พูดถึงกลุ่มอยากเลือกตั้งกันซะหน่อย
    เพราะมีวิวัฒนาการที่น่าสนใจ
    แรกเริ่มเดิมทีรู้จักกันในนามกลุ่มพลังประชาธิปไตยบริสุทธิ์ ประกอบด้วยกลุ่มนิสิต นักศึกษา และนักเคลื่อนไหวหน้าใหม่ 
    แต่หลังติดตลาด พบว่ามีกลุ่มการเมืองตรงข้าม คสช. กลุ่มทนายเสื้อแดง ไปฝังตัวอยู่จำนวนหนึ่ง 
    คนในกลุ่มล้วนรู้ตัวดีว่า ความเคลื่อนไหวช่วงหลังๆ มานี้ สอดรับกับพรรคการเมืองในสังกัดระบอบทักษิณ 
    ผลัดกันรับผลัดกันชง
    รวมทั้งระดับแกนนำระหว่างกลุ่มอยากเลือกตั้งกับพรรคระบอบทักษิณ มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันเป็นพิเศษอย่างที่ทราบเป็นข่าวคราวกันไปแล้ว 
    ใครผิดใครถูกค่อยว่ากัน แต่พัฒนาการทางการเมืองของกลุ่มอยากเลือกตั้ง จะนำไปสู่การเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกหลายระลอกหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไป
    แต่ ณ วันนี้จะสังเกตเห็นว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น จะเป็นการเลือกตั้งท่ามกลางความขัดแย้ง 
    หลายเงื่อนไขถูกสร้างขึ้นมาจากทุกฝ่าย มีแนวโน้มว่า การเมืองไทยจะจบลงด้วยการเกิดความขัดแย้งที่รุนแรงอีกครั้งหนึ่ง
    ถ้าจะสรุปว่า กลุ่มอยากเลือกตั้ง คือกลุ่มที่จะมาแทนกลุ่ม นปช.ก็คงไม่ผิดนัก 
    ขณะที่กลุ่มแกนนำ นปช.ผันตัวเองไปเป็นแกนนำพรรคการเมืองตระกูลเพื่อกันทั้งหมด
    และความเคลื่อนไหวทางการเมืองจะชัดเจนยิ่งขึ้น หากรัฐบาลหน้ามีนายกรัฐมนตรีชื่อ "ประยุทธ์  จันทร์โอชา"
    วันนี้จึงเริ่มเห็นสัญญาณแล้วว่า หลังเลือกตั้งประเทศไทยจะตกอยู่ในความตึงเครียดอีกครั้ง
    การต่อสู้ทางการเมืองบนถนนจะยังมีให้เห็นกันอีก แม้จะมีพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะที่ทำให้การชุมนุมทำได้ยากขึ้นก็ตาม 
    แต่หากเกิดภาวะไม่ปกติ กฎหมายฉบับนี้แทบไร้ความหมาย ดูตัวอย่างได้จากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองในปารีส
    กลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย จะอ้างสิทธิที่พึงมีตามรัฐธรรมนูญ เหมือนที่มวลชนสีเสื้ออื่นเคยอ้าง เพื่อจัดชุมนุมเป็นระยะๆ 
    จากเล็กไปสู่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
    อย่าถามว่าทุนมาจากไหน 
    เพราะมีพรรคการเมืองพร้อมที่จะให้การสนับสนุนตลอดเวลา 
    สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องเจอหากกลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง นั่นคือมวลชนอยากเลือกตั้ง จะแปลงสภาพ
    เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เข้มข้นขึ้น 
    ด้วยเงื่อนไขที่ปลุกกันอยู่ในเวลานี้ 
    นั่นคือต่อต้านการสืบทอดอำนาจ.