"บิ๊กแดง" ฮึ่ม! กลุ่มอยากเลือกตั้งถูกสั่งให้มาค้านเลื่อนเลือกตั้ง ก็คิดอยู่ในโหมดเดียว ไม่มององค์ประกอบอื่น มันมีคนประเภทนี้ในสังคมไทย  เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำให้เกิดความวุ่นวาย ด้านโบว์อยากเลือกตั้งซัดกลับทันที การให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ.มีเนื้อหาที่น่าละอายแก่ใจเป็นอย่างยิ่ง ยันไม่มีใครสั่ง เพราะยืนอยู่บนหลักการประชาธิปไตยพื้นฐาน ระบุ คสช.ยกพระราชพิธีมาเป็นข้ออ้างที่คิดว่ามีขนาดใหญ่พอจะกลบเจตนาแฝงทั้งหมดเพื่อการสืบทอดอำนาจได้

    เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงการเลือกตั้งและพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้กำชับและมอบแผนการปฏิบัติงานต่างๆ ผ่านการประชุมในช่วงที่ผ่านมาแล้ว 3 ครั้ง โดยสั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมและทดสอบแผนงาน รวมทั้งทดสอบสถานการณ์ ทั้งเครื่องมือและกำลังพลตามจุดต่างๆ ขอให้เชื่อมั่นว่าทำพิธีที่เป็นมงคลต่อคนทั้งชาติและการเลือกตั้งนั้น มีความสำคัญทั้งสองอย่าง ขอความร่วมมือประชาชนช่วยฟังข้อมูลข่าวสารจากสื่อที่เชื่อถือได้ และจากสื่อของรัฐ
    เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่รณรงค์ไม่ให้มีการเลื่อนเลือกตั้งนั้น ผบ.ทบ.ตอบว่า ต่างคนต่างความคิด คนบางคนคิดอย่างนี้ และโดนสั่งให้มาทำอย่างนี้ ก็คิดอยู่ในโหมดนี้อย่างเดียว ไม่ได้มององค์ประกอบต่างๆ ว่าจะมีผลอย่างไร ไม่ได้มองถึงรัฐธรรมนูญและกรอบเวลาที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดไว้แล้ว
    "มันก็มีคนประเภทนี้ในสังคมไทย ผมก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร ถ้าอยากให้เป็นอย่างนี้ อยากจะให้เกิดความวุ่นวาย ก็เป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องทำให้เกิดความวุ่นวายอยู่อย่างนี้ ผมคิดว่าคนที่เขาเข้าใจคงจะรำคาญ ประชาชนที่อยากทำมาหากินตามปกติ และที่มีเหตุผล ว่าทำไมจะต้องเลื่อนเลือกตั้ง ซึ่งผมก็ยังไม่ได้รับทราบ เพราะ กกต. ไม่ได้ประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ก็ตีความกันไป"
    พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า ทุกอย่างมันมีเวลาทุกอย่างมีกรอบเวลา และมีกฎหมายรองรับ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ถ้าไปคิดตาม Timeline ปฏิทิน การเลือกตั้งทุกอย่างก็อยู่ในกรอบเวลา ส่วนงานพระราชพิธี ต้องบอกว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทย แต่คนพวกนี้ก็ไม่เคยคิด อย่างที่บอกคนพวกนี้ก็คิดแบบนี้ จะไปเปลี่ยนเขาก็ไม่ได้
"โบว์"โต้แหลก
    ด้านโบว์ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา แกนนำกลุ่มอยากเลือกตั้ง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana ตอบโต้ทันทีว่า การให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ. มีเนื้อหาที่น่าละอายแก่ใจเป็นอย่างยิ่ง
    1.“เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่รณรงค์ไม่ให้มีการเลื่อนเลือกตั้งนั้น พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ต่างคนต่างความคิด คนบางคนคิดอย่างนี้และโดนสั่งให้มาทำอย่างนี้ ก็คิดอยู่ในโหมดนี้อย่างเดียว ไม่ได้มององค์ประกอบต่างๆ ว่าจะมีผลอย่างไร ไม่ได้มองถึงรัฐธรรมนูญและกรอบเวลาที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดไว้แล้ว”
    ขอถาม ผบ.ทบ.ว่า คำว่า “คิดอย่างนี้และโดนสั่งให้มาทำอย่างนี้” หมายความว่าอะไร ใครสั่ง การยืนยันหลักการประชาธิปไตยพื้นฐานและการปกป้องสิทธิทางการเมืองของตนเอง เป็นสามัญสำนึกที่มีได้ในประชาชนทุกคน ไม่มีมนุษย์คนใดจะสั่งมนุษย์คนไหนให้ต้องการความยุติธรรม มันคือคุณสมบัติติดตัวมนุษย์ทุกคนตั้งแต่เป็นเด็กยังไม่รู้ภาษา ตรงกันข้าม ในฐานะเลขาธิการ คสช. ใครสั่งให้ท่านมาละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชนด้วยเงินภาษีของเรามาเกือบห้าปี
    น.ส.ณัฏฐาโพสต์ว่า เรามององค์ประกอบของรัฐธรรมนูญแน่นอน จึงได้พยายามปกป้องการเลือกตั้งไม่ให้ถูกเลื่อนออกไปถึงจุดเวลาที่จะมีความเสี่ยงที่จะประกาศผลการเลือกตั้งไม่ทันกรอบเวลา 150 วัน อันอาจทำให้การเลือกตั้งต้องถูกสั่งให้เป็นโมฆะในที่สุด ท่านสามารถพูดพล่อยๆ ล้างสมองประชาชน และได้พื้นที่สื่อทั้งหมด ในขณะที่เรามีรายละเอียดชัดเจน แต่การสื่อสารกลับถูกสกัดกั้น
    2."มันก็มีคนประเภทนี้ในสังคมไทย ผมก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร ถ้าอยากให้เป็นอย่างนี้ อยากจะให้เกิดความวุ่นวาย ก็เป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องทำให้เกิดความวุ่นวายอยู่อย่างนี้ ผมคิดว่าคนที่เขาเข้าใจคงจะรำคาญ ประชาชนที่อยากทำมาหากินตามปกติและที่มีเหตุผลว่า ทำไมจะต้องเลื่อนเลือกตั้ง ซึ่งผมก็ยังไม่ได้รับทราบ เพราะ กกต.ไม่ได้ประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ก็ตีความกันไป”
    คนประเภทนี้คือคนประเภทไหน ทุกประเทศประกอบด้วยคนหลากหลายความคิด ในสังคมประชาธิปไตยการชุมนุมโดยสันติวิธีเป็นช่องทางการแสดงออกที่จำเป็นและสำคัญ จึงได้ถูกรับรองไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและในรัฐธรรมนูญไทย มีเพียงเผด็จการเท่านั้นที่พยายามดิสเครดิตทุกทาง ป้ายสีว่าการชุมนุมโดยสันติของเราเท่ากับความวุ่นวาย เพื่อที่ตนจะสามารถทำเลวทรามกับประเทศได้ตามอำเภอใจ ทำไมไม่คิดบ้างว่าประชาชนจะเดือดร้อนรำคาญหรือไม่ ที่รัฐบาล คสช.ได้ยึดอำนาจและบั่นทอนประเทศ ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม อย่างไร้การตรวจสอบมายาวนานเกือบห้าปี
อ้างสื่อถูกปิดกั้น
    3.“ทุกอย่างมันมีเวลา ทุกอย่างมีกรอบเวลา และมีกฎหมายรองรับ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ถ้าไปคิดตาม Timeline ปฏิทิน การเลือกตั้งทุกอย่างก็อยู่ในกรอบเวลา ส่วนงานพระราชพิธี ต้องบอกว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทย แต่คนพวกนี้ก็ไม่เคยคิด อย่างที่ผมบอก คนพวกนี้ก็คิดแบบนี้ จะไปเปลี่ยนเขาก็ไม่ได้"
    เพราะทุกอย่างมีกรอบเวลา และการเลื่อนเลือกตั้งครั้งที่ 5 นี้ มีความสุ่มเสี่ยงสูงที่จะเข้าเงื่อนไขให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ จนรัฐบาล คสช.สามารถยื้ออำนาจต่อไปได้อย่างไม่มีกำหนด เราจึงต้องออกมาปกป้อง ไม่มีใครบอกว่าพระราชพิธีไม่มีความสำคัญ ต้องสำคัญแน่นอน พวกท่านจึงได้ยกมาเป็นข้ออ้างหนึ่งเดียวที่คิดว่าจะมีขนาดใหญ่พอจะกลบเจตนาแฝงทั้งหมดเพื่อการสืบทอดอำนาจได้
    4.“ขอความร่วมมือประชาชนช่วยฟังข้อมูลข่าวสารจากสื่อที่เชื่อถือได้และสื่อของรัฐ” สื่อของรัฐเผด็จการจะเชื่อถือได้อย่างไร ในเมื่ออำนาจที่ไร้การตรวจสอบนั้นเป็นปฏิปักษ์กับผลประโยชน์ของประชาชน วันนี้สื่อทุกสื่อถูกปิดกั้นด้วยคำสั่ง คสช.ที่ละเมิดเสรีภาพสื่อและยังไม่ถูกยกออกไป ซ้ำร้ายเมื่อวันก่อนหัวหน้า คสช.ยังปรามสื่อไม่ให้พื้นที่กับพวกเรา ประชาชนมีหน้าที่ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลที่รอบด้าน สองมือเปล่าของเราเท่านั้น จะหยุดทรราชได้
เผด็จการไม่เคยชนะประชาชน เมื่อใดก็ตามที่ประชาชนตระหนักในศักดิ์ศรีของตนเอง พรุ่งนี้ออกมาพูดคุยกัน แสดงพลังโดยสันติวิธี “ไม่เลื่อน ไม่ล้ม ไม่ต่อเวลา” ที่แยกราชประสงค์
    ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย   โพสต์ข้อความว่า เป็นห่วงทัศนคติของ ผบ.ทบ. นอกจากจะเป็นการพูดโดยไม่ใช้ความคิดแล้ว ผบ.ทบ.ยังขาดความเข้าใจและไม่เคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญอีกด้วย
    ประการแรก การชุมนุมเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ประการต่อมา การที่ประชาชนจำนวนหนึ่งซึ่งรวมผมด้วยไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนการเลือกตั้ง ก็ถือเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ส่วนที่รัฐบาลอ้างว่าหากไม่เลื่อนการเลือกตั้งจะกระทบต่อพระราชพิธีนั้น ก็เป็นเสรีภาพในการแสดงความเห็นของรัฐบาล แต่ประชาชนย่อมมีสิทธิที่จะไม่เห็นด้วยเพราะเชื่อว่าสามารถดำเนินการควบคู่กันได้ก็เป็นเสรีภาพของประชาชน ถ้าไม่เชื่อผมก็ลองสั่งลูกน้องให้เอารัฐธรรมนูญมาตรา 34 และ 44 มาอ่านให้ฟัง
    "สิ่งสำคัญที่ ผบ.ทบ.ต้องเข้าใจคือการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเป็นความชอบธรรม ทุกฝ่ายต้องให้ความเคารพ และไม่ใช่การสร้างความวุ่นวาย ประชาชนย่อมมีสิทธิที่จะเห็นต่างจากรัฐบาลได้เสมอเพราะประเทศไม่ใช่ค่ายทหาร ประชาชนไม่ใช่ลูกน้องรัฐบาล การที่อำนาจซึ่งเป็นของประชาชนถูกคนกลุ่มหนึ่งยึดไปแล้วโยกโย้ไม่ยอมคืน คนที่ ผบ.ทบ.ควรประณามคือคนที่ปล้นสิทธิของประชาชน ปัญหาคือ ผบ.ทบ.มีความกล้าพอที่ยืนข้างประชาชนหรือไม่ ส่วนผมมี" นายวัฒนาระบุ
    นายอภิสิทธิ์? เวชชาชีวะ? หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลระบุห้ามใช้สถานที่ราชการเพื่อการหาเสียงของพรรคการเมืองว่า ขอย้ำให้ กกต.? มาช่วยจัดการเรื่องนี้ เพราะการเลือกตั้งเป็นไปเพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินชี้อนาคตของประเทศ ดังนั้น? อย่าไปสกัดกั้นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ในการให้ข้อมูลกับประชาชน? เพราะยิ่งสกัดกั้น ก็เหมือนผลักให้การแข่งขันลงไปใต้ดิน ซึ่งจะทำให้การเมืองล้าหลังเข้าไปอีก?  
    อีกทั้งขณะนี้มีข้อจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆ ในการนำเสนอข้อมูล ตนจึงขอให้ทบทวน? เพราะมั่นใจว่าไม่มีอะไรไปกระทบความมั่นคง? เช่น? หากเกรงว่าท้องถิ่นจะไปเอื้อพรรคใดพรรคหนึ่ง ก็กำหนดเป็นกติกาเลยว่าสถานที่ที่ท้องถิ่นหรือราชการดูแล ถ้าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการจัดกิจกรรมสาธารณะ เพื่อให้นักการเมืองและประชาชนได้พบปะกัน ก็ต้องเปิดโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน
    เมื่อถามว่า? นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทุกกระทรวงติดตามการนำเสนอนโยบายของพรรคการเมือง เรื่องดังกล่าวถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า? ต้องไปถามนายกรัฐมนตรีว่าจะนำข้อมูลที่ติดตามเอาไปทำอะไร แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ส่วนราชการจะติดตามว่านโยบายของพรรคการเมืองเป็นอย่างไร เพราะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล? เขา?จะได้พร้อมในการสนองนโยบายใหม่ๆ ส่วนที่นายกรัฐมนตรีย้ำให้ดูถึงความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติของนโยบายที่พรรคการเมืองเสนอ? รวมถึงที่มาของงบประมาณนั้น ตนคงตอบแทนพรรคการเมืองอื่น?ไม่ได้แต่สำหรับประชาธิปัตย์? ทำได้จริง
พรรคเพื่อไทยเจ็บปวด
    วันเดียวกันนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้ทักทายชาวอุบลด้วยภาษาอีสานว่า คิดฮอด ดีใจหลายๆ ก่อนจะถามว่า มีความสุขบ่ เขาคืนความสุขให้ทุกศุกร์ สุขบ่ ชาวบ้านตอบว่า บ่ มีแต่คนทุกข์ เป็นหนี้มากขึ้น
    คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เป็นความเจ็บปวดของพรรคเพื่อไทย ที่เห็นประชาชนมีความทุกข์ 4-5 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่รู้ให้เลือกตั้งวันไหน แต่ 17 ปีที่ผ่านมา ที่ทุกครั้งที่กลับมาทำงาน ประชาชนทราบดีว่าพรรคเพื่อไทยทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ทุกครั้ง ราคาข้าว ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น ทำให้ประชาชนรวยขึ้น ต่างจากรัฐบาลชุดนี้ ที่ยิ่งบริหาร ประชาชนยิ่งจน เห็นได้จากการให้ประชาชนขึ้นทะเบียนคนจน ที่เพิ่มขึ้นจาก 13 ล้านคน เป็น 17 ล้านคน จึงน่าแปลกที่การมีคนจนมากถือเป็นผลงาน เช่นเดียวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ประโยชน์ตกอยู่กับเจ้าสัว 
    "พรรคเพื่อไทยเชื่อว่า คงไม่มีใครอยากเป็นคนจน ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เราอยากยืนอยู่ได้บนลำแข้งตนเอง ซึ่งการจะออกจากความทุกข์นี้ได้ คือวันเลือกตั้ง ลุงยังไม่บอกว่าวันไหน แต่เราจะอดทน เลือกวันไหนก็วันนั้น เลือกตั้งครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งอื่น ต้องเลือกให้ท่วม 250 จึงจะชนะ เพราะเขาใช้อำนาจที่ยิ่งใหญ่เขียนกติกาที่เอารัดเอาเปรียบ มีคะแนน ส.ว.250 อยู่ในมือแล้ว แต่ไม่มีอำนาจใดจะยิ่งใหญ่เท่าอำนาจของประชาชน" 
    คุณหญิงสุดารัตน์บอกด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้เลือกเพราะรักใคร ประชาชนต้องเลือกเพราะรักตัวเอง ถามว่าทนสภาพตัวเองไหวไหม อยากเห็นเขาจะคืนความสุขทุกวันศุกร์ไหวไหม อีก 4 ปี อีก 8 ปีไหวไหม เพราะ ส.ว.ที่เลือกมามีอายุ 8 ปี ถ้าเลือกเขาจะมีคืนความสุขอีก 8 ปีไหวไหม ถ้าไม่ไหวจะต้องออกจากความทุกข์ครั้งนี้คือ วันเลือกตั้งต้องไปเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย อุบลฯ ยกจังหวัด ชูสโลแกน "อยู่กับเรากระเป๋าตุง อยู่กับลุงกระเป๋าแฟบ
    นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝากถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าศูนย์ประชุมนานาชาติจังหวัดเชียงราย ที่ก่อสร้างด้วยเงินงบประมาณแผ่นดินจัดเป็นสถานที่ราชการหรือไม่ ทำไมอนุญาตให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดสัมมนาและรับสมัครสมาชิกพรรคได้ ก็ไหนท่านประกาศว่าห้ามใช้สถานที่ราชการทุกแห่งหาเสียง หรือมีข้อยกเว้นให้เฉพาะพรรคพลังประชารัฐเท่านั้นที่ใช้สถานที่ราชการได้ 
         “ถ้ามีการอนุญาตให้พรรคพลังประชารัฐใช้สถานที่ราชการได้ พล.อ.ประวิตรจะตอบสังคมว่าอย่างไร การเลือกตั้งจะมีความเป็นธรรมได้อย่างไร ในเมื่อเกิด 2 มาตรฐานเช่นนี้ เอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ เช่นนี้ จึงขอถามว่า กรณีที่พะเยาและที่เชียงรายสองมาตรฐานหรือไม่ และเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
"ธรรมนัส"แฉกินเองชงเอง
     ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชารัฐ หลังจากที่ถูกวิจารณ์ว่าเรามีอำนาจพิเศษ เปิดเวทีได้แต่พรรคเพื่อไทยกลับทำไม่ได้ คนในพื้นที่จะรู้ดีว่าผู้บริหารของ อบจ.พะเยาเป็นคนของพรรคเพื่อไทยทั้งนั้น ใครจะเข้าไปสั่งหรือแทรกแซงได้ เท่าที่ตนทราบมา เหตุผลในการยกเลิกนั้น ประการแรก สนามกีฬามีพื้นเป็นหญ้า ค่าดูแลปีหนึ่งๆ หลายสิบล้าน ทางสภา อบจ.จึงมีกระทู้ถามถึงความเหมาะสมในการให้คนจำนวนมากเข้ามา อาจจะทำให้พื้นหญ้าเสียหายได้ และในวันนั้นมีคนมาร่วมงานไม่กี่ร้อยคน ต่างจากเวทีพลังประชารัฐที่มีคนมากว่า 5,000 คน ทำให้พวกเขากลัวเสียหน้า เป็นเจ้าของพื้นที่กลับมีคนมาร่วมงานน้อยกว่าพรรคใหม่
        “เรื่องนี้เหมือนเป็นการเล่นลิเก อนุญาตเอง ยกเลิกเอง แล้วมาโยนให้พรรคพลังประชารัฐ ใครๆ ก็รู้ว่า อบจ.พะเยาเราไปแทรกแซงเขาไม่ได้ ส่วนสถานที่ที่เราจัดเป็นลานอเนกประสงค์ที่ให้ทำกิจกรรมได้ ไม่ใช่สถานที่ราชการเหมือนที่พวกเขาใช้ นอกจากนี้กระแสของพรรคพลังประชารัฐในภาคเหนือกำลังแรงมาก จากโพลสำรวจล่าสุด พรรคพลังประชารัฐจะได้ ส.ส.ถึง 41 คน นี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ร้อนใจกลัวแพ้ จึงต้องพยายามสร้างกระแสเพื่อดิสเครดิตพรรคพลังประชารัฐ” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
    ที่ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิป ตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงความพร้อมสู่สนามเลือกตั้งของพรรคชาติพัฒนาว่า มีการเตรียมความพร้อมไว้อย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงแต่รอให้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจนเท่านั้น แต่ก็ไม่มีปัญหา เลือกตั้งวันไหน พรรคชาติพัฒนาก็พร้อมเสมอ แต่ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันรักษาบรรยากาศของความสงบเรียบร้อยด้วย เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีความรู้ ความสามารถ เข้ามาบริหารประเทศเสียที 
    ส่วนการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคชาติพัฒนานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำไพรมารีโหวต ซึ่งพรรคชาติพัฒนามีผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.เข้ามาแล้วประมาณ 350-400 คน โดยจะต้องทำการตรวจสอบคุณสมบัติ และรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคก่อน เพื่อที่จะทำตามขั้นตอนของไพรมารีโหวต ซึ่งคิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยพรรคชาติพัฒนาพยายามที่จะคัดเลือกคนดี มีคุณภาพ และให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนในการพัฒนาประเทศ.