ชนชั้นนำในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน จำนวนไม่น้อย มองไม่เห็นหัวประชาชนมากขึ้นไปทุกที
ปรากฏการณ์เปรมชัย แสดงให้เห็นชัดเจนว่า การขาดจริยธรรม ยังเป็นปัญหาร้ายแรงที่แทบไม่ได้รับการแก้ไขใดๆ เลย
วันนี้ประชาชนต้องการอะไร?
สังคมไทยมาถึงยุคโหยหาจริยธรรมอย่างรุนแรง
แทบจะลงแดงตายกันแล้ว!
เพราะเราผ่านยุครัฐบาลโคตรโกง นักการเมืองขี้ฉ้อ ข้าราชการเบียดบังของหลวง มาแบบเลือดสาดแผ่นดิน
และวันนี้ปัญหาก็ยังคงวนเวียนอยู่ ไม่ได้หายไปไหน
กรณี "เปรมชัย กรรณสูต" คือตัวอย่างของการปฏิเสธคำว่า "จริยธรรม"
ในขณะที่ประชาชนเริ่มออกมาถามหาความรับผิดชอบทางจริยธรรม ที่มากกว่าโทษทางกฎหมายที่ "เปรมชัย" ได้รับจากการเข้าไปล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
แต่มีคำอธิบายที่ไม่เข้าท่าจากหน่วยงานที่ควรยึดจริยธรรมเป็นที่ตั้ง
ปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและส่งเสริมความรู้ผู้ลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ชี้แจงว่า
“จากข้อมูลที่ปรากฏในข่าว กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องส่วนตัว ที่ยังต้องมีกระบวนการในการพิจารณาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สำหรับการเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนนั้น ตามกฎหมายหลักทรัพย์ฯ คุณสมบัติของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน จะพิจารณาในเรื่องการบริหารงาน ความซื่อสัตย์สุจริต และความเป็นมืออาชีพในการดำเนินกิจการของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก ซึ่งในเบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีส่วนใดเกี่ยวข้องกับการบริหารงานของบริษัทจดทะเบียน”
หรือแม้แต่ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า
“เรื่องนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และไม่มีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนด้วย นั่นเพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวผู้บริหารคนเดียว ไม่ได้กระทบภาพรวมของบริษัท ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหา และมองว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีผลต่อตัวนักลงทุน กลับเห็นว่าตอนนี้เป็นจังหวะที่ดีที่นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนมากกว่า”
การที่ประชาชนพากันออกมาเรียกร้องให้รัฐบอยคอตบริษัทอิตาเลียนไทย ที่ได้งานประมูลจากรัฐแต่ละปีมูลค่านับแสนล้านบาทนั้น ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ บริษัทอิตาเลียนไทยโดยตรง แต่ประชาชนต้องการเห็นความรับผิดชอบทางจริยธรรมของ "เปรมชัย"
ถ้า "เปรมชัย" ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) อิตาเลียนไทยก็จะต้องรับไปเต็มๆ แล้วผู้ถือหุ้นก็ไปไล่บี้กันเอง
ก.ล.ต.เองก็ไม่ควรมองเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะตราบที่ "เปรมชัย" ยังอยู่ อิตาเลียนไทย ก็จะได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่ไร้ธรรมาภิบาล
แล้วจะปล่อยให้บริษัทที่มีประธานไร้ธรรมาภิบาลเป็นคู่สัญญากับรัฐได้อย่างไร
เวลาเราเห็นนักการเมือง หรือผู้บริหารภาคเอกชน ในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ลาออก โค้งคำนับ ขอโทษประชาชน แสดงความรับผิดชอบต่อความผิดที่กระทำ ก็พากันชอบใจ
เราอยากให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยไม่ใช่หรือ?
เช่นเดียวกันจริยธรรมของคนในรัฐบาลยิ่งต้องเหนือกว่าภาคเอกชน เพราะเป็นผู้ชี้เป็นชี้ตายประเทศ
หากเอาแต่อ้างว่าเรื่องส่วนตัว อย่างเช่นกรณีนาฬิกาเพื่อน
เราก็จะย่ำอยู่กับการโหยหาจริยธรรม ไม่จบไม่สิ้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |