แล้ว “ชีพจรก็ลงเท้า” ในวันพุธกลางสัปดาห์อีกแล้ว สำหรับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยครานี้ไปยังพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก ได้แก่ “หนองจอก-ลาดกระบัง” ซึ่งขาเมาธ์มอยก็ให้สงสัยว่าทำไม “มีนบุรี” กลับไม่รวมอยู่ในแผนด้วย เพราะทั้ง ”มีนบุรี-หนองจอก-ลาดกระบัง” ก็ต้องเรียกว่าเขตพี่เขตน้องกันทั้งนั้น หรือเพราะ กลัวว่าถ้ามาตรวจเยี่ยมจะมาซ้ำเติมปัญหาการจราจรให้เพิ่มขึ้นจากก่อสร้างสารพัด “รถไฟฟ้า” หรือไม่อย่างไร ...๐ แต่ในความเป็นจริง “ลุงตู่” ก็น่าจะเยื้องย่างมาแวะบ้าง เพื่อจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจร โดยเฉพาะการเพิ่ม “รถขนส่งสาธารณะ” ให้เพิ่มเติมมากขึ้น ที่สำคัญต้องเป็นขนส่งปรับอากาศหรือรถแอร์ด้วย เพราะต้องไม่ลืมว่าเส้นทางก่อสร้างนั้น “ฝุ่น” มโหฬารขนาดไหน หากยังละเมอเพ้อพกให้เป็น “รถร้อน” อีกก็ไม่รู้ว่าชาวบ้านร้านถิ่นจะล้มหมอนนอนเสื่อก่อนรถไฟฟ้าสร้างเสร็จไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย และจะได้เห็นปัญหาที่แท้จริง ที่สำคัญก็ไม่เสียเวลามากเท่าใดนักหากเทียบกับการใส่เสื้อม่อฮ่อมเกี่ยวข้าวหรือนั่งรถอีแต๊กชมแปลงนา ...๐ พูดถึง “นาไร่” แล้วไม่เอ่ยถึงนโยบายที่ดินของพรรคการเมืองในช่วงนี้ไม่ได้ เพราะหลังจาก “พ่อมดดำ” สุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปูดนโยบายเสกที่ดิน สปก.4-01 เป็นที่ดินทองคำ เนื่องจากปรับเป็น “ใบสลักสิทธิ์” ที่สามารถซื้อขายถ่ายโอนได้ไม่จำกัดแค่ “ทายาท” ก็ทำให้หลายพรรคเริ่มชำแหละ หรือผุดนโยบายในเรื่องที่ดินทำกินออกมาประชันขันแข่งกัน ...๐ เห็นแล้วทำให้นึกถึงช่วงหาเสียงในยุค “นายกฯ แคตวอล์ก” ไม่ได้ ที่ช่วงนั้นก็หาเสียงบลัฟกันด้วยเรื่องสารพัด “แรก” ที่มีทั้ง “บ้าน-รถยนต์” รวมถึงเรื่องของ “ค่าแรง-เงินเดือน” แต่ดูเหมือน ยุค 4.0 ก็มาเกทับกันว่าด้วยเรื่อง “ที่ดิน” และรวมถึงการแจกสารพัด ซึ่งก็มีแพลมๆ กันมาบ้างแล้ว ทั้งการแจกตั้งแต่ระดับแรกเกิดจนถึงระดับสูงอายุกันเลยทีเดียว ...๐ ประกาศปาวๆ ว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยและบรรดาพรรคแตกแบงก์พัน ทั้งหลายแล้ว แต่พอ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” กองเชียร์พรรคเพื่อชาติออกมาปูดว่าจะใช้ความพยายามครั้งที่ 4 ในการพา “เจ้ามูลเมือง” กลับมา และ ล่าสุดถึงกับยกหมู่บ้าน "ปันมุนจอม” ที่เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ใช้ในการเจรจาต้าอ่วยมาเทียบ แล้วโดน “ลุงตู่” และ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมสวนกลับ โดยเฉพาะ “ลุงป้อม” ที่ถึงขั้นเรียก “ไอ้ทักษิณ” กันเลย ทำให้บรรดาลูกหาบออกมาตอบโต้กันพัลวัน ไล่มาตั้งแต่ “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย, นคร มาฉิม สมาชิกพรรค พท. และ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ประธานรณรงค์การหาเสียง พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ออกมาปกป้องแทนนายเหนือกันเพียบ แหม! อย่างนี้จะเรียกว่าไม่เกี่ยวไม่โยงกันอย่างไรจ๊ะตัวเอง ...๐ งานอย่างนี้ต้องยกให้ “ดร.ผู้อ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็น” อย่าง “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” หัวหน้าคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง พท.ไม่ได้ เพราะแสดงถึงความเก๋าเกมอย่างชัดเจนที่บอกว่า “เรื่องนี้มีคนตั้งใจหลายคน แต่ยังไม่ถึงเวลาจะพูด” แหม! แต่จะไปโทษบรรดาลูกหาบที่ออกมาเชลียร์แทน “สัมภเวสีเหลี่ยม” ก็ไม่ได้ เพราะรู้กันอยู่ว่า “นายใหญ่” ชอบคนประจบประเภทยืนกุมเป้าบอก “ดีครับทั่น ใช่ครับนาย” อยู่แล้ว ที่สำคัญประวัติศาสตร์ก็มีมาให้เห็นว่า ยิ่งออกตัวเร็ว โอกาสได้นั่งเก้าอี้ “รัฐมนตรี” หรือเก้าอี้ผู้บริหารนั้นก็มีสูง หรือที่เรียกว่า “สู้แล้วรวย” นั่นแล ไม่เชื่อก็ลองย้อนไปส่องพฤติกรรมของ “ทั่นอดีตรัฐมนตรีเสื้อแดง” กันเป็นตัวอย่างได้อย่างดี ...๐ พูดถึงการเมืองไม่เอ่ยถึงวันเลือกตั้งไม่ได้ เพราะน่าจะแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งแล้วที่ “24 ก.พ.” ที่เป็นตัวตั้งตัวตีไว้น่าจะ “แท้ง” แน่นอน ยิ่ง “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ล่าสุดถึงกรณีกระทรวงศึกษาธิการได้สอบถามถึงการทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) การทดสอบความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (PAT) ว่าจะกำหนดอย่างไรแน่ เพราะเดิมกำหนดไว้วันที่ 23-26 ก.พ.2562 แต่เมื่อมีตุ๊กตาวันที่ 24 ก.พ.2562 ออกมาก็เลื่อนไปวันที่ 16-19 ก.พ.2662 นั้น ล่าสุด “เนติบริกร” ก็ระบุว่าหากจะกลับไปวันเดิมก็สามารถย้ายได้! แม้จะบอกให้ยึดวันใหม่ที่กำหนดไว้อยู่ก่อนก็ตาม แต่ก็เรียกว่าส่งสัญญาณกันแบบ 80% แล้วว่าน่าจะเลื่อนแน่ แต่จะลากยาวกันขนาดไหนต้องติดตาม ...๐ แต่ก็อย่า “ลาก” กันมากไป เพราะเริ่มมี พรรคการเมืองออกกระจองอแงมากขึ้น รวมทั้งสภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) รวมถึงเจ๊ ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่เฟซบุ๊กไลฟ์ในทำนองว่า “เสื้อแดง” เตรียมขยับแล้วหากมีการเลื่อนจาก 24 ก.พ.ออกไป แหม! สงสัยจะลืมกันไป ในมือ “ลุงตู่” นั้นยังมีมาตรา 44 อยู่นะเธอ ...๐