สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จัดงาน “วันเด็กแห่งชาติ ณ เขตพระราชฐานในพระองค์ พระราชทานทุนการศึกษาแก่ลูกข้าราชบริพารเรียนดี 200 คน หน่วยงานต่างๆ ถวายของขวัญแด่ "พระองค์ที" บิ๊กตู่เปิดทำเนียบฯ เด็กวิ่งเจี๊ยวจ๊าว ให้โอวาทฝากบอกพ่อแม่ด้วย รัฐบาลนี้ทำเต็มที่แล้ว
วันที่ 12 ม.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2562 ณ สนามกีฬาอเนกประสงค์ เขตพระราชฐานในพระองค์ฯ ราชวิถี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และพระราชทาน พระราโชวาทสำหรับเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็กแห่งชาติ พุทธศักราช 2562 ความว่า
“เด็กทุกคนควรหมั่นศึกษาหาความรู้ และประพฤติตนเป็นคนดี มีระเบียบวินัย เพราะว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้แต่ละคนประสบความสุข ความเจริญ และความสำเร็จในชีวิตได้ในวันข้างหน้า” เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้น้อมนำไปประพฤติปฏิบัติ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จะได้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี และเป็นกำลังที่สำคัญต่อประเทศชาติต่อไป
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.อ.เกษม อยู่สุข หัวหน้าสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ฯ เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2562 ณ สนามกีฬาอเนกประสงค์ เขตพระราชฐานในพระองค์ฯ ซึ่งจัดขึ้นตามพระราโชบายในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชนที่จะเป็นทรัพยากรที่สำคัญยิ่งต่ออนาคตของประเทศชาติ โดยพระราชทานพระราโชบายให้เป็นการจัดกิจกรรมแบบรวมการ
โดยให้บุตรหลานของข้าราชบริพาร ตลอดจนเด็กและเยาวชนทั่วไป ได้มาร่วมกิจกรรมในวันเด็กแห่งชาติ ทั้งยังมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระราชทรัพย์ให้เป็นทุนการศึกษาสำหรับบุตรข้าราชบริพารที่มีผลการเรียนดี จำนวน 200 คน พระราชทานสลากออมสิน ของขวัญ ของเล่นเสริมทักษะและความรู้ ตลอดจนพระราชทานอาหารและเครื่องดื่มแก่เด็ก เยาวชน และผู้ปกครองที่มาร่วมงาน
ในการนี้ หน่วยงานต่างๆ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายของขวัญแด่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติด้วย
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวให้โอวาทเด็กและเยาวชนเนื่องในวันเด็กแห่งชาติว่า วันนี้สังคมเกิดความวุ่นวาย พวกเราต้องช่วยกันไม่ขยายความขัดแย้ง แต่ต้องช่วยกันขยายความเข้าใจในสิ่งดีๆ ต้องเรียนรู้ว่า 4 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และ 4 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร รัฐบาลกำลังเดินหน้าสู่การเป็นประชาธิปไตย เพราะวันนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่จะนำไปสู่อนาคต ขอให้ทุกคนตระหนักในหน้าที่ของตัวเอง ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ไปถึง WTO
นายกฯ กล่าวอีกว่า มีหลายคนส่งเรื่องร้องเรียนเข้ามา เช่น ปัญหาไม่มีที่ดินทำกิน ความยากลำบาก ไม่มีบ้านที่อยู่อาศัย แต่ขอให้ไปดูโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลทำอยู่ เพราะมีโครงการที่จะทำบ้านอีกกว่าล้านหลัง แต่ทุกคนต้องช่วยรัฐบาล อย่าเชื่อคนที่บอกว่าจะทำบ้านให้ฟรีทั้งหมด เพราะมันเป็นไปไม่ได้ เช่นเดียวกับการกำหนดราคายางและข้าวให้สูงกว่านี้ เพราะทำไม่ได้ ผิดกติกาองค์การการค้าโลก หรือ WTO การที่ใครสัญญาจะเอาโน่นนี่ให้เป็นการส่วนตัวนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะเรื่องที่ดินเป็นทั้งที่ดินของเอกชน และราชการภาครัฐสามารถจัดหาที่ดินทำกินให้ได้ แต่ให้ไปเลยนั้นไม่ได้ ขอประชาชนอย่าฟังว่าจะได้อะไรอย่างเดียว ต้องคิดด้วยว่าเราจะเสียอะไรไปบ้าง นั้นคือความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
นายกฯ ขอให้คนไทยทุกคนช่วยกันเตรียมการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้เรียบร้อยไปด้วยดี โดยจะเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. ในพิธีเตรียมน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยในเดือนเม.ย. จะมีกิจกรรมทั้งหมด 11 วัน จากนั้นจะเข้าสู่พระราชพิธีระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค. ก่อนจะเข้าสู่พิธีหลังจากนั้นที่รัฐบาลและภาคประชาชนจัดถวายอีกหลายวัน
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้สอบถามเรื่องต่างๆ โดยมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถามว่า นายกฯ เหนื่อยหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า เหนื่อย แต่ก็มีกำลังใจเป็นแรงฮึดอยู่เรื่อยๆ เพราะมีจุดมุ่งหมายในการทำงาน เรื่องที่ไม่เป็นสาระทำให้หงุดหงิด ก็จะไม่สนใจ
เด็กคนเดิมถามอีกว่า ทำไมต้องดุพี่ๆ นักข่าวด้วย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “หนูต้องไปดูว่านักข่าวถามลุงอย่างไร ลุงดุเขาด้วยความรัก เป็นการดุแบบเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้โกรธเคือง เป็นเหมือนการเตือน เพราะลุงเป็นทหารมาก่อน อาจจะรุนแรงไปนิด อยากฝากหลานๆ ให้ช่วยกันขยายในสิ่งที่ดีๆ ไม่ขยายในสิ่งไม่ดี และมีคนเคยถามว่าเคยถูกตีหรือไม่ เคยถูกตี เพราะเป็นคนดื้อ แต่ชอบอ่านและเรียนหนังสือ ถือว่าเป็นเด็กที่เรียบร้อย แต่ก็ยังโดนตี เพราะเวลาไปโรงเรียนก็จะดื้อกับครูบ้าง เด็กน้อยโดนตีเยอะ แต่ลุงก็ได้ดี ครูก็ไม่ได้โกรธ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกล่าวให้โอวาทเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ถ่ายรูปร่วมกับคนที่มาร่วมงานอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะออกมาจากตึกสันติไมตรี และร่วมร้องเพลงสู้เพื่อแผ่นดินและเพลงในความทรงจำ กับวงดนตรีกรมดุริยางค์ทหารบก และตะโกนว่า “ประเทศไทยเป็นของพวกเราทุกคน ช่วยกัน ช่วยลุงตู่ ช่วยรัฐบาลด้วย” ก่อนเดินทักทายผู้ร่วมงานและเดินทางกลับ
ตื่นตี 5 ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ คนแรก
สำหรับบรรยากาศการจัดงานวันเด็กแห่งชาติที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก มีเด็กและเยาวชนเดินทางมาร่วมกิจกรรมจำนวนมาก โดยทันทีที่นายกฯ เดินทางมาถึง ปรากฏว่าบรรดาเด็กๆ และผู้ปกครองได้วิ่งกรูเข้าไปขอถ่ายรูปด้วย
โดยกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ อาทิ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเปิดให้เด็กและเยาวชนนั่งเก้าอี้นายกฯ โดยมีเด็กๆ และเยาวชนจำนวนมากให้ความสนใจมาต่อแถวรอ ตั้งแต่เวลา 07.30 น. ซึ่งเด็กคนแรกที่ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ คือ ด.ญ.ภวริศา ไชยวัฒน์มาลากุล อายุ 11 ขวบ หรือน้องออมสิน นักเรียนโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ เมืองทองธานี
ด.ญ.ภวริศากล่าวว่า มาเที่ยวงานวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นปีแรก ตื่นนอนตั้งแต่ตี 5 เพื่อเตรียมตัวเดินทางมาถึงงานในเวลา 07.00 น. ตนมีความตั้งใจอย่างมากที่จะมานั่งเก้าอี้นายกฯ รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้นั่งเป็นคนแรก และขอให้กำลังใจนายกฯ ขอให้ลุงตู่สู้ๆ และขอให้รักษาสุขภาพด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานงานวันเด็กในหลายจุด อาทิ ที่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม พล.อ.ประยุทธ์เยี่ยมชมพื้นที่จัดกิจกรรมเยาวชนสัมพันธ์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมกล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ฝากบอกพ่อแม่ด้วย รัฐบาลนี้ทำเต็มที่แล้ว ส่วนรัฐบาลหน้าก็เป็นเรื่องของรัฐบาลหน้า และขอให้มีหลักคิดด้วยว่า มันเป็นไปได้หรือไม่ อย่าคิดแต่เพียงว่าเราจะได้อะไร อย่าพูดอะไรที่จะยิ่งทำให้ประเทศเสียหาย ขณะที่เด็กๆ ได้กล่าวว่า ขอบคุณลุงตู่
ส่วนที่กระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.ประยุทธ์พูดกับเด็กๆ ว่า เวลานี้มีคนออกมาพูดว่ามีคนนอกระบบการศึกษา 5 แสนคน หรือ 5 ล้านคน จะหาเงินให้เรียนนั้นคือพูดสร้างความฝันแล้วเป็นจริงไม่ได้ ฝากพ่อแม่ด้วย เพราะวันนี้มีการพูดหลายอย่าง จะทำโน่นทำนี่ มันใช่เหตุผลจริงๆ หรือเปล่า ความเท่าเทียมคือเรื่องของโอกาส การจัดระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินให้ทุกคนเข้าถึงโอกาส การศึกษา ด้วยวิธีอะไรก็แล้วแต่ หาเวลาดูแลผู้มีรายได้น้อย ซึ่งทุกระทรวงมีหมด ให้ความเป็นธรรมกับเขา แต่เท่าเทียมกันหมดไม่ได้ เพราะพื้นฐานต่างกัน ไม่มีทางเท่ากันได้ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย
ทั้งโลกเป็นแบบนี้ ต้องมีศิลปะในการบริหาร อย่าพูดเหมารวมทั้งหมด มันทำไม่ได้จริง ทุกรัฐบาลต้องมีหน้าที่สร้างเกราะกำบังเหล่านี้ให้พี่น้องปวงชนชาวไทยมีความรัก ความสามัคคี ทุกคนต้องมองผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก สิ่งเหล่านี้จะทำให้ประเทศไทยก้าวหน้า สมอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงคาดหวังการพัฒนาบุคลากรสำคัญที่สุดของประเทศเวลานี้
"พี่ไอติม" ก็ไป
ที่หมู่บ้านกิตตินิเวศน์? รามคำแหง 68 นายอภิสิทธิ์? เวชชาชีวะ? หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)? เดินทางมาร่วมกิจกรรมวันเด็ก พร้อมด้วยนายพริษฐ์? วัชรสินธุ? ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง? โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก? มีเด็กและเยาวชนในหมู่บ้านดังกล่าวเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า? วันเด็กแห่งชาติถือเป็นการยืนยันว่าประเทศของเราให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน? สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณภาพของคนในสังคม การลงทุนเรื่องอนาคตคือการลงทุนในด้านทรัพยากรมนุษย์
ด้านนายพริษฐ์กล่าวว่า? ปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเจอในขณะนี้คือความเหลื่อมล้ำ? เราเชื่อว่าการลดความเหลื่อมล้ำที่ยั่งยืนที่สุดคือการยกระดับให้เด็กไทยทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน และเติบโตขึ้นโดยมี 3 อย่างสำคัญ คือ 1.มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพรรค ปชป.จึงต้องลงทุนสำหรับเด็กแรกเกิด?เป็นเบี้ยเด็กเข้มแข็งเดือนละ? 1,000? บาท 2.เด็กไทยในอนาคตมีทักษะที่นำไปใช้ในการทำงานได้? เช่น? ทักษะภาษาอังกฤษ การคิดวิเคราะห์ และ 3.อยากเห็นเด็กไทยมีคุณธรรมจริยธรรม? เคารพสิทธิและหน้าที่ นอกจากนี้? ยังต้องคิดว่าทำอย่างไรให้เด็กใช้เวลากับคุณครูได้มากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาพรรค ปชป.ให้ความสำคัญกับนโยบายการศึกษามาโดยตลอด? เช่น? นโยบายเรียนฟรี 15 ปี แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่เราอยากพัฒนาปรับปรุง เช่น? เรียนปวส.ฟรีควบคู่กับการพัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษา? เป็นต้น
ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) สนามเป้า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมทางทหารเนื่องในงานวันเด็กแห่งชาติ โดยน้อมนำศาสตร์พระราชาและเสริมสร้างการมีจิตอาสาเป็นแนวทางหลักในการจัดกิจกรรม ควบคู่ไปกับการปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนมีคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจนสร้างความรัก ความสามัคคี และเทิดทูนสถาบันหลักแห่งชาติ ซึ่งภายในงานมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก และผู้แทนองค์กรภาคเอกชนที่ร่วมจัดกิจกรรมดังกล่าวต้อนรับ โดยได้เดินเยี่ยมชมงาน พร้อมพาเด็กนั่งตัก บนที่นั่งนักบิน ฮ. Aw-149 ด้วย
ผบ.ทบ.ฝากพ่อแม่ดูแลเด็ก
ทั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์กล่าวเปิดงานพร้อมให้โอวาทเด็กๆ ตอนหนึ่งว่า การจัดงานวันนี้เพื่อให้เด็กมีความสุข ซึ่งในปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญ และให้คำขวัญ "เด็ก เยาวชน จิตอาสา ร่วมพัฒนาชาติ" ความหมายว่า การที่เด็กจะมีจิตอาสาไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร แต่ขึ้นอยู่กับบิดามารดาผู้เลี้ยงดู ซึ่งเด็กเกิดมาบริสุทธิ์ การเจริญเติบโตของเขาต้องฝากพ่อแม่ เพราะฉะนั้นอนาคตของเด็ก บุตรหลานของท่านจะดีหรือไม่ดีก็อยู่กับพ่อแม่ที่จะปลูกฝังและการเลี้ยงดูให้รู้จักมีจิตอาสา
"ถ้าเราไม่ทำตัวอย่างที่ไม่ดี เด็กก็จะไม่ทำตาม แต่ถ้าเราไม่แสดงอารมณ์ เด็กก็จะไม่ทำตาม ดังนั้นขอฝากพ่อแม่ด้วย โดยในทุกปีกองทัพบกให้ความสำคัญกับบุตรหลาน ไม่ใช่เฉพาะบุตรหลานของกองทัพบกเท่านั้น แต่ยังจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้วันเด็กมีความสำคัญต่อเด็กที่มาจากทุกภาคส่วน ขออวยพรให้เด็กเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีจิตอาสาตามคำขวัญของนายกรัฐมนตรีที่จะร่วมพัฒนาชาติไทยต่อไป"
นอกจากนี้ พล.อ.อภิรัชต์ยังให้สัมภาษณ์ฝากถึงการใช้โซเชียลมีเดียของเด็กๆ ในปัจจุบันว่า ต้องใช้อย่างมีประโยชน์ เช่น ด้านการศึกษาและเรื่องของภาษา รวมถึงประวัติศาสตร์ และจะทำอย่างไรให้เป็นคนที่มีวินัยไม่คดโกง เติบโตอย่างมีคุณภาพ และเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง มีวินัยทำให้ประเทศชาติมั่นคงและยั่งยืน สำหรับการดูแลความเรียบร้อยในหน่วยทหารนั้น ทุกวันนี้ตนมั่นใจในสิ่งที่ได้กำกับดูแล และสั่งการ หากมีการกระทำความผิดในหน่วยทหาร ตนจะสั่งลงโทษอย่างจริงจังกับผู้ที่ทำผิดและฝ่าฝืนวินัย เพราะเป็นทหารนอกแถวต้องถูกลงโทษและปลดออกจากความเป็นทหารทันที
เขาเชื่อว่าทหารที่จะเติบโตในยุคนี้มีความเข้าใจว่าทุกวันนี้ต้องปฏิบัติตนและอยู่ในระเบียบวินัยอย่างไร ทุกอย่างต้องปรับตัวและสานต่อนโยบายต่างๆ ที่สำคัญของอดีต ผบ.ทบ. ซึ่งทุกหน่วยก็ให้ความร่วมมือและปฏิบัติเป็นอย่างดี
"ผมเชื่อว่าน้องๆ หลายคนที่แต่งกายชุดทหารก็อยากมีความเป็นทหาร ขอให้มั่นใจได้เลยว่าหนูเลือกในอาชีพที่ถูกแล้ว ขอให้ดู พล.อ.ประยุทธ์เป็นตัวอย่าง ซึ่งเป็นทั้งทหารและนักปกครองที่ดี” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |