“ประยุทธ์-ประวิตร” พาเหรดฟุ้งผลงานอียูปลดล็อกธงเหลืองเป็นธงเขียวในรอบ 15 ปี ชี้เป็นผลงานชิ้นโบแดงที่ตั้งใจทำมาตั้งแต่ปีแรกจน 4 ปีถึงเห็นดอกผล สั่งทูตพาณิชย์ตีข่าวทั่วโลก พร้อมเล็งชูในเวทีอาเซียน “ปชป.-พท.” พร้อมใจเห็นตรงกัน ชี้ไม่ใช่เรื่องน่าดีใจเพราะประมงหดหาย!
เมื่อวันพุธ ยังคงมีความต่อเนื่องจากการที่สหภาพยุโรป (อียู) ได้เปลี่ยนสถานภาพการทำประมงของไทย (ไอยูยู ฟิชชิง) จากประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะถูกจัดให้เป็นประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือภายใต้กฎระเบียบของอียู หรือใบเหลือง โดยปรับเป็นสถานภาพที่ได้แก้ไขปัญหาประมง หรือใบเขียว
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า มีเรื่องน่ายินดีที่ขอประกาศให้คนไทยได้ทราบโดยทั่วกัน แจ้งผลการพิจารณาเรื่องของการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งไทยเป็นเพียงประเทศเดียวที่ได้รับการปลดธงเหลือง ทำให้ประเทศของเราสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อส่วนรวมในภาพรวมการทำประมงของประเทศ เพราะไทยเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าอาหารทะเลเป็นจำนวนมาก แต่ยังมีในส่วนอื่นๆ เราต้องปรับปรุงและดำเนินการต่อไปให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม, พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ, ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีบุคคลที่จะต้องกล่าวถึงคือ ชาวประมงทุกคนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจนทำให้การแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายประสบความสำเร็จ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นประวัติศาสตร์หนึ่งที่เราสามารถดำเนินการได้ภายใน 4 ปี ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ดำเนินการตั้งแต่ปีแรกที่เราเข้ามาบริหารประเทศ
“แม้การดำเนินการต่างๆ ในเรื่องนี้จะมีปัญหาพอสมควร แต่เราก็ต้องค่อยๆ ดำเนินการต่อไป เพื่อทำให้เกิดโอกาสในการทำประมงของชาวประมงทุกกลุ่ม โดยเฉพาะประมงพื้นบ้าน ประมงชายฝั่ง ประมงในและนอกน่านน้ำ ทั้งนี้ เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติของเราให้ยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ ขอขอบคุณนางธันยา เลาหทัย ที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวมาตลอด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ด้าน พล.อ.ประวิตรกล่าวทันทีที่เจอสื่อมวลชนว่า ดีใจมั้ยล่ะที่ได้ไอยูยู 15 ปีแล้วกว่าจะได้ ทำมา 4 ปีทั้งตั้ง ศปมผ. ช่วยเรือต่างด้าว ช่วยแรงงานต่างด้าว นอกระบบต่างๆ ออกกฎหมายหลายฉบับกว่าจะได้กว่าจะหลุดพ้นจากธงเหลืองจนได้ธงเขียวมา หลายรัฐบาลพยายามทำ แต่ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ รัฐบาลนี้ 4 ปีได้ทุ่มเททุกอย่างเพื่อทำให้ไอยูยูเป็นธงเขียวจนสำเร็จได้ เพราะฉะนั้นช่วยกันบอกประชาชนด้วยว่ารัฐบาลนี้พยายามทำมา 4 ปี เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง นี่แหละทำจนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
“ตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ทุกหน่วยงานได้ช่วยกันทั้งกรมเจ้าท่า กรมประมง ช่วยกันทำ เปลี่ยนอธิบดีมาไม่รู้กี่คน จนสามารถออกกฎหมายได้ทุกอย่าง ก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นใจ ซึ่งเราต้องรักษาธงเขียวนี้ไว้ให้ได้ตลอดไป เราโดนมา 15 ปีแล้ว ทุกคนก็ต้องช่วยกัน โดยเฉพาะชาวประมงและแรงงานต่างด้าวต้องทำให้ถูกกฎหมาย”
ผลงานชิ้นโบแดง
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาลนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบทันทีว่า “ก็ใช่ไง เพราะเราทำมา 4 ปีเต็ม ผมนั่งหัวโต๊ะประชุมทุกอาทิตย์ ดังนั้นต้องขอบคุณข้าราชการทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือเกี่ยวกับเรือประมง ทั้งทหารเรือ กรมประมง กรมเจ้าท่า กระทรวงแรงงาน ที่ร่วมกัน สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดี ที่ผ่านมารัฐบาลทำงานและโดนด่าด้วยทุกวัน”
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า มาตรการที่เข้มงวดที่ทำมา จากนี้ก็จะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อไป และจะช่วยประมงชายฝั่งให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ต้องทำให้เป็นระบบ และสามารถจับปลาได้อย่างถูกกฎหมาย โดยรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือทั้ง 22 จังหวัด เราจะช่วยประมงชายฝั่งให้มีรายได้มากขึ้น และให้มีที่อยู่ที่อาศัยที่ดีขึ้น มีเรือ มีการจับปลาที่ถูกกฎหมายมากขึ้น
“ที่ผ่านมากว่าจะทำได้ ไม่ใช่ของง่ายเลย คนที่ทำก็เหนื่อย ปีหน้าซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพอาเซียนก็จะมีชวนประเทศต่างๆ ในอาเซียนมาร่วมมือกันทำในเรื่องไอยูยูว่าจะทำอย่างไรดีเพื่อให้อาเซียนปลดธงเหลือง”
ขณะที่นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาจนประสบความสำเร็จ ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการเรือประมงที่ระบุว่า กฎหมายประมงที่ปรับปรุงใหม่นั้น ทำให้เกิดความยุ่งยากลำบากในการออกเรือทำประมง อีกทั้งโทษในกรณีที่ทำผิดระเบียบต่างๆ รุนแรงเกินไปนั้น ขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา โดยมีผู้แทนของชาวประมงและผู้ประกอบการประมงร่วมด้วย เพื่อศึกษาความเหมาะสมของระเบียบต่างๆ หากมีส่วนใดที่มีขั้นตอนยุ่งยากหรือโทษรุนแรงเกินความเหมาะสม กรมประมงและกระทรวงเกษตรฯ พร้อมปรับแก้เพื่อให้ชาวประมงสามารถประกอบอาชีพได้อย่างปกติ
นายกฤษฎายังกล่าวถึงการนำเรือประมงออกนอกระบบที่นายกฯ มอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการนี้ ว่ากลุ่มแรกที่ต้องการเลิกทำประมงมีการทำประวัติและบันทึกภาพเรือไว้ตั้งแต่ปี 2558-2559 จำนวน 697 ลำนั้น ไม่ต้องตรวจสอบและทำประวัติใหม่แล้ว แต่จะตรวจสอบการมีอยู่จริงของเรือ ซึ่งจะทราบจำนวนที่แน่นอนภายในวันที่ 10 ม.ค.แล้ว ส่วนกลุ่มที่เปิดให้มาแจ้งความจำนงเลิกประกอบอาชีพประมงเพิ่มเติม ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดวันที่ 10 ม.ค.เช่นกัน จะมีคณะทำงานตรวจสภาพและประเมินมูลค่าส่วนต่างๆ ของเรือ โดยใช้ราคากลางในปี 2558-2559 จึงจะทราบว่าต้องจ่ายค่าชดเชยรวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเท่าไร เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ นอกจากนี้ยังมีแนวทางช่วยเหลืออีกทางหนึ่งคือ การประสานการขายเรือให้ต่างประเทศ หากเจ้าของเรือต้องการ โดยจะประสานผ่านสถานทูตประเทศนั้นๆ ประสานกับภาคเอกชนในต่างประเทศที่ต้องการซื้อเรือประมง รวมถึงจะออกใบรับรองต่างๆ ตามกฎหมาย
“ขอให้พี่น้องชาวประมงมั่นใจว่า คณะกรรมการจะเร่งทำแก้ปัญหาให้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่า ปัญหาจะค้างคาจนต้องรอรัฐบาลใหม่ โดยจะดำเนินการให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้” นายกฤษฎากล่าว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ถือเป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการร่วมกันแก้ปัญหาอย่างจริงจังจนประสบความสำเร็จ และมั่นใจว่าหลังจากนี้ ทั่วโลกจะมีความเชื่อมั่นสินค้าประมงไทยเพิ่มขึ้น และทำให้การส่งออกสินค้าประมงของไทยดีขึ้น
องุ่นเปรี้ยว! ปชป.-พท.ยี้
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีการประชันนโยบายพรรคการเมืองกับการแก้ปัญหาวิกฤติใต้ถึงกรณีนี้ว่า เห็นสื่อเสนอชาวประมงเฮ แต่ความเป็นจริงแล้ว ผู้ส่งออกอาหารแช่แข็งอาจจะเฮ แต่ใบเหลืองที่ถูกปลดใบนี้ ต้องแลกมาด้วยทั้งน้ำตา ลมหายใจของชาวประมง ที่มูลค่าการส่งออกลดลงไปครึ่งหนึ่งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลออกกฎหมายที่ไม่เป็นจริง ปฏิบัติไม่ได้ เพียงเพื่อไปตอบสนองแรงกดดันจากต่างประเทศ
“กฎหมายต่างๆ ที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นพระราชกำหนด ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายรองที่ออกมาเกี่ยวข้องกับเรื่องมาตรฐานแรงงานต่างด้าว การกำหนดความคิดต่างๆ เป็นการเหวี่ยงแห เหมารวม เสียค่าปรับสูง ยึดเรือ ปฏิบัติไม่ได้ ปชป.พร้อมแก้กฎหมายเหล่านี้ทั้งหมด” นายอภิสิทธิ์ระบุ
ขณะที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวเช่นกันว่า ไม่ใช่เรื่องของความน่ายินดี เพราะภายใต้การแก้ไขปัญหาของผู้มีอำนาจ กลับพบว่าพี่น้องชาวประมงทั่วประเทศต้องเผชิญชะตากรรมที่ยากลำบาก การทำมาหากินไม่สามารถออกเรือได้ จากเดิมจะมีชาวประมงออกเรือกว่า 80,000 ลำ แต่หลังจากผู้มีอำนาจเข้ามาแก้ไขปัญหานับแต่ปี 2558 ชาวประมงต้องยุติการออกเรือ และสามารถออกไปประกอบอาชีพได้เพียงราว 10,000 ลำเท่านั้น ทำให้ภาคประมงของไทยเกิดความเสียหาย
“หากพรรคได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน จะต้องเลือกประเทศและประชาชนมาก่อน ต้องค่อยๆ แก้ปัญหา แต่วิธีการแก้ปัญหาของฝ่ายรัฐทำให้ชาวประมงเกิดความเสียหายเกิดความทุกข์ยากในการประกอบอาชีพ จากนี้พรรคจะเข้าไปดูแล เข้าไปเยียวยาอย่างมีเหตุมีผล ยืนยันว่าสามารถแก้ปัญหาประมงได้ แต่ขึ้นอยู่กับประชาชนจะอนุญาตให้พรรคเข้าไปทำงานหรือไม่” นายปลอดประสพกล่าว
เล็งตีข่าวทั่วโลก
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ทั่วโลกร่วมมือกับภาคเอกชน ช่วยประชาสัมพันธ์ข่าวดีของไทยให้คู่ค้าได้รับรู้ ซึ่งมั่นใจว่าทั่วโลกจะมั่นใจสินค้าไทยมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดยุโรป
“กรณีดังกล่าวจะช่วยให้ไทยส่งออกสินค้าอาหารทะเลได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดยุโรป หลังอียูประกาศปลดล็อก เพราะเห็นว่าไทยมีความจริงจังและเข้มงวดเรื่องของแก้ปัญหาเรื่องการกระทำประมงผิดกฎหมาย” น.ส.บรรจงจิตต์กล่าว
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการสายงานธุรกิจสินค้าเกษตรและอาหาร กล่าวว่า ภาคเอกชนไทย โดยเฉพาะหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง ขอขอบคุณ และชื่นชมรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เป็นอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาไอยูยูมาตลอดเวลา 4 ปี ซึ่งสะท้อนให้สังคมโลกเห็นว่าไทยเป็นผู้นำภูมิภาคในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง
นายเอนกพงศ์ พุทธาภิบาล ผู้จัดการสายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกสินค้าประมงไทย เนื่องจากสะท้อนว่าอุตสาหกรรมประมงไทยได้ทำตามหลักสากลแล้ว ถือว่าเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมประมงไทย โดยเชื่อว่าหลังจากนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการหาลูกค้าใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น และมีโอกาสที่ลูกค้าเดิมจะเพิ่มคำสั่งซื้อในอนาคต.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |