กาบองสกัดรัฐประหาร ฉวยจังหวะประธานาธิบดีไม่อยู่


เพิ่มเพื่อน    

ทหารกลุ่มหนึ่งพยายามยึดอำนาจในกาบองเมื่อวันจันทร์ หวังปลุกให้ประชาชนลุกฮือโค่นประธานาธิบดีอาลี บองโก ที่ไปรักษาตัวในต่างแดนมานานหลายเดือน แต่ปฏิบัติการล้มเหลว ทหารกบฏโดนจับกุมยังไม่ทันข้ามวัน

ภาพจากวิดีโอที่เผยแพร่ทางยูทูบ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2562 ทหารกาบองที่ก่อการอ่านแถลงการณ์ที่สถานีวิทยุ เรียกร้องประชาชนลุกฮือ / AFP/  YOUTUBE

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2562 กล่าวว่า สถานการณ์ในกรุงลีเบรอวิลเริ่มต้นเมื่อเช้าตรู่วันเดียวกัน เมื่อทหารกลุ่มหนึ่งบุกเข้าไปภายในสถานีวิทยุแห่งชาติกาบอง และประกาศเรียกร้องให้ประชาชน "ลุกฮือ" ต่อต้านประธานาธิบดีอาลี บองโก ออนดิมบา ซึ่งยังอยู่ที่โมร็อกโก ภายหลังรับการรักษาอาการหลอดเลือดสมองเมื่อปีที่แล้ว ระหว่างที่วิทยุออกอากาศแถลงการณ์ในเวลา 06.30 น. (12.30 น.ของไทย) ก็มีเสียงปืนดังแทรกด้วยหลายนัด

    ทว่าหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง กาย-เบอร์ทรันด์ มาปังกู โฆษกรัฐบาลกาบอง ก็ยืนยันกับเอเอฟพีว่าสถานการณ์กลับคืนสู่ความสงบและรัฐบาลควบคุมได้แล้ว โดยทหาร 5 นายที่บุกเข้าไปภายในสถานีวิทยุแห่งนี้ช่วงเช้า "4 นายถูกจับกุมตัวไว้แล้ว อีก 1 นายหลบหนีไปได้"

    เขากล่าวด้วยว่า กองกำลังความมั่นคงจะวางกำลังอยู่ในเมืองหลวงนับแต่วันนี้ต่อไปอีกหลายวันเพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย

    ข้อความที่ออกอากาศทางวิทยุอ่านโดยทหารที่ประกาศนามว่า ร้อยโทออนโด โอเบียง เคลลี รองผู้บังคับการรีพับลิกันการ์ด และหัวหน้าขบวนการเยาวชนรักชาติแห่งกองกำลังความมั่นคงและป้องกันประเทศกาบอง (MPJFDS) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่เป็นที่รู้จักมาก่อน เขาประกาศว่า คณะก่อการจะจัดตั้ง "สภาฟื้นฟูแห่งชาติ" ขึ้น เพื่อรับประกันการถ่ายโอนอำนาจสู่ประชาชนชาวกาบอง

    "เราไม่สามารถทอดทิ้งมาตุภูมิของพวกเรา" นายทหารผู้นี้กล่าว ในภาพวิดีโอที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นด้วยว่า มีทหาร 3 นายสวมหมวกกรีนเบเรต์ของหน่วยรีพับลิกันการ์ด โดย 2 นายยืนถือปืนไรเฟิล

    "วันที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อมาถึงแล้ว เมื่อกองทัพตัดสินใจยืนอยู่ข้างเดียวกับประชาชนเพื่อรักษาประเทศกาบองจากความโกลาหล" ถ้อยแถลงกล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนวางมือจากทุกสิ่งที่กำลังทำ แล้วลุกฮือไปพร้อมกัน ออกมายึดครองถนน เข้ายึดอาคารที่ทำการของราชการ และสนามบินทั่วประเทศ

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีอาลี บองโก ออนดิมบา ร่วมพิธีปิดการแข่งขันแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ที่กรุงลีเบรอวิล เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560 / AFP

    ประธานาธิบดีวัย 59 ปีล้มป่วยที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม และไม่ได้กลับคืนประเทศอีกเลย แต่เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อประชาชนในวันส่งท้ายปีเก่า ขณะเกิดเหตุวุ่นวายนี้ บองโกยังพักฟื้นอยู่ที่กรุงราบัตของโมร็อกโก ช่วงที่เขาไม่อยู่นั้น ศาลรัฐธรรมนูญถ่ายโอนอำนาจบางส่วนของประธานาธิบดีให้นายกรัฐมนตรีและรองประธานาธิบดี

    คณะก่อการกล่าวโจมตีการถ่ายอำนาจนี้ว่า "ผิดกฎหมายและขัดต่อความชอบธรรม"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"