9ม.ค.62-นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เริ่มทดลองให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวทมาเรียน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือ ทุกวันอังคาร ว่า ตนคิดว่าเราไม่ควรที่จะนำเรื่องเครื่องกายมาเป็นประเด็นด้านการศึกษา เพราะผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยได้พูดไว้ชัดเจนว่า เรื่องนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยทางโรงเรียนมีการศึกษาเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน มีการวางแผน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็รับรู้และรับทราบ ไม่ใช่อยู่ๆ ต้องการที่จะดำเนินการก็ทำได้ ซึ่งขณะนี้ตนเองก็ยังไม่มีแนวนโยบายที่จะไปควบคุมในเรื่องดังกล่าว เพราะตนมองว่าหากมีการสั่งการอะไรลงไป อาจจะทำให้ถูกมองว่ารัฐบาลบังคับเด็กอีก ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่หลากหลาย และตนคิดว่าเราจำเป็นที่จะต้องดูเจตนาของคนที่ทำเรื่องนี้ด้วย

“ผมต้องการที่จะชี้ให้เห็นว่า อย่าให้เรื่องเครื่องแต่งกายมาเป็นประเด็น ว่า จะมีผลกระทบด้านการเรียนหรือไม่ การแต่งกายกับการศึกษาต้องแยกจากกัน ว่าทำไมเราถึงต้องมีชุดนักเรียน เพราะการแต่งชุดนักเรียนเป็นเรื่องของประเพณีและวัฒนธรรม ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แล้ว อีกทั้งพระองค์ยังเคยตรัสไว้ว่า การมีชุดนักเรียนนอกจากจะทำให้มีระเบียบวินัยแล้ว ก็ยังเป็นการลดการแบ่งชนชั้นระว่างคนรวยและคนจน ไม่ใช่ว่าการมีชุดนักเรียนจะทำให้เรียนดีหรือเรียนไม่ดี”รมว.ศธ.กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต้องการที่จะดำเนินการในลักษณะดังกล่าวบ้างหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มี และโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ซึ่งเป็นโรงเรียนของรัฐก็ไม่สามารถดำเนินการให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวทมาเรียนได้อยู่แล้ว เนื่องจากมีระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2551 กำหนดไว้ชัดเจน