ประมวลท่าทีฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณี สะเทือนทุ่งใหญ่นเรศวร ที่มีการจับกุมแจ้งข้อหากับ บิ๊กวงการรับเหมาก่อสร้าง ชื่อดัง เปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ กับพวก ในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงาน และร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
เหตุเกิด 4 ก.พ.2561 ที่ทุ่งใหญ่นเรศวร อันเป็นเรื่องที่ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ซึ่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง
แม้ผู้ถูกเอาผิดจะเป็นมหาเศรษฐีรายใหญ่ของประเทศ!!!
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้คำยืนยันจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และบอกเล่ารายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียด ในฐานะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นข้อมูลที่อ้างอิงได้
“ได้รับรายงานว่า นายเปรมชัยขออนุญาตเข้าไปพักค้างคืนตามปกติ แต่เขาอยู่เกินที่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงไปจับกุม ไม่ต้องไปสงสัยประเด็นอื่น เพราะเรื่องนี้คือ มีคนแอบเข้าไปล่าสัตว์แล้วเจ้าหน้าที่จับได้ แต่กรณีนี้เขาขอเข้าไป เมื่อเข้าไปแล้วเขาไม่ออก แต่กลับไปกางเต็นท์อยู่ข้างใน ถือว่าขัดต่อระเบียบ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปจับกุม พอเข้าไปเจออาวุธปืนและซากสัตว์บางส่วนจึงควบคุมตัวออกมา ถือเป็นเรื่องใหญ่ ผิดเป็นผิดไม่ต้องกังวล”
ส่วนฝ่ายตำรวจ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ก็ยืนยันว่า การดำเนินการ ตำรวจบังคับใช้กฎหมาย 100% และได้สั่งกำชับพนักงานสอบสวนให้ทำคดีตามเนื้อผ้า ไม่ต้องหวั่นเกรง
จากข่าวที่ปรากฏ สรุปความได้ว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เวลา 14.00 น. จนท.ทุ่งใหญ่ตะวันตกได้รับแจ้งว่า พบนักท่องเที่ยวกลุ่มนึงตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้ามตั้ง จนท.ได้เข้าตรวจสอบพบว่า นักท่องเที่ยวหนึ่งในกลุ่มนี้คือ นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบบริเวณเต็นท์พัก พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง
จึงขยายพื้นที่ตรวจสอบพบอาวุธปืนลูกกรดติดลำกล้อง 1 กระบอก ปืนไรเฟิลติดลำกล้อง 1 กระบอก และปืนลูกซองแฝด 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกมาก ใกล้กับที่พักพบอาวุธปืนที่ซ่อนอยู่ จนท.เข้าตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติม พบซากเสือดำถูกชำแหละและถลกหนัง บริเวณใกล้เคียงพบเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนมาก จึงทำการจับกุมเพื่อส่งคดีให้ สภ.อ.ทองผาภูมิ โดยมีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 4 คน
จากนั้นช่วงเช้าของวันที่ 5 ก.พ. คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้กลับไปตรวจสอบบริเวณแคมป์พักแรม ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุซ้ำ ตรวจพบสิ่งของและซากสัตว์ป่าเพิ่มเติม เช่น หนังเสือดำลักษณะเป็นผืนทั้งตัว โดยถูกชำแหละเนื้อออกไปแล้ว รวมถึงกระสุนอาวุธปืนอีกจำนวนหนึ่ง
ส่วนท่าทีจากฝ่ายองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์ต่อกรณีที่เกิดขึ้น มีเนื้อหาใจความระบุตอนหนึ่งว่า
...เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเสมอมา สาธารณชนรู้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะได้รับการปกป้องและอนุรักษ์ให้ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าให้คงไว้ ดังนั้นการที่ผู้ต้องหาเข้าไปในพื้นที่โดยอ้างว่าไม่ทราบจึงเป็นไปไม่ได้
“นับเป็นการกระทำที่ปราศจากความละอายใจและย่ามใจว่าเจ้าหน้าที่คงไม่กล้าดำเนินการตรวจสอบ”
และสิ่งที่ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ย้ำก็คือ ความรู้สึกเดียวกับคนในสังคมส่วนใหญ่ต้องการเห็นก็คือ การดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง หลังสังคมเห็นว่า คนที่ถูกดำเนินคดีเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ของประเทศ
“ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐบาล อย่าได้เกรงกลัวต่ออิทธิพลและสถานะทางธุรกิจอันใหญ่โตของผู้ต้องหา ขอให้สืบสวนและดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ดีต่อไป”
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร แล้วทาง “เปรมชัย-บิ๊กอิตาเลียน-ไทย” กับพวก จะสู้คดีว่าอย่างไร
แต่เรื่องที่เกิดขึ้น ประเมินได้ว่า รัฐบาล-คสช. คงไม่กล้าช่วยเหลือ บิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า เมื่อหลายสิบปีก่อนเคยเกิดกรณีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร แล้วความจริงถูกเปิดโปง จนเป็นชนวนที่นำไปสู่การโค่นล้มระบบเผด็จการทหาร ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 มาแล้ว
หลังเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2516 เกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ยี่ห้อเบลล์ ตกที่กลางทุ่งนา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ในที่เกิดเหตุนอกจากศพผู้เสียชีวิต 6 ศพแล้ว ยังพบซากสัตว์ป่าจำนวนมาก โดยเฉพาะซากกระทิง
โดยต่อมาพบว่า มีการสืบเสาะค้นหาความจริงจนพบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่เกิดเหตุ 1 ใน 2 ลำ มีพวกทหาร-ตำรวจ ไปตั้งแคมป์พักแรมฉลองวันเกิด ล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน โดยใช้ยานพาหนะ อาวุธสงครามของทางราชการ
แต่ปรากฏว่า จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี และ จอมพลประภาส จารุเสถียร รมว.มหาดไทยเวลานั้น แถลงว่า เฮลิคอปเตอร์ลำที่ตก ไม่ได้เข้าไปล่าสัตว์ แต่ไปปฏิบัติราชการลับ
จนเมื่อความจริงถูกเปิดเผยในเวลาต่อมาว่ามีการล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร โดยรัฐบาล-ทหาร-ตำรวจเวลานั้น กลับปกปิดข้อเท็จจริงกับประชาชน เรื่องดังกล่าวเลยลุกลามกลายเป็นหนึ่งในชนวนที่ทำให้นักศึกษา-ประชาชน ไม่พอใจรัฐบาลจอมพลถนอม ควบคู่ไปกับการเรียกร้องประชาธิปไตยในช่วงดังกล่าว จนนักศึกษา-ประชาชน มีการรวมตัวกันต่อต้านรัฐบาลจอมพลถนอม และนำไปสู่เหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 ที่ทำให้จอมพลถนอมต้องบินหนีไปต่างประเทศ
ไม่น่าเชื่อ จากช่วงปี 2516 ผ่านมาวันนี้ ในปี 2561 ยังมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีกในประเทศไทย ดังนั้น หากรัฐบาล คสช.-ตำรวจ ปล่อยปละละเลย ไม่เอาจริงเอาจัง เสื่อมแน่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |