เมื่อมีหมายกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านพระราชพิธีมองเห็นว่าสมควรให้เลื่อนการเลือกตั้งที่เคยกำหนดไว้คร่าวๆ ว่าน่าจะเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ออกไปก่อน เพื่อไม่ให้วันเวลาและบรรยากาศของพระราชพิธีและการเลือกตั้งทับซ้อนกัน โดยมีการนำเอาปฏิทินของพระราชพิธีและปฏิทินของการจัดการการเลือกตั้งทุกขั้นตอนทาบกันดูแล้ว พยายามจัดให้ทั้งพระราชพิธีและการเลือกตั้งสามารถดำเนินไปได้ด้วยดี มีความราบรื่น เป็นที่ประทับใจและพึงพอใจของประชาชน จากการกระทำดังกล่าวทำให้มีดำริว่าน่าจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไประยะหนึ่งที่ไม่ใช่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่เคยพูดไว้ในตอนต้น ทำให้เกิดกระแสการต่อต้านของคนบางกลุ่มที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และมีความพยายามที่จะโยงการเลื่อนการเลือกตั้งให้เป็นประเด็นทางการเมือง กล่าวหาว่าพรรคที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลไม่พร้อมที่จะให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จึงได้อ้างเรื่องพระราชพิธีมาเป็นเหตุของการเลื่อนการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่ถ้าหากพิจารณาเงื่อนไขและสถานการณ์ต่างๆ แล้ว เราทั้งหลายก็น่าจะเข้าใจได้ว่าทำไม่จึงต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อน
    ประการแรกวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ที่พูดกันนั้นเป็นการกำหนดคร่าวๆ ไม่ใช่การประกาศในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเรื่องการกำหนดการเลือกตั้ง ดังนั้น 24 กุมภาพันธ์ 2562 จึงเป็นเหมือนตุ๊กตาที่ยังไม่มีการยืนยันด้วยพระราชกฤษฎีกาอย่างเป็นทางการ และเมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ดูจะไม่เหมาะสม การกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ที่ไม่ใช้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงด้วยการเลื่อนออกไป มิใช่เป็นการยกเลิกไม่ให้มีการเลือกตั้ง และเวลาที่จะเลื่อนออกไปจากที่เคยพูดกันไว้ในตอนต้นนั้นก็คงไม่เกินกว่า 1 เดือน เพื่อให้มีการดำเนินงานการจัดพระราชพิธีที่สำคัญเป็นไปด้วยความราบรื่นเป็นสิริมงคลสำหรับประเทศชาติ การจัดการเลือกตั้งที่ช้าไปกว่าที่เคยพูดคุยกันไว้เพียงเดือนเดียวไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
    ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ให้รายละเอียดให้พวกเราได้รับทราบกันแล้วว่า เมื่อมีการกำหนดวันพระราชพิธีให้เป็นวันที่ 4-5-6 พฤษภาคม 2562 แล้วนั้น การจัดพระราชพิธีดังกล่าวจะต้องมีการดำเนินการหลายๆ เรื่อง 15 วัน ก่อนที่จะถึงวันพระราชพิธี และยังจะต้องมีกิจกรรมต่างๆ ต่อเนื่องอีก 15 วัน ดังนั้นการเลื่อนการเลือกตั้งเพื่อไม่ให้ผลการเลือกตั้ง (ที่อาจจะมีความไม่พอใจหรือไม่ยอมรับกัน) ที่อาจเกิดขึ้นหลังการดำเนินการจัดงานพระราชพิธีน่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว จึงไม่ควรมีการออกมาต่อต้านการเปลี่ยนวันเลือกตั้งที่เลื่อนออกไปเพียงเดือนเดียว และไม่ควรเอาเรื่องการเลือกตั้งโยงกับการเมืองแต่อย่างใด สำหรับเรื่องการต่อต้านการเลือกตั้งนั้นเป็นสิทธิที่ผู้ต่อต้านสามารถทำได้ตามหลักของประชาธิปไตย แต่การจัดกิจกรรมใดๆ และการจะพูดจาอะไรควรจะพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะงานพระราชพิธีครั้งนี้เป็นเรื่องของสถาบันสูงสุดของประเทศที่ประชาชนคนไทยทั้งปวงจะต้องให้ความสำคัญด้วยความภักดี งานพระราชพิธีดังกล่าวมีองค์ประกอบและขั้นตอนอย่างไรก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่รัฐบาลหรือ คสช.กำหนดขึ้นมา แต่เป็นพระราชประเพณีที่ปฏิบัติกันมานานแล้ว เป็นเอกลักษณ์แห่งวัฒนธรรมของชาติ ซ้ำเป็นเรื่องของความเป็นอารยะที่ประเทศทั้งหลายในโลกต่างก็มีพิธีกรรมดังกล่าวด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่มีรายละเอียดของเรื่องงานแตกต่างกันเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อความภาคภูมิใจของประชาชนที่จะมองเห็นว่าประเทศของตนมีเอกลักษณ์แห่งวัฒนธรรมที่จะต้องดำรงรักษาไว้
    ดังนั้น ในการใช้สิทธิเสรีภาพในการจัดกิจกรรมต่อต้านการเลือกตั้ง หรือจะใช้ข้อความแสดงการต่อต้านใดๆ ก็ควรจะพิจารณาใคร่ครวญให้ดีว่าเป็นการกระทำหรือการพูดจาที่เหมาะสมหรือไม่ ไม่ควรแสดงความคิดเห็นที่เป็นการลบหลู่กิจกรรมและขั้นตอนใดๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธี การออกมาขู่ว่าหากมีการเลื่อนการเลือกตั้งไปจะต้องมีเรื่องแน่ เพราะประชาชนจะไม่ยอม จะต้องมีความรุนแรงเกิดขึ้น การพูดเช่นนี้เป็นการข่มขู่อย่างชัดเจน เพียงแต่เลื่อนการเลือกตั้งไม่ได้ยกเลิกการเลือกตั้ง ทำไมจะต้องออกมาต่อต่านด้วยความรุนแรง และท่านที่พูดจาข่มขู่และอ้างประชาชนนั้น ท่านควรจะพูดให้ชัดเจนเลยว่าหมายถึงประชาชนกลุ่มไหน พวกไหน เพราะเท่าที่ติดตามการสื่อสารบนพื้นที่ Social Media เราจะพบว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นสมควรว่าควรจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อน แล้วประชาชนที่ท่านอ้างว่าจะออกมาก่อความรุนแรงเป็นประชาชนกลุ่มใด บอกมาให้ชัดเจนเพื่อให้ทางผู้ดำเนินการจัดการพระราชพิธีจะได้เข้าไปชี้แจงให้พวกเขาเข้าใจ และพร้อมที่จะเห็นดีเห็นงามกับการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปสักระยะหนึ่งก่อน เพื่อบรรยากาศของงานพระราชพิธีที่สำคัญในครั้งนี้
    สำหรับเรื่องของคำว่าจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จที่เป็นปัญหาอยู่นั้น น่าจะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้ชัดเจนไปเลยว่า หมายถึงการจัดให้คนเข้าคูหาไปกาบัตรเท่านั้น หรือหมายถึงจะต้องมีการประกาศผลให้ครบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 อย่าถามความคิดเห็นคนนั้นที คนนี้ที แล้วก็ตีความกันไปต่างๆ นานา คนที่อยากให้เลื่อนออกไปก่อนก็มักจะตีความว่า แค่จัดให้คนเข้าคูหากาบัตรก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ก็ถือว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญแล้ว และยังเหลือเวลาอีก 60วัน  ก่อนที่จะมีการประกาศผล แต่คนที่ต้องการให้เลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ก็จะตีความว่าการจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จนั้น หมายถึงต้องประกาศผลผู้ชนะการเลือกตั้งทุกเขตครบตามจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนด การเถียงกันไปมาของนักวิชาการในลักษณะ “กูรู้” ที่ไม่ใช่ “กูรู” นั้น คงไม่ดีเท่ากับการให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้ชัดเจนและแน่นอนไปเลย
    เวลานี้มีคนพยายามปล่อยข่าวลือที่ไม่เป็นผลดีกับรัฐบาลและ คสช. ด้วยการกล่าวหาว่าการเลื่อนการเลือกตั้งนั้น อาจจะหมายถึงการยกเลิกไม่ให้มีการเลือกตั้งเอาเสียเลย เพื่อที่จะกล่าวหารัฐบาลและ คสช.ว่ามีความพยายามที่จะสืบทอดอำนาจและไม่รักษาสัญญาที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง แต่หากเราพิจารณาด้วยใจเป็นธรรมแล้ว ไม่มีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง เพียงแต่ให้เลื่อนไปก่อนเท่านั้น อย่าสร้างความวุ่นวายให้กลายเป็นปัญหาที่ทำให้บรรยากาศไม่เอื้อกับการเลือกตั้งเลยนะ.