พังพอนกับงูเห่า!'สาทิตย์'เฉ่ง'สุชาติ'เชิดนโยบายแจกส.ป.ก.4-01ปั้นที่ดินเป็นทองคำ


เพิ่มเพื่อน    


8 ม.ค.62- นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตส.ส.ตรัง ในฐานะเป็นผู้เสนอนโยบายโฉนดสีฟ้า พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสุชาติ ตันเจริญ กรรมการสรรหาผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่า พปชร.จะแก้ปัญหาความยากจน โดยออกนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 กว่า 30 ล้านไร่ ให้เป็นที่ดินทองคำ และจะผลักดันให้เห็นผลในรัฐบาลชุดนี้ ว่า เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะขณะนี้ปัญหาที่ดินเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงที่สุดในสังคมไทย เนื่องจากคนส่วนน้อยครอบครองที่ดินเป็นจำนวนมาก และคนจำนวนมากไม่มีแม้แต่ที่อยู่อาศัย ซึ่งเจตนาของส.ป.ก.4-01 คือการปฏิรูปที่ดินเพื่อความเหลื่อมล้ำ 

แต่นโยบายของ พปชร.คือทำให้ที่ดินกลายเป็นสินค้า และสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ ในที่สุดแล้วจะทำให้ที่ดินเหล่านั้นจะตกไปอยู่ในมือของนายทุน ซึ่งตรงกันข้ามกับนโยบาย พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะยกระดับ สปก.4-01 ให้สามารถใช้เป็นหลักประกันในการเข้าถึงแหล่งทุนของสถานบันการเงินได้ไม่ใช่แค่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และจะเป็นการเพิ่มมูลค่าของที่ดิน และยังใช้เป็นหลักประกันในชั้นศาลได้ด้วย แต่ที่ดินจะขายเปลี่ยนมือไม่ได้ ที่จะทำได้คือการเช่า สามารถให้เช่าทำประโยชน์ได้ 

ส่วนในกรณีที่อยากขายที่ดิน ส.ป.ก.นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เราสนับสนุนให้มีธนาคารที่ดิน ซึ่งขณะนี้ตั้งแล้วสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล โดยรัฐเป็นคนรับซื้อร่วมกับส.ป.ก. ตามราคาท้องตลอด เพื่อนำมาจัดสรรให้กับคนยากจนและไร้ที่ทำกินต่อไป ส่วนวัตถุประสงค์ในการใช้ที่ดิน ต้องมีการจำแนกพื้นที่ว่าเขตไหนทำรีสอร์ทได้ เขตไหนใช้ทำการเกษตร ส่วนเขตเป็นสถานที่ราชการก็ดำเนินการให้เป็นของราชการต่อไป

นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า การที่พปชร. บอกว่าที่ดินส.ป.ก.4-01 ทั้ง 30 ล้านไร่ จะให้เป็นที่ดินทองคำ ในที่สุดจะกลายเป็นทองคำในมือนายทุน แต่นโยบายประชาธิปัตย์จะทำให้ที่ดินเป็นทองคำในมือคนจนและเกษตรกรซึ่งตนเห็นอันตรายของเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่นโยบายหาเสียงเท่านั้น เพราะบอกว่าจะไปแก้กฎหมายส.ป.ก.ในรัฐบาลชุดนี้เลย ซึ่งจะขัดกับเจตนาการออกกฎหมายส.ป.ก.ปี 2518  ที่ต้องำการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และนายสุชาติ สมัยอยู่กลุ่ม16 เคยอภิปรายรัฐบาลประชาธิปัตย์ เรื่องส.ป.ก.มาแล้วว่าแจกที่ดินให้คนรวย ทั้งที่เป็นการให้ตามสิทธิ์ แต่การมาทำให้ส.ป.ก.ขายได้ ไม่ยิ่งกว่าหรือ 

อย่างนี้จะเข้าข่ายเอาแผ่นดินหลวงไปขายหรือไม่ เพราะประชาธิปัตย์เห็นว่าการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำต้องมุ่งให้คนยากจนและไร้ที่ทำกินมีที่ทำกินและพัฒนาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยรัฐจะต้องเข้าไปส่งเสริมให้เขามีผลผลิตที่ดีขึ้นมีช่องทางการตลาด ไม่ใช่ปล่อยตามยถากรรม แต่ถ้าปล่อยให้ที่ดินขายได้และมีราคาแพง คนที่ขายที่ดินเหล่านั้นจะไปอยู่ที่ไหน  จะไม่เป็นการส่งเสริมให้มีการบุกรุกป่าต่อไปอีกหรือ ที่สุดที่ดิน ส.ป.ก.จะไปอยู่ในมือนายทุนทั้งหมด

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่นโยบาย พปชร.ถึงต้องประกาศต้องให้เห็นผลในรัฐบาลนี้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ปฎิเสธไม่ได้ว่า พปชร.กับรัฐบาลเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เนื่องจากไม่ใช่แค่ชูนโยบาย แต่จะลงมือทำเลย และไม่ใช่แค่อาศัยนโยบายรัฐบาลหาเสียง แต่กำบังซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำของประเทศ เพราะตามรายงานพบว่าไทยมีความเหลื่อมล้ำอันดับ1 ในเอเชีย คนเดียวถือครองที่ดิน 6 แสนไร่ มีคนจำนวนมากถือครองที่ดิน1ตรางวา และไม่มีที่ทำกินเป็น 10 ล้านคน . 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"