เพื่อแม้วได้ทีขย่ม'ยุติธรรมแบบป้อมๆ'แฮชแท็กอันดับ1 คนไทยไม่เชื่อน้ำยา


เพิ่มเพื่อน    

9 ม.ค. 62 - น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ด้วยวลี “ยุติธรรมแบบป้อมป้อม” ว่า ในช่วงเวลาไม่นานวลี “ยุติธรรมแบบป้อมป้อม” เป็นกระแสในทวิตเตอร์ด้วยแฮชแท็กอันดับ 1 ว่า #ยุติธรรมแบบป้อมๆ ที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์รีทวิตตามเกือบแสนทวิต สะท้อนว่าสังคมไทยไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม สังคมต้องการความยุติธรรมที่แท้จริง ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมที่เหลื่อมล้ำเช่นปัจจุบัน 

ดังนั้นถึงเวลาหรือยังที่ทุกฝ่ายต้องมาช่วยกันแก้ไขกระบวนการยุติธรรมที่ไม่น่าเชื่อถือเช่นนี้ ก่อนจะเป็นปัญหาที่นานาชาติไม่ยอมรับ เช่นเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ซึ่งก็คือสิทธิพิเศษทางกฎหมาย ประเทศหนึ่งสามารถบังคับใช้กฎหมายของประเทศตนต่อบุคคลในดินแดนของประเทศอื่นได้ อย่างกรณีในอดีตเมื่อเกิดกรณีพิพาทระหว่างชาวอังกฤษในแผ่นดินไทย ไทยต้องยอมใช้กฏหมายอังกฤษในการตัดสิน อังกฤษไม่ยอมรับให้กระบวนการยุติธรรมไทยเป็นผู้ไกล่เกลี่ยหรือตัดสิน 

“และในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา เคยอ่านข่าวพบว่าสัญญาการร่วมลงทุนจากต่างประเทศบางสัญญาระบุว่าเมื่อเกิดข้อพิพาทไม่ขึ้นศาลไทย คณะรัฐประหาร คสช. ที่ยึดอำนาจจากประชาชนมา 4 ปีกว่าๆ โดยอ้างว่าจะปฏิรูปประเทศทุกด้าน ขอถามว่าได้ทำอะไรไปถึงไหน ทำไมกระแสแฮชแท็ก #ยุติธรรมแบบป้อมป้อม ถึงเป็นกระแสสูงของสังคมในเวลารวดเร็ว ที่แปลผลได้ว่าประชาชนไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมของประเทศในปัจจุบัน” น.ส.เกศปรียา ระบุ

ทั้งนี้ การจะทำให้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่ยอมรับไม่เพียงแก้เฉพาะกฎหมายบางส่วน ต้องแก้กฏหมายถึงขั้นตอนการปฏิบัติและบังคับใช้ให้ยุติธรรมในสากลด้วย อย่างกรณีเกิดข้อพิพาทระหว่าง 2 คน ผู้ที่ถูกเลือกมาเป็นผู้สอบสวน ไกล่เกลี่ย ตัดสิน ต้องไม่ใช่ผู้ที่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตนเห็นด้วยกับการเลือกเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมเป็นรายครั้ง โดยการสุ่มตัวอย่างแบบคณะลูกขุนมาสอบสวน ให้ความเห็นกับข้อพิพาท แล้วผู้พิพากษาจึงตัดสิน ไม่ใช่เอาคนสนิทฝ่ายตรงข้ามมาสอบสวนชี้มูลตัดสินเช่นที่ทำกันในปัจจุบัน ความน่าเชื่อถือก็ไม่มี รวมทั้งทำลายกระบวนการยุติธรรมไทยไปเรื่อยๆ 

“ขอเรียกร้องให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมและเผด็จการอำนาจนิยมลดละกิเลสลงบ้าง ทำสิ่งที่ถูกต้องให้กับประเทศชาติก่อนจากไปบ้าง ไม่ใช่เห็นแก่ตนอะไรเป็นประโยชน์กับพวกพ้องตนเองก็รีบทำ อย่างกรณีนำมาตรา 44 มายกเลิกการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน ถ้าเป็นคนดีได้ทรัพย์มาโดยสุจริต ทำไมต้องเกรงกลัวการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน อย่าอ้างว่ารักชาติแต่ทำลายชาติโดยสร้างความเหลื่อมล้ำทุกด้าน เมื่อใดที่เกิดความเหลื่อมล้ำสูงเกิดการกดขี่มากๆ เมื่อนั้นแรงปะทุย่อมรุนแรงเสมอ” โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"