12 ม.ค.62 - เวลา 08.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2562 พร้อมด้วย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว. ศึกษาธิการ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ โดยทันทีที่มาถึงนายกฯสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นนายกฯกล่าวให้โอวาทว่า ทุกภาคส่วนได้จัดกิจกรรมเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเด็กๆ วันนี้เราต้องมีความรัก ความสามัคคี เยาวชนใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ และเป็นพลเมืองดีของสังคม เพื่อธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
นายกฯกล่าวว่า ต้องร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนาประเทศ ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นเครื่องมือเพื่อให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า เราต้องสร้างความฝันของเราให้เป็นความจริง อย่างที่บอกว่า ไม่ต้องทำลายความฝันของเด็ก และเด็กต้องไม่ทำลายความฝันของพ่อแม่ ผู้ใหญ่ ต่างฝ่ายต่างต้องรักษาความฝันความหวัง เพื่อให้ทุกอย่างได้กลายเป็นความจริง รัฐบาลตั้งใจส่งเสริม ให้เด็กมีความรู้คู่คุณธรรม รู้ว่าอะไรดีเราก็ทำ อะไรที่ไม่ดีเราก็ไม่ทำ การทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่เรามีความสุข มีรายได้เพิ่มขึ้น มีความสุขใจ แบบนี้ไม่ได้ ต้องมีคุณธรรม มีความเป็นจิตอาสา ตามพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ตนอยากให้มุ่งเน้นเรื่องการศึกษาในระบบและนอกระบบ ต้องมีการประเมินคุณภาพ และเรื่องการศึกษานอกโรงเรียน(กศน.) ถ้าทุกคนมุ่งหวังให้คนเข้าไปในระบบด้วยการให้เงินไปเรียน เขาเรียนไม่ได้อยู่ดี เพราะเวลาเขาไม่มี นั่นคือความจำเป็นของเขา ไม่ใช่ไม่มีเงินถึงไม่เรียน เพราะฉะนั้น กศน.จะต้องเน้นการศึกษาของผู้ที่อยู่ตามโรงงาน และตั้งเป้าขยายในพื้นที่มีโรงงานเพื่อยกระดับ
"เวลานี้มีคนออกมาพูดว่ามีคนนอกระบบการศึกษา 5 แสนคน หรือ 5 ล้านคน จะหาเงินให้เรียน นั้นคือพูดสร้างความฝันแล้วเป็นจริงไม่ได้ ฝากพ่อแม่ด้วย เพราะวันนี้มีการพูดหลายอย่างจะทำโน่นทำนี่ มันใช่เหตุผลจริงๆหรือเปล่า ความเท่าเทียมคือเรื่องของโอกาส การจัดระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินให้ทุกคนเข้าถึงโอกาส การศึกษา ด้วยวิธีอะไรก็แล้วแต่ หาเวลาดูแลผู้มีรายได้น้อย ซึ่งทุกระทรวงมีหมด ให้ความเป็นธรรมกับเขา แต่เท่าเทียมกันหมดไม่ได้ เพราะพื้นฐานต่างกัน ไม่มีทางเท่ากันได้ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ทั้งโลกเป็นแบบนี้ ต้องมีศิลปในการบริหาร อย่าพูดเหมารวมทั้งหมด มันทำไม่ได้จริง ทุกรัฐบาลต้องมีหน้าที่สร้างเกราะกำบังเหล่านี้ให้พี่น้องปวงชนชาวไทยมีความรัก ความสามัคคี ทุกคนต้องมองผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก สิ่งเหล่านี้จะทำให้ประเทศไทยก้าวหน้า สมอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 คาดหวังการพัฒนาบุคลากรสำคัญที่สุดของประเทศเวลานี้"นายกฯกล่าวก่อนจะได้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล
ต่อมาเวลา 09.50 น. ที่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม พล.อ.ประยุทธ์ เยี่ยมชมพื้นที่จัดกิจกรรมเยาวชนสัมพันธ์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมกล่าวให้โอวาทว่า ขอบคุณทุกรอยยิ้มคือแรงบันดาลใจให้กับนายกรัฐมนตรี บุคลากรทุกภาคส่วน ได้ทำหน้าที่เพื่อเราทุกคน สิ่งสำคัญคือการปลูกฝังให้มีระเบียบวินัย มีความรู้ มีคุณธรรม ขอให้ช่วยกันทำต่อไป ซึ่งตรงตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระราชทานลงมา ดังนั้นเราต้องทำต่อไป สังคมเปลี่ยนแปลงเราจึงจำเป็นต้องร่วมใจในการทำงานร่วมกัน ผู้ใหญ่ทุกคนต้องปรับตัวเองด้วย ทำอะไรให้เด็กมีส่วนร่วมเยอะขึ้น ทั้งหมดคือการสร้างเด็กให้เป็นคนดีของสังคม
การพัฒนาดิจิทัลทุกวันนี้ ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี ดังนั้นต้องยกให้เด็กดูว่าสิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด เราต้องพัฒนาตัวเองไปสู่อนาคต เพราะเราต้องเจอกับรายได้ที่ไม่พอเพียง ไม่ใช่ไม่เท่าเทียม อย่าไปพูดจากันให้เสียหาย และเราต้องติดตามสถานการณ์โลก ถ้าไม่ติดตามแล้วมาพูดตรงนี้ก็จะเป็นเหมือนเดิมที่ผ่านมา ฝากบอกพ่อแม่ด้วย รัฐบาลนี้ทำเต็มที่แล้ว ส่วนรัฐบาลหน้าก็เป็นเรื่องของรัฐบาลหน้า และขอให้มีหลักคิดด้วยว่า มันเป็นไปได้หรือไม่ อย่าคิดแต่เพียงว่าเราจะได้อะไร อย่าพูดอะไรที่จะยิ่งทำให้ประเทศเสียหาย
ขณะที่เด็กๆได้กล่าวว่า ขอบคุณลุงตู่
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |