9 ม.ค.62 - นายสุชาติ ตันเจริญ คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ผู้เสนอนโยบาย "เปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 ให้เป็นที่ดินทองคำ" หรือ “ส.ป.ก. 4.0” กล่าวถึงกรณีที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบาย สปก.4.0 ว่าอาจเปิดช่องให้นายทุนเข้าซื้อที่ดิน สปก. และเพิ่มปัญหาความเหลื่อมล้ำว่า สิ่งที่นายสาทิตย์โจมตีนั้น เป็นแค่เพียงพาดหัวข่าว อยากแนะนำให้นายสาทิตย์ศึกษารายละเอียดในสิ่งที่ตนเสนอให้ชัดเจนอย่างเข้าใจเสียก่อน อีกทั้งตนยังทราบดีถึงเจตนารมณ์ของ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ในฐานะแกนนำ ส.ส.กลุ่ม 16 ที่เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณี ส.ป.ก.4-01 จนกระทั่งกลายเป็นฝันร้ายของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องลาออก เพราะปล่อยให้คนรวยได้ที่ดิน ส.ป.ก. เช่น จ.ภูเก็ต เป็นการผิดหลักการของ ส.ป.ก.มากกว่าใช่หรือไม่
“ฝากไปถึงคุณสาทิตย์ อย่าเพิ่งชกลม โดยอ่านแค่พาดหัวข่าว และต้องขอขอบคุณที่นำเรื่องนี้กลับมาให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงความเลวร้ายของ ส.ป.ก.4-01 ในอดีต ที่เป็นผลพวงมาถึงปัจจุบันที่รัฐบาลชุดนี้ต้องไล่ตามยึดที่ ส.ป.ก. คนรวยหลายแห่ง เช่น ที่วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.เลย ฯลฯ เมื่อเรารู้ปัญหานี้ ผมจึงต้องแก้กฎหมายโดยเร็ว แล้วจะพบทางออกที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้” นายสุชาติ ระบุ
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า วันนี้เราจะต้องพัฒนาไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่ และต้องยอมรับความจริงกันก่อนว่า 30-40 ปีที่แล้วกับวันนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไปมาก สมัยนั้นที่ดินเหมาะกับการทำการเกษตร นโยบายจึงเน้นปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แต่มาถึงวันนี้การทำเกษตรกรรมทำให้เกษตรกรเป็นหนี้ วัตถุประสงค์ของ ส.ป.ก.ต้องการช่วยเหลือคนจน แต่ไม่ใช่ต้องให้จนดักดาน การช่วยเหลือคนจน โดยรัฐสนับสนุนให้ประชาชนมีที่ดินทำกิน ก็ควรจะหาทางทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ และสามารถอยู่ดีมีสุขเพิ่มขึ้น หรือเป็นคนรวยไปเลยก็ได้ ทำไมจะต้องตีกรอบว่า คนที่จะได้รับที่ดิน ส.ป.ก.ต้องจนดักดานอยู่อย่างนั้น เราไม่ใจดำกับประชาชนเกินไปหรือ ต้องกดหัวให้เขาต้องเหนื่อยทุกข์ยาก ทำไร่ไถนาเลือดตาแทบกระเด็น แล้วก็เป็นหนี้อยู่อย่างนั้น ชั่วนาตาปี พอจะมีเงินเดี๋ยวคุณสมบัติก็ขาดจะถูกยึด ส.ป.ก.คืนอย่างนั้นน่ะหรือ
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า อยากจะบอกกับนายสาทิตย์หลายประการ 1.ไม่ต้องห่วงนโยบายนี้ไม่ได้ทำให้ที่ดินหลุดไปเป็นของนายทุนและต่างชาติแน่นอน เพราะชื่อเจ้าของที่ดิน เป็นของ ส.ป.ก.อยู่ทุกตารางนิ้ว ผู้ครอบครองได้เพียง "ใบสลักสิทธิ์" ที่เปลี่ยนมือได้เท่านั้น พร้อมทั้งมีมาตรการและกลไกอื่นๆมาป้องกัน เช่น การใช้อัตราค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมแบบก้าวหน้า อาจจะใช้จำนวนถือครองที่ดินแต่ละขนาด ที่เกินจำนวนเท่าไร จะต้องให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเป็นผู้กำหนด ตนจึงชี้ให้เห็นว่าต้องมีการเพิ่มวัตถุประสงค์เพิ่มเข้าไปอีกแค่ไม่กี่บรรทัด ใน พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 ซึ่งมีการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมอยู่แล้ว
2.กำหนดอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการที่ดินให้กับ ส.ป.ก.ได้จำแนกที่ดิน และอัตราภาษีและค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมกับศักยภาพของที่ดินนั้นให้ชัดเจน 3.การป้องกันการบุกรุกที่ดิน ต้องดำเนินคดีไม่ไว้หน้า ไม่ใช่แค่เอามาคืนเท่านั้นยังต้องมีโทษทั้งจำทั้งปรับที่มีอัตราค่าปรับที่เหมาะสม ย้อนหลังตั้งแต่ต้นของการกระทำผิด
4.พัฒนากองทุน ส.ป.ก. ให้รองรับบทบาทใหม่ ในการบริหารที่ดินของ ส.ป.ก.ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่นายสาทิตย์สร้างภาพว่านโยบายนี้อันตราย เพราะเขายังได้ข้อมูลไม่ครบ และตนยืนยันไม่มีแน่นอน ในอนาคต กองทุน ส.ป.ก.จะใหญ่โต จน ส.ป.ก.อาจจะไม่ต้องพึ่งงบประมาณจากรัฐบาลเลยก็ได้
5.สำหรับประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน กองทุน ส.ป.ก.จะเข้าไปจัดสรรให้กับผู้ที่มีคุณสมบัติ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนไว้ก่อนปี 2554 จำนวน 3.3 แสนคนได้มีที่ดินทำกิน และต้องนำที่ดินไปใช้ตามศักยภาพโดย ส.ป.ก.เข้าไปเป็นพี่เลี้ยง สำหรับรายใหม่จะต้องถือครองไม่น้อยกว่า 10 ปี จึงจะสามารถเปลี่ยนมือได้ ซึ่งเป็นการตอบที่นายสาทิตย์กล่าวว่า จะทำให้คนจนไม่มีที่ดินทำกินนั้น จึงไม่จริง กลับจะยิ่งดูแลคนจนได้มากขึ้นและดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำไป ตนตระหนักถึงการทำนโยบาย ต้องดีมีประโยชน์ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
“การออกแบบให้เพิ่มวัตถุประสงค์ในการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อให้เป็นไปตามศักยภาพของที่ดิน ผมจึงกล้าประกาศว่า สปก.จะเป็นที่ดินทองคำ และต้องทำให้เปลี่ยนมือได้ เพื่อรองรับศักยภาพของคนที่จะนำไปพัฒนาในการใช้ที่ดินทำให้เกิดรายได้มากขึ้น ยิ่งทำให้คนที่ถือครองที่ดินร่ำรวยขึ้น เศรษฐกิจประเทศก็ดีขึ้นเป็นเงาตามตัว ประเทศชาติก็พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว
"ผู้ถือครองที่ดิน สปก.ร่ำรวย ช่วยพัฒนาประเทศชาติ" ไม่ดีหรือ ส่วนคนที่ไม่มีศักยภาพ เช่นผู้สูงอายุกว่า 1 ล้านคน ที่เป็นเจ้าของที่ดิน แต่ไม่มีลูกหลาน ไม่สามารถทำงานได้ กองทุน ส.ป.ก.ก็จะเข้าไปช่วยบริหารให้เกิดรายได้ให้กับพวกเขา หรือแม้กระทั่งการใช้การปลูกต้นไม้ที่มีค่าในที่ดินของผู้ถือครองก็อาจสนับสนุนโดยกองทุน สปก.ให้เป็นนโยบายต่อยอด รัฐได้ป่า ประชาได้ทรัพย์สินและที่ดินทำกิน" นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ ยังกล่าวอีกว่า ตนเห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ของประเทศ ไม่อยากเสียเวลา จึงพยายามจะเสนอและผลักดันให้รีบดำเนินการในรัฐบาลนี้ เพราะเชื่อว่าถ้านโยบายดี รัฐบาลก็ควรสนับสนุน นมั่นใจและจะทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ คอยดูผลงานและช่วยกันทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติกันดีกว่า อย่ามัวแต่เล่นการเมืองแบบเก่าๆเลย เพราะถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนการทำงานการเมืองเพื่อบ้านเมืองกันดีกว่า
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |