‘กกต.’คลอดรวด9ฉบับ คุมยิบ‘ค่าใช้จ่าย-ป้าย’


เพิ่มเพื่อน    

 “อิทธิพร” ออกประกาศและระเบียบรวด 9 ฉบับ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 ม.ค. กำหนดรายละเอียดยิบเรื่องหาเสียง และติดป้าย “ดารา-นักร้อง” รายได้หายเพราะห้ามจ้าง งดชูอดีตนายกฯ แต่ปล่อยผีโลกออนไลน์ กำหนดเวลาออกวิทยุ-ทีวี พร้อมจัดเวทีประชันนโยบาย เคาะแล้วค่าใช้จ่ายต่อคน 1.5 ล้าน พรรค 35 ล้าน

เมื่อวันศุกร์ ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ระเบียบและประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ลงนามโดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. รวดเดียวจำนวน 9 ฉบับ ประกอบด้วย 1.ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พ.ศ.2561 2.ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาทำการ พ.ศ.2561 3.ระเบียบ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 4.ระเบียบ กกต.ว่าด้วยแบบบัญชีรายรับและรายจ่ายค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 5.ระเบียบ กกต.ว่าด้วยจำนวน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของการให้ตามประเพณีหรือเมื่อมีเหตุอันสมควร และการยื่นคัดค้านเกี่ยวกับการบันทึกค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป พ.ศ.2561  
6.ระเบียบ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบรายการค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 7.ประกาศ กกต.เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำ สถานที่ปิดประกาศเกี่ยวกับการเลือกตั้งและสถานที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 8.ประกาศ กกต.เรื่องประเภทของค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 และ 9.ประกาศ กกต. เรื่องกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 โดยทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 ม.ค.นี้
ทั้งนี้ เนื้อหาที่น่าสนใจในระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งฯ นั้นมีทั้งสิ้น 4 หมวด 18 ข้อ ซึ่งในหมวด 1 วิธีการหาเสียงเลือกตั้งนั้น ที่น่าสนใจคือ ข้อ 6 ที่ได้กำหนดในเรื่องการแจกเอกสาร ประกาศ หรือแผ่นป้าย ซึ่งนอกจากภาพของผู้สมัครแล้ว สามารถนำภาพของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคการเมือง และสมาชิกพรรคการเมืองลงโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งได้เท่านั้น 
ส่วนหมวด 2 การหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้เปิดกว้างให้หาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วยตนเอง หรือมอบหรือว่าจ้างบุคคลหรือนิติบุคคลก็ได้ทั้งเว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, ยูทูบ, แอปพลิเคชัน, อีเมล, เอสเอ็มเอส และสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นทุกประเภท ในขณะที่หมวด 4 ได้กำหนดลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง และห้ามใช้ผู้ประกอบอาชีพหรือเป็นเจ้าของกิจการเกี่ยวกับรายการทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ สื่อมวลชน สื่อโฆษณา เช่น นักแสดง นักร้อง นักดนตรี พิธีกร และสื่อมวลชน เป็นต้น ใช้ความสามารถหรือวิชาชีพเพื่อเอื้อประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งแก่ผู้สมัครอื่นหรือพรรคการเมือง แต่ไม่บังคับแก่ผู้สมัครที่ใช้ความรู้ความสามารถทางศิลปะของตน หาเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเองโดยไม่ใช้อุปกรณ์ในการแสดง และห้ามหาเสียงเลือกตั้งโดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย หรือปลุกระดม
    ในขณะที่ระเบียบ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.นั้น มี 2 หมวด 16 ข้อ โดยได้กำหนดให้ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดขอความร่วมมือผู้บริหารสถานีวิทยุกระจายเสียงในจังหวัดนั้นให้การสนับสนุนการจัดสรรเวลาให้แก่ผู้สมัครคนละไม่เกิน 5 นาที และให้เลขาธิการ กกต.ขอความร่วมมือผู้บริหารสถานีวิทยุโทรทัศน์ให้การสนับสนุนจัดสรรเวลาให้พรรคการเมืองพรรคละไม่เกิน 10 นาที ส่วนการจัดเวทีประชันนโยบายบริหารประเทศสำหรับพรรคการเมืองนั้น ได้กำหนดให้พรรคการเมืองแจ้งความประสงค์ต่อเลขาฯ  กกต. นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไปมีผลบังคับใช้ โดยจะแบ่งกลุ่มประชันนโยบายคือ กลุ่ม 1 พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครตั้งแต่ 300-350 เขตเลือกตั้ง, กลุ่มที่ 2 พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครตั้งแต่ 200-299 เขต และกลุ่มที่ 3 พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครน้อยกว่า 200 เขต 
“การจัดเวทีประชันนโยบายบริหารประเทศ ให้หัวหน้าพรรค หรือสมาชิกพรรค หรือบุคคลซึ่งพรรคเสนอให้เป็นนายกฯ เป็นผู้ประชันนโยบาย โดยหากกลุ่มใดมีมากกว่า 4 พรรคขึ้นไปให้จับสลากแบ่งกลุ่ม เพื่อให้แต่ละกลุ่มมีนพรรคการเมืองตั้งแต่ 2 พรรค แต่ไม่เกิน 4 พรรค” ระเบียบกำหนดไว้
    ส่วนประกาศ กกต.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำ สถานที่ปิดประกาศเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
และสถานที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น มี 2 หมวด 11 ข้อ เนื้อหาที่สำคัญคือเรื่องของการปิดประกาศ ซึ่งได้กำหนดให้ไม่เกิน 10 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น โดยกำหนดเป็นแนวตั้ง มีขนาดความกว้างไม่เกิน 30 เซนติเมตร และมีขนาดความสูงไม่เกิน 42 เซนติเมตร (กระดาษขนาด เอ 3) และให้ผู้สมัครปิดประกาศเกี่ยวกับการเลือกตั้งตามสถานที่ที่กำหนดได้สถานที่ละ 1 แผ่น ในขณะที่แผ่นป้ายนั้น กำหนดให้ผู้สมัครมีไม่เกิน 2 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น และให้พรรคการเมืองทำแผ่นป้ายไม่เกิน 1 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่พรรคการเมืองส่งผู้สมัคร โดยมีขนาดความกว้างไม่เกิน 130 ซม. และยาวไม่เกิน 245 ซม.  
    “ผู้สมัครและพรรคการเมืองต้องไม่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งทับซ้อนหรือปิดบังแผ่นป้ายเกี่ยวกับเลือกตั้งของผู้สมัครอื่นหรือพรรคการเมืองอื่น หรือติดแผ่นป้ายนอกบริเวณที่กำหนด ส่วนที่ทำการ หรือสาขา หรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัด หรือศูนย์อำนวยการการเลือกตั้งได้ ติดแผนป้ายได้สถานที่ละ 1 แผ่น โดยมีขนาดความกว้างไม่เกิน 400 ซม.และยาวไม่เกิน 750 ซม.”
    นอกจากนี้ ยังมีประกาศ กกต.เรื่อง กำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีเนื้อหา 8 ข้อ โดยเนื้อหาที่น่าสนใจคือการกำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งแต่ละคนต้องใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่เกิน 1,500,000 บาท และพรรคการเมืองต้องใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่เกิน 35,000,000 บาท ส่วนกรณีมีการเลือกตั้งใหม่ในเขตใดก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง หากต้องรับสมัครใหม่ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ใช้จ่ายไม่เกิน 750,000 บาท แต่หากไม่ต้องรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่ ให้ใช้จ่ายไม่เกิน 500,000 บาท”
“กรณี กกต.ประกาศให้เลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งใดที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใดเป็น ส.ส. (โนโหวต) และต้องรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่ ผู้สมัครแต่ละคนต้องใช้จ่ายได้ไม่เกิน 750,000 บาท และหากประกาศผลแล้ว แต่มีเหตุให้ต้องเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ผู้สมัครรับเลือกต้องใช้จ่ายไม่เกิน 1,500,000 บาท”
ส่วนประกาศ กกต.เรื่องประเภทของค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น มีเพียง 3 ข้อ โดยเป็นการลงรายละเอียดของค่าใช้จ่าย ซึ่งมีทั้งค่าใช้จ่ายสมัครรับเลือกตั้ง, ค่าจ้างแรงงาน, ค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียง, ค่าจ้างในการปิดป้ายโฆษณาหาเสียง, ค่าจ้างทำของ, ค่าโฆษณาในสื่อต่างๆ, ค่าจัดทำป้าย และค่าใช้จ่ายในการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"