11 ม.ค.62 - ความคืบหน้ากรณีรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมี ร.ต.อ.เดชา เปรียบสม รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เป็นคนขับ เสียหลักข้ามเลนพุ่งชนประสานงากับรถพยาบาลส่งต่อผู้ป่วย (รีเฟอร์) ของ รพ.ประโคนชัย บนถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ช่วงระหว่างบ้านไทร-ไพบูลย์ ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย ส่งผลให้ น.ส.สุดารัตน์ เชื่อมาก อายุ 25 ปี พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนเขาคอก ที่นั่งมาในรถเสียชีวิต และ น.ส.จรวยพร ปาประโคน อายุ 40 ปี พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลประโคนชัย บาดเจ็บสาหัส รวมทั้งยังมีคนขับรถรีเฟอร์ หญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อ และญาติ ได้รับบาดเจ็บอีก 5 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 15 ต.ค.61 ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านมานานกว่า 2 เดือน
ล่าสุดวันนี้ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 , พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ,พ.ต.อ.สุรชัย สังขพัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ /รักษาราชการแทน ผกก.สภ.ประโคนชัย เป็นผู้แทนไปเยี่ยม น.ส.จรวยพร ปาประโคน พยาบาลวิชาชีพ รพ.ประโคนชัย ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องผ่าตัดสมองและม่ามจากเหตุการณ์ดังกล่าว หลังออกจาก รพ.เมื่อกลางเดือน พ.ย.61 มาพักรักษาตัวที่บ้านเลขที่ 269 หมู่ 1 อ.ประโคนชัย
พร้อมกันนี้ยังได้แจ้งผลการดำเนินคดีอาญาและการดำเนินการทางวินัยกับผู้ต้องหา รวมถึงการประสานขอทนายความในการไปขึ้นศาลนัดแรก (21 ม.ค.62)และช่วยติดตามเรื่องเงินประกันภัย, ค่ารักษาพยาบาล, เงินช่วยเหลือตามสิทธิ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย พร้อมทั้งได้เป็นตัวแทนมอบเงิน จำนวน 50,000 บาท ให้กับ น.ส.จรวยพร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตด้วย
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ก็ได้สั่งกำชับให้เร่งรัดทำคดีดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งทางตำรวจในพื้นที่เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเช่นกัน จนพนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนคดีได้อย่างรวดเร็ว ส่งอัยการจังหวัดตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.2561 ที่ผ่านมา และทางอัยการก็ได้พิจารณายื่นฟ้องต่อศาลแล้วในข้อหา “ขับรถยนต์โดยประมาทขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต” เมื่อวันที่ 30 ต.ค.
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ กล่าวต่อว่าศาลได้นัดสืบพยานครั้งแรกในวันที่ 21 ม.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งที่ผ่านมาทางตำรวจได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ ส่วนการดำเนินการทางวินัยได้มีการตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงตามขั้นตอน ผลการสืบข้อเท็จจริงเบื้องต้นกรรมการมีความเห็นว่ามีความผิดวินัยร้ายแรง และหากมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าผิดวินัยร้ายแรงจริง ก็มีโทษให้ออก ไล่ออก และปลดออก.
สำหรับตัวของ ร.ต.อ.เดชา เปรียบสม รองสารวัตรปราบปราม สภ.ประโคนชัย ผู้ก่อเหตุ ก็ได้ถูกสั่งย้ายไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์จนกว่าจะสิ้นสุดคดี ส่วนที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าตำรวจอาจจะมีการช่วยเหลือกันนั้น ก็ขอชี้แจงว่าทางตำรวจทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ทั้งเร่งรัดดำเนินการอย่างเต็มที่และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |