ว่าด้วย..."กฎอนิจจะลักษณะ"


เพิ่มเพื่อน    

                                                       (1)
    ไม่ได้มีเวลาไปเที่ยว ไปเปลี่ยนบรรยากาศพักผ่อนหย่อนใจ เปิดหู-เปิดตาแบบ 7 วันซ้อนๆ อย่าง ป๋าเปลว สีเงิน ทั่น...อะไรต่อมิอะไรมันเลยออกทาง ตันๆ อยู่พอสมควร ในช่วงหลังๆ นี้ คือไม่รู้จะแหกกรอบ ฉีกกรอบ ไปในแนวไหน ถึงจะไม่วนไป-วนมาอยู่กับเรื่องเก่าๆ ซ้ำๆ ที่ต้องเขียนมาเขียนไปตลอดช่วงเกือบ 40 กว่าปีของการขีดๆ เขียนๆ ในแวดวงสื่อฯ แต่ละชนิด แต่ละประเภท...
                                                     (2)
    ยิ่งถ้าเป็นเรื่อง การเมือง ประเภทการเลือกตั้งด้วยแล้ว...ยิ่งออกจะเป็นอะไรที่ เอียน ระดับแทบล้นคอหลอยย์ย์ย์ก็ว่าได้ คือไม่ว่าจะเกิดพรรคเก่า พรรคใหม่ นักการเมืองหน้าใหม่ หน้าเก่า อีกซักกี่ล็อตต่อกี่ล็อต โดยทั่วๆ ไปมันมักออกไปทาง เหมียนเดิม หรือไม่ได้ผิดแผก แตกต่าง ไปจากเท่าที่เคยเป็นมามากซักเท่าไหร่ การที่ต้องหยิบเอาเรื่องราวทำนองนี้ ออกมาขีดๆ เขียนๆ ก็เลยไม่ค่อยได้ก่อให้เกิดแรงกระตุ้น แรงบันดาลใจ แต่อย่างใด ถ้าไม่เป็นเพราะ ภาระหน้าที่ เป็นตัวบังคับ คงเตลิดเปิดเปิงไปไหนต่อไหนไปนานแล้ว...
                                                   (3)
    แต่ก็นั่นแหละ...งานเขียนประเภทวรรณกรรม กาพย์ กลอน กวี เรื่องสั้น นวนิยาย ที่เคยทิ้งร้างมานานแล้ว ไม่เพียงแต่ยากซ์ซ์ซ์จะย้อนกลับไปรื้อฟื้น ด้วยเหตุเพราะ ต่อมศิลปิน มันอาจจะฝ่อ หรืออาจหดหายไปหมดแล้ว ก็ออกจะเป็นงานเขียนที่ไม่ค่อยสอดคล้องกับสภาวะความเป็นไปของโลก ของสังคม มากมายซักเท่าไหร่ คือมันแทบไม่มีใครคิดจะอ่านอีกต่อไป อาจเป็นเพราะ ต่อมศิลปิน ในหมู่ผู้คนยุคใหม่ มันถูกทำลายด้วยคลื่นรังสีวิทยุความถี่ต่ำ ด้วยสัญญาณไว-ไฟ อินเทอร์หน่ง อินเทอร์เน็ต หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่ งานเขียนประเภทนี้จึงออกไปทาง ตายแล้ว พอๆ กับ เดอะ เดย์ เดอะ มิวสิก ดาย อะไรประมาณนั้น...
                                                       (4)
    แต่ครั้นจะหันไปศึกษา ค้นคว้า ผลิตงานเขียนประเภทออกไปทางวิชาการ วิชาเกิน ออกมาเป็นเล่มๆ ไม่ว่าจะเป็นประเภทประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา การเมือง เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ไปจนเรื่องที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางเทคนิค อย่างเรื่องแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ประเภทเอไอ, นาโน, พันธุวิศวกรรม ฯลฯ อะไรทำนองนั้น แม้เป็นอะไรที่น่าสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ สร้างแรงบันดาลใจได้พอสมควร แต่ด้วยเหตุที่บรรดา สำนักพิมพ์ ทั้งหลาย ที่เคยพร้อมจะ เสี่ยงภัย รองรับงานเขียนประเภทนี้ ท่านหนีไม่พ้นต้อง ปิดตัวเอง กันไปหมดแล้ว!!! ดังนั้น...ไม่ว่าจะเขียนแบบไหน อย่างไร แต่เมื่อดันไม่มีใครพิมพ์ ใครซื้อ ใครจัดจำหน่าย ก็เลยจำต้องระงับความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ ของตัวเองลงไปโดยปริยาย เพื่อไม่ให้กลายเป็น ภาระ สำหรับพรรคพวกทั้งหลาย ที่ต้องเจ๊งแล้ว-เจ๊งอีก กันไปเป็นรายๆ...
                                                      (5)
    ส่วนจะหันไปเอาดีด้วยการเขียนไลน์ เขียนเฟซบุ๊ก อย่างคุณพี่ เสธ.ไพศาล อาจารย์ สมเกียรติ เต๊กเฮงหยู คุณ ทนง แฟนคลับ หรือโดยเฉพาะคุณน้า สุทธิชัย หยุ่น ของเรา ที่ยังคงมี ไฟ รุนแรงเอามากๆ ฯลฯลฯลฯ ซึ่งออกจะเป็นอะไรที่ระเบิดเถิดเทิงและ เอาเรื่อง พอสมควร แต่ก็ด้วยเหตุที่ตัวตนของตัวเอง ดันเป็นพวก ลัดไดท์ (Luddites) มานานแล้ว คือพวกที่ไม่ได้เอาเรื่อง เอาราว ทางเทคโนโลยี แถมหนักไปทาง ต่อต้าน ซะอีกต่างหาก ก็เลยต้องระงับความปรารถนา แรงจูงใจ ลงไปโดยดุษณี หันไปนั่งอ่าน นั่งฟัง การบ่น การระบาย ของใครต่อใคร น่าจะเหมาะกว่า...
                                                    (6)
    อย่างไรก็ตาม...ไม่ว่าแนวโน้มของการเขียน การอ่าน หรือ การสื่อสาร ระหว่างผู้คนในโลก ในสังคม มันจะเป็นไปในแนวไหนก็แล้วแต่ โดยกฎเกณฑ์ความเป็นไป ของโลก ของธรรมชาติ คงไม่ได้ผิดแผก แตกต่าง ไปจากเดิมนั่นแหละทั่น คือต่างต้องเป็นไปในแบบ เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-และดับไป อะไรที่เหมือนจะใหม่ๆ เหมือนจะผิดแผก แตกต่าง ไปจากเดิม แท้ที่จริง...ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งเก่าๆ เดิมๆ หรือเป็นสิ่งที่เคยมีมาก่อน ไปด้วยกันทั้งสิ้น เหมือนอย่างที่ท่าน ปัญญาจารย์ ท่านได้ร่ายโศลกไว้ยาวเหยียด ใน พระคัมภีร์ไบเบิล ภาคพันธสัญญาเก่าที่ขึ้นต้นว่า...“ดวงอาทิตย์ขึ้น-และดวงอาทิตย์ตก แล้วไปถึงที่ซึ่งขึ้นมานั้น-ลมพัดไปทางใต้ แล้วเวียนกลับไปทางเหนือ ลมพัดเวียนไปเวียนมา แล้วก็พัดไปตามทางเวียนของมัน-แม่น้ำไหลไปสู่ทะเล แต่ทะเลก็ไม่เต็ม แม่น้ำไหลไปสู่ที่ใด ก็ไหลไปสู่ที่นั่นอีก...สิ่งที่เป็นขึ้นแล้วคือสิ่งที่จะเป็นขึ้นอีก-สิ่งที่ทำกันแล้ว คือสิ่งที่ต้องทำกันอีก-และไม่มีสิ่งใดภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ที่จะเป็นสิ่งใหม่...ฯลฯ” ประมาณนั้น...
                                                    (7)
    และด้วยเหตุที่แต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง มักเป็นไปตาม มุมมอง ที่ท่าน ปัญญาจารย์ ท่านได้ระบุไว้ ท่านจึงให้ข้อสรุปเอาสั้นๆ ประมาณว่า...“ข้าพเจ้าได้เห็นภายใต้ดวงอาทิตย์อีกว่า คนเร็ว...ไม่ชนะในการวิ่งแข่งเสมอไป ฝ่ายมีกำลังไม่ชนะสงครามเสมอไป คนฉลาดไม่รับประทานเสมอไป คนมีความเข้าใจไม่ร่ำรวยเสมอไป ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้รับความโปรดปรานเสมอไป เพราะวาระและโอกาสมีมาถึงเขาทุกคน แต่ด้วยเหตุเพราะมนุษย์ไม่รู้ถึงวาระของตน ปลาติดอยู่ในอวนร้ายฉันใด นกถูกดักอยู่ในบ่วงแร้วฉันใด เมื่อวาระอันร้ายมาถึงบรรดาบุตรมนุษย์ เขาก็ย่อมถูกวาระอันร้ายดักจับติดโดยฉับพลัน-ทันที ฉันนั้น...”
                             -----------------------------------------------------------
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"