เมื่อพูดถึงอุบัติเหตุคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น นอกเสียว่าเกิดจากความคึกคะนองและประมาทเลินเล่อ เช่น กรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-พนมไพร หมายเลขข้างรถ 934-2 ทะเบียน 10-8175 นครราชสีมา ของบริษัท ประหยัดทัวร์ จำกัด พลิกคว่ำบริเวณถนนพหลโยธินขาเข้ากรุงเทพฯ หลัก กม.ที่ 35+100 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 03.20 น. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
สำหรับอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเทศกาลปีใหม่ได้เพียงไม่กี่วัน ก็เกิดเรื่องสลดใจขึ้น ทำให้มีการตั้งข้องสงสัยว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากสาเหตุใด ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 6 ราย และยังบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องมีบทสรุป เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา
อย่างไรก็ตาม จากคำบอกเล่าของผู้โดยสารคนหนึ่ง เล่าว่า ตนเองได้นั่งรถคันนี้มากับแฟนจาก อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ที่นั่งอยู่ชั้นสองตรงกลางรถ ตลอดทางที่รถคันนี้วิ่งมาไม่ได้จอดรับผู้โดยสารกลางทาง แต่จะจอดรับตามจุดจอด และรถมีอาการส่ายไปส่ายมา และขับเร็วจนตัวสัญญาณจีพีเอสบนรถร้อง ซึ่งตนก็บอกกับแฟนว่าทำไมรถขับส่ายจัง พอพูดยังไม่ทันขาดคำ รถก็เกิดพลิกคว่ำ ตนก็กอดแฟนเอาไว้แน่น ซึ่งตนจะมาลงรถที่รังสิตและจะต่อรถกลับไปบ้านที่ จ.ชัยนาท
ขณะที่คนขับรถทัวร์ที่มีอายุเพียง 25 ปี ได้เล่าว่า ขณะที่ขับรถอยู่นั้นมีฝนตกลงมา และมีรถจักรยานยนต์ล้มอยู่บริเวณเลนช่องทางด้านซ้าย ตอนนั้นมีรถกระบะหักหลบรถจักรยานยนต์เข้ามาบริเวณเลนกลางของช่องทางด่วน จึงเบรกและหักหลบจนเสียหลักพลิกคว่ำตีลังกาหงายท้อง
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ขับรถทัวร์คันดังกล่าว คือขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย บาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย พร้อมได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ขับขี่ไปแล้วมีค่าเป็นศูนย์ ส่วนที่ว่าความเร็วเกินกว่ากำหนดหรือไม่นั้น อยู่ในระหว่างตรวจสอบกับบริษัทของรถคันดังกล่าว
ขณะที่บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้ออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า ส่วนของผู้ที่บาดเจ็บเล็กน้อยทยอยเดินทางกลับแล้ว โดย บขส.ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงไปดูแลและเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บแล้ว ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ในส่วนของผู้ประกอบการแจ้งว่าบริษัทประหยัดทัวร์ได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย และพร้อมที่จะดูแลและเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกราย เบื้องต้นสำหรับผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินค่าชดเชยรายละ 6 แสนถึง 8 แสนบาท
จากอุบัติเหตุดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จังหวัดปทุมธานี ให้ข้อมูลว่า รถยนต์โดยสารประจำทางหมายเลขทะเบียน 10-8175 นครราชสีมา ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 04647-61501/ กธ/2434687 เริ่มความคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2561 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2562 และได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 03795-61501/ กธ/036552-30 เริ่มความคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2561 สิ้นสุดความคุ้มครอง 30 กันยายน 2562 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ความเสียหายต่อชีวิต ร่ายกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. จำนวน 300,000 บาทต่อคน และ 10,000,000 บาทต่อครั้ง
สำหรับความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน จำนวน 200,000 บาท ผู้โดยสาร 45 คน จำนวน 200,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 200,000 บาทต่อคน การประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดทำเอกสารประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ส่วนผู้บาดเจ็บทาง สำนักงาน คปภ. จังหวัดปทุมธานี ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและโรงพยาบาลเพื่อแจ้งสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยในการรักษาพยาบาลตามสัญญากรมธรรม์ โดยแบ่งผู้บาดเจ็บออกเป็นกลุ่มๆ คือบาดเจ็บมาก บาดเจ็บปานกลาง และบาดเจ็บเล็กน้อย เพื่อให้เกิดความสะดวกต่อการจ่ายค่าสินไหมทดแทนอีกด้วย
ก็ได้แต่หวังว่าหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหามาตรการช่วยกันกวดขันเข้มงวดในการให้บริการแก่ประชาชน หากยังเกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ เรื่องที่ไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้น จนในที่สุดเกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน.
กัลยา ยืนยง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |