาไว้ประดิษฐ์ คิดค้น กลยุทธ์ใหม่ๆ น่าจะเหมาะกว่า แต่แม้นว่าจะออกกันมาเป็นแสนๆ หรือเป็นล้านๆ ระดับ 4 ล้าน 5 ล้านก็เถอะ ถ้าหากฝ่ายตรงกันข้าม หรือผู้มีอำนาจเขา ด้านพอ  อะไรที่น่าจะก่อให้เกิดปัญหากับฝ่ายตรงข้าม ไปๆ-มาๆ อาจกลายเป็นปัญหาต่อบรรดาผู้นำมวลชนเอง ไม่ว่าแกนนำ แกนนั่ง แกนนอน ที่ชักคิดไม่ออก-บอกไม่ถูก ว่าจะงัดเอา มุก ไหนมาว่ากันต่อ ชนิด หาบันไดลง แทบไม่เจอ เอาเลยถึงขั้นนั้น...

                                                                  ----------------------------------------------------

                ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าบรรดาผู้ที่ อยากเลือกตั้ง ผู้ที่ ไม่อยากให้เลื่อนเลือกตั้ง เขาจะคิดถูก-คิดผิด คิดเข้าท่า-ไม่เข้าท่าก็แล้วแต่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่หันไป-หันมา แล้วเจอกับเพื่อน-พ้อง-น้อง-พี่ เจอกับลุง-ป้า-น้า-อา หน้าเดิมๆ คนเดิมๆ ที่อุตส่าห์กัดฟันออกมาตามแห่ กันในระดับ 50-100 ไม่ได้มีหน้าใหม่ๆ ออกมาเติมให้ครบหมื่น ครบแสน อันนี้...ยังไงๆ คงหาทางต้อง คิดใหม่-ทำใหม่ นั่นแหละ ถึงจะเข้าท่า เข้าทาง หรือถึงจะ สอดคล้องกับสภาวะความเป็นจริง ไม่ได้ออกไปทางเพ้อๆ เพี้ยนๆ ฝันไป-ฝันมา โดยไม่อาจส่งผลให้ความฝันมันออกไปทาง ฝันดี-ฝันเด่น  ได้เลยแม้แต่น้อย...

                                                                 -----------------------------------------------------

                ว่าไปแล้ว...ในโลกยุคใหม่ สังคมสมัยใหม่ จะเรียกว่ายุคไอที หรือยุค 4 จี-5 จี ก็แล้วแต่ คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้นั่นแหละว่า การอาศัย มวลชน หรือการ เคลื่อนไหวมวลชน ในแบบก่อนๆ แบบรวมตัวกันบนท้องถนน แห่ออกมาชูป้ง ชูป้าย ขึ้นเวทีปราศรง ปราศรัย อะไรประมาณนั้น มันออกจะเป็นอะไรที่ค่อนข้าง เชยซ์ซ์ซ์ อยู่พอสมควร แม้จะอาศัยแกนนำ แกนนั่ง แกนนอน ในระดับ มืออาชีพ ก็ตาม ด้วยเหตุเพราะพฤติกรรม อารมณ์ความรู้สึก นึกคิด จิตใจ ของผู้คนยุคนี้ มันต่างไปจากผู้คนยุคก่อนๆ แบบคนละเรื่อง คนละม้วน...

                                                                --------------------------------------------------------

                สิ่งที่อาจเป็นตัวปลุกเร้า ปลุกระดม หรือเป็นตัว จุดระเบิด ให้กับฉากสถานการณ์หนึ่ง สถานการณ์ใด ไปๆ-มาๆ...มันเลยกลับกลายเป็น เทคโนโลยี ไปแทนที่!!! กลายเป็นอินเทอร์หน่ง อินเทอร์เน็ต เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ฯลฯ อะไรประมาณนั้น ที่เป็นตัวจุดระเบิดขึ้นมาในกรุงลอนดอน มาดริด เมื่อหลายปีที่แล้ว และเพิ่งจุดระเบิดขึ้นในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อไม่กี่วัน กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จนเกิดมวลชนที่ปราศจาก แกนนำ ออกมาเผาบ้าน เผาเมือง ชนิดรัฐบาลแทบไม่รู้ว่าจะไปเจรจากับใครกันดี ลักษณะการ เคลื่อนไหวมวลชน ยุคใหม่ มันเลยต้อง คิดใหม่-ทำใหม่ หรือต้องนอนคิดประมาณ 100 ตลบ หรือ 200 ตลบ เป็นอย่างน้อย ถึงจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เกิดแรงกดดันต่อฝ่ายตรงข้าม ต่อฝ่ายผู้มีอำนาจได้อย่างจริงๆ จังๆ...

                                                                 -------------------------------------------------------

                หรือพูดง่ายๆ ว่า...มันขึ้นอยู่กับ ประเด็น การเคลื่อนไหว ที่ต้อง ตกผลึก เอาจริงๆ ต้องเกิดการสั่งสม ต่อเนื่อง มาเป็นระยะเวลาพอสมควร จนสามารถ จุดปุ๊บ-ติดปั๊บ ได้แบบฉับพลัน-ทันที ชนิดไม่ต้องเสียเรี่ยว เสียแรง เสียเวลาไปอาศัยแกนนำ แกนนั่ง แกนนอนใดๆ เอาเลยก็ยังได้ โดยเฉพาะประเภท สู้แล้วรวย ที่ทำให้ต้องเสียเงิน เสียทอง โดยใช่เหตุ อาศัย เทคโนโลยี ล้วนๆ แค่ไม่กี่บาท กี่สตางค์ แต่ถ้าประเด็นการเคลื่อนไหว มันตรงจุด ตรงเป้า ตรงเข้าไปถึงลำไส้ ถึงริดสีดวงทวารของผู้คนแบบจะจะ จังๆ อันนั้นนั่นแหละ...มันถึงจะเตร๊งเตรง เตร่งตร๋อย ไฟไหม้มูลฝอยดังพรึ่บบ์บ์บ์ ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ แต่ถ้าเป็นประเด็นแค่...ต้องไปเลือกตั้งเดือนมีนาฯ ไม่ใช่เดือนกุมภาฯ เลื่อนไปแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง อันนี้...ต่อให้นักเคลื่อนไหวตัวพ่อ สู้แล้วรวยตัวพ่อมาเองนับไป-นับมา ยังไงๆ มันคงไม่เกิน 100 สู้กลับไปนอนต่อ นอนเอาแรง แบบ น้าชาติ น่าจะเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ...

                                                                 -------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Tsutomu Shimomura... We call things we don’t understand complex, but that means we haven’t found a good way of thinking about them.- เราเรียกสิ่งที่ไม่เข้าใจว่า...ความซับซ้อน ทั้งที่จริงแล้ว เรายังค้นไม่พบวิธีคิดที่เหมาะสมสำหรับสิ่งนั้นต่างหาก...

                                                                ---------------------------------------------------------