เป็นสายเลือด "ลิเก" ที่แท้จริง สำหรับหนุ่ม มิตร มิตรชัย น้องชายของ เอ-ไชยา มิตรชัย ที่ตอนนี้เจ้าตัวเข้ามารับช่วงต่อพี่ชาย-พี่สาว อย่างเต็มตัวแล้ว หลังจากที่อดีตเคยบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ซึ่งล่าสุดคณะลิเกของตระกูล มิตรชัย นั้นได้แยกออกเป็นสองรุ่น โดยตนนั้นประกบกับนางเอก ลูกสาวคนสวยของ เอ ไชยา อย่าง น้องแป้ง-พรภัสร์ชนก มิตรชัย ซึ่งหนุ่มมิตรบอกว่าอย่าคิดว่าลิเกจะเชยเสมอไป เพราะตนได้ปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยแต่ยังอลังการเช่นเดิมแน่นอน
"อย่าเรียกฮุบกิจการเลย เรียกว่าดูแลสืบต่อดีกว่าครับ เพราะว่าพี่เอ พี่แอน ตอนนี้คิวงานเขายุ่งมาก เรื่องลิเกเลยไม่ค่อยเต็มตัว ผมเลยมาดูแล คือตอนนี้ “มิตรชัย” เราแบ่งเป็นสองแพ็คเกจ คือรุ่นหนึ่งและรุ่นสอง รุ่นหนึ่งก็คือ 4มิตรชัย เอ ไชยา, แอน มิตรชัย, น้องแป้ง และผม ก็จะเป็นราคาสำหรับแพ็คเกจใหญ่ แต่รุ่นสองก็จะราคาย่อมลงมาหน่อย ก็จะมี ผม และน้องแป้ง จริงๆขึ้นอยู่กับความสนใจของเจ้าภาพ เพราะบางที่ บางวัด บางเจ้าภาพเขามีงบไม่มากแต่อยากดูมิตรชัยมากๆ ก็สามารถเลือกวงเล็กได้ แต่บางท่านที่เขาอยากดูวงใหญ่เขาก็สู้ราคาจริงๆแถมบางทีจ้างไปเล่นดูเอง ในบ้าน ในพื้นที่ตัวเองก็มี
แป้ง-แอน-เอ-มิตร
จริงๆชุดเล็กมันไม่ได้ลดโครงสร้างลงมามากนะครับ มันต่างกันแค่นิดหน่อย อย่างวงเต็มพี่เอพี่แอนเนี่ย พี่แอนเขาจะมีโชว์อินเดียมันก็เลยจะอลังการมาก แต่พอมาเป็นผมกับน้องแป้งก็จะไม่ได้มีโชว์ตรงนั้น แต่การแสดงทุกอย่างมันไม่ได้ลดลง อาจจะเปลี่ยนไปในเรื่องของเนื้อเรื่องที่หยิบมาแสดงมากกว่า ของเราจะปรับให้ทันสมัยมากขึ้น อย่างเนื้อเรื่องที่เราหยิบมาเล่นก็เช่น เกมส์รักล่าบัลลังก์ มันก็จะเป็นเนื้อเรื่องใหม่ๆ จากที่เมื่อก่อนเราจะหยิบยกนิทานชาดกมาทำ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเรื่องเก่าๆจะหายไปด้วยนะครับ อย่างเกมส์รักล่าบัลลังก์ นางเอกเป็นนางสนมมาโชว์เรื่อง จันทโครพ ให้พระราชาดู อะไรแบบนี้ คือเราสอดแทรกเข้าไปในเรื่องสมัยใหม่ มันก็เหมือนเราดูหนังฝรั่งสักเรื่อง เช่น แบทแมน มันมีหลายยุค หลายเวอร์ชั่นมาก เปลี่ยนไปตามยุคสมัย การแสดงของเราก็เช่นกัน เราอนุรักษ์วัฒนธรรมอยู่แต่เราเปลี่ยนไปด้วยเทคโนโลยี และโปรดักชั่น
ลิเกเราไม่เชยแน่นอนครับ อย่างคนที่มาดูก็มีทั้งรุ่นยาย ร่นแม่ รุ่นลูก รุ่นลูกนี่มาแบบไม่เคยดูลิเกเลยก็มีนะ สามรุ่นเดินออกมาบอกว่าสนุกมาก รุ่นลูกบอกว่าผมอยากดูลิเกอีกเพราะสนุกเหมือนดูหนังเลย เราก็เลยมีกำลังใจที่จะทำต่อไป “เราทำให้มันดูง่าย แต่ไม่ใช่ง่ายแล้วจะ อะไรก็ได้นะ” เราต้องคิด ต้องดัดแปลงอะไรมากมาย ลิเกเราจะมีขอบเขตเรื่องครูอาจารย์ เราจะมีลิมิตว่า มากไปกว่านี้ แบบนี้ เราไม่ทำ เพราะจริงๆแล้วลิเกสมัยนี้เกิดขึ้นเยอะ แต่ลิเกแท้ๆมีน้อยลง ลิเกทั่วไปเขาจะเล่นอะไรก็เล่นได้ แต่ถ้าผมเล่นอะไรที่มากไปไม่เหมาะไม่ควร ผมโดนพี่เอ พี่แอน รุมตีตายแน่เลย จะให้มาใส่ชุดลิเกเด้งหน้าเด้งหลังเนี่ยไม่ได้เลย ใครจะทำไม่รู้ แต่ผมไม่ทำแน่นอน มันไม่ควร แต่มันจะมีการอนุโลมสำหรับตัวโจ๊กบางตัวที่ไม่ได้ใส่ชุดลิเกเต็มยศ อันนี้จะมีการเว้นไว้ แต่ตัวพระ-นาง หรือนักแสดงหลักจะไม่ทำแบบนั้นเลย
พระเอกลิเกสายบู๊
ยิ่งคอนเสิร์ตกับลิเก ผมจะแยกเลย เล่นคอนเสิร์ตคือคอนเสิร์ต จะเล่นลิเกก็เล่นลิเก ไม่รวมกัน ยกเว้นที่เคยทำมาคือ ลิเกเดอะมิวสิคัล เป็นลิเกพุทธประวัติ อันนั้นเราร้อยเรียงใหม่ ที่ผู้ใหญ่ในวงการหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่คิดว่ามันจะออกมาเป็นเนื้อเดียวกันได้ขนาดนี้ ถือเป็นครั้งแรก ที่แรกที่ทำลิเกเดอะมิวสิคัลเลยคือ มิตรชัย ต้องยกเจ้าของไอเดียนี้ให้พี่แอนเลยครับ เพราะพี่แอนเขาได้ปรึกษากับพี่ต้น เจเอสแอล แล้วผมก็จะเล่นบบทบู๊ตลอด มันเลยติดตามมาจนถึงตอนนี้ คนก็จะติดภาพเราว่าเราเป็นพระเอกลิเกสายบู๊ กระบี่ กระบอง มันจะอินมากว่าเมื่อก่อนที่เราใช้ดาบฟันกัน เหมือนเป็นโชว์ๆนึงเลย ซึ่งจะต่างจากพี่เอ พี่เอเขาจะเป็นพระเอกสายหวาน สายอ้อน ผมก็จะมาแนวพระเอกโกงเลย
ผมไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นพระเอกทุกเรื่องด้วยนะ บางทีบทนี้หน้าที่มันเยอะแล้วคนอื่นแบกรับไม่ไหว เราก็ไปเล่นแทนได้ ผมทำได้หมดครับ เราต้องการเปลี่ยนให้คนรู้สึกอิน เหมือนเวลาดูหนัง ก็จะมีพระเอก-นางเอกเปลี่ยนไปตามคาแร็คเตอร์มากกว่า ไม่จะเป็นว่ามิตรต้องเป็นพระเอก แป้งต้องเป็นนางอกเสมอไปครับ ทุกคนเวียนบทกันได้ครับ
บางคนบอกแยกวงเพราะพี่น้องทะเลาะกันหรือเปล่า ไม่ใช่นะครับ พี่เอเขาคิวแน่นจริงๆ ก็ตอนนี้เปิดทีวีไปช่องไหนก็เจอเขา ส่วนพี่แอนก็ยังมีงานที่อินเดียอยู่ บางทีคิวไม่ตรงกัน ก็จะแยกมาเล่นได้ พี่เอเขาก็ไม่ได้ทิ้งลิเกนะครับ ก็ยังมาเล่นอยู่ แต่พอเจ้าภาพที่เขาอยากดูไชยาเขาก็อยากดูพี่เอคู่กับพี่แอน ส่วนผมก็คู่กับน้องแป้ง มันก็เลยกลายเป็นว่าพี่เอถ้าเขาไม่ได้คิวพี่แอนส่วนใหญ่เขาก็จะไม่รับ เราก็ไม่อยากให้หายไป ผมกับน้องแป้งก็เลยลุยเต็มที่ เจ้าภาพเขาอยากได้ เอ-แอน แน่นอนอยู่แล้วครับ แต่ถ้าไม่มีคิว ไม่ได้พี่เอ พี่แอน ได้ มิตร-แป้ง ก็ยังดี ขอให้เป็น “มิตรชัย” เพราะชื่อเสียงที่เราสั่งสมกันมากว่า 30 ปี และกลายเป็นว่าพอเรากับแป้งไปเล่นเสร็จเราก็ได้งานต่อเลย คุณภาพเราไม่ได้ลดลงแต่สไตล์เราอาจจะแตกต่างกันนิดนึงไปตามยุคสมัยเท่านั้นเองครับ
จริงๆลิเกนี่ครอบครัวเราเล่นกันมาแทบทุกรุ่นนะ ตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ของแม่เรา จนมารุ่นพ่อ-แม่เรา รุ่นเรา รุ่นลูกๆหลานๆ ถ้านับจริงๆก็น่าจะเป็นทศวรรษได้ แต่ถ้าตอนมาเป็นคณะลิเกของ “มิตรชัย” จริงๆจังๆก็ประมาณ 30 กว่าปีเกือบ 40 ปีครับ รุ่นคุณแม่เขาจะเป็น “จันทร์ทรา ราเชน” แต่มิตรชัยจริงๆมาเริ่มตั้งตี่เอ “ไชยา มิตรชัย”
เรื่องชุดก็อลังการมากครับ อย่างผมมาทำเองเนี่ยพอมีเรื่องใหม่ก็ตัดชุดใหม่เพื่อเรื่องนั้นเลย บางชุดเป็นแสน เพชรเม็ดใหญ่ไม่ได้หมายความว่าจะแพงทีสุดเสมอไป เพชรเม็ดเล็กๆที่ละเอียดๆนั่นล่ะครับแพงมาก เพราะมันใช้เวลาทำนานมากที่ต้องค่อยๆฝังลงไปที่ชุด บางชุดใช้เวลาทำนานถึง 4-5 เดือนเลย
เป็นวัยรุ่นยุคใหม่ทำไมเลือกที่จะรับช่วงมาเล่นลิเก คือผมต้องบอกเลยว่าผมเลือกที่จะอยู่กับความจริง เมื่อก่อนผมไม่ได้รักลิเกเลยนะ ตอนเด็กๆ ผมเลี่ยงทุกทาง แม่ก็พยายามบังคับเคี่ยวเข็ญตลอด แต่พอโตมาด้วยความที่เราเห็นพ่อ-แม่เหนื่อย พี่เอ-พี่แอนมีงานตลอด ทุกคนในครอบครัวเหนื่อยจริงๆ ผมเลยคิดว่าแล้วเรามัวแต่ไปวาดฝันอะไรอยู่ ทำไมเราไม่ทำสิ่งที่เรามีอยู่ ผมเลยหันมาจริงจังกับลิเกได้ 2-3 ปีแล้วครับ เมื่อก่อนสมัยเด็กผมจะไปทางสายร้องเพลง-เล่นละคร และอีกอย่างตอนที่น้องแป้งยังไม่ได้เปิดตัวว่าเป็นลูกสาวของพี่เอ น้องก็ยังไม่ได้มีโอกาสมากขนาดนี้ แต่พอเปิดตัวแล้ว ก็เลยมีโอกาสเข้ามามากขึ้น ผมกับแป้งก็เลยจับมือกันว่าเรามาลุยต่อไปด้วยกันดีกว่า
คุณแม่ดวงเดือน - มิตร มิตรชัย
ส่วนน้องชายของแป้งอีกคนเขาก็เข้ามาเล่นแล้วครับ แต่จะมาสายเฮฮามากกว่า เป็นตัวโจ๊กอะไรแบบนี้ จริงๆตัวโจ๊กเล่นยากนะ แต่เขาสามารถทำคะแนนตรงนั้นได้ ผมให้เขาเป็นพระเอกแล้วแต่เขาไม่เอา ไม่เล่นเลย เขาชอบทางนี้มากกว่า
เด็กรุ่นใหม่ๆเราก็สนับสนุนมาตลอด อย่างรุ่นพ่อ-แม่ ถึงเขาจะไม่ได้เปิดมูลนิธิแต่ทุกวันนี้เขาก็ดูแลเด็กๆ สอนลิเกอยู่ที่บ้านที่อ่างทอง มีหลายคนมากครับ บางทีก็จะมีเด็กที่พ่อกับแม่มาฝากไว้แล้วก็หายไปเลยก็มีครับ เราก็ดูแลกันต่อไป ตอนนี้มีเด็กๆที่บ้านประมาณ 100-200 คน คือไม่ได้หมายความว่าเราให้เงินทั้งหมดนะครับ บางทีเราให้เงินไป กินไปก็หมดแล้ว แต่เราให้อาชีพเขา ส่งเสียให้เรียนก็มี และให้เขาได้ไปต่อยอดชีวิตเขาต่อไป ถึงต่อไปเขาจะไปอยู่คณะอื่นเราไม่ว่าเลยครับ ไม่จำเป็นว่าเขามาหัดกับเราจะต้องอยู่กับคณะเราอย่างเดียว แต่ส่วนใหญ่เด็กที่อยู่กับ มิตรชัย ไม่เคยไปเล่นคณะอื่นๆเลย อันนี้เราผูกพันกันเหมือนพี่เหมือนน้องจริงๆ ต่อให้เป็นพี่น้องแท้ๆในบ้านถึงโตมาไม่เล่นลิเกเราก็ไม่ว่ากันนะ พี่เอ-พี่แอน สอนน้องๆดีมาก สอนว่าให้สัมมาอาชีพแล้ว ใครจะไปทำอะไรต่อก็แล้วแต่เลย
นี่แหละครับผมเลยจะปรับให้ลิเกมันอยู่ได้ตามยุคสมัยไปเรื่อยๆทั้งคนรุ่นใหม่ ทั้งการเล่นลิเกแบบใหม่ แสง สี เสียง เราพัฒนาให้ทันยุคสมัยไม่อยากให้ลิเกต้องหายไปตามกาลเวลา แฟนคลับผมก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นแม่ๆนะครับ วัยรุ่นทั้งนั้นเลย มันก็เลยพิสูจน์ว่าสิ่งที่ผมทำได้ ถึงจะเป็นแวดวงค่อนข้างจะเล็ก แต่เราก็ทำเต็มที่ เพราะคนเดี๋ยวนี้จะสนใจลิเก โขน ลำตัด แบบสมัยก่อน ก็น้อย ไม่เยอะเหมือนคนรุ่นก่อน แต่เราก็จะมีบางทีที่เราเล่นเป็นนักรบแล้วต้องถอดเสื้อ โชว์ท่อนบน คนก็จะเห็นปกคลิปแบบนั้นก็จะสนใจเข้ามาดู แต่พอคลิกเข้ามาดูแล้วจะรู้เลยว่าผมไม่ได้ขายแบบนั้น ทุกอย่างมันเป็นไปตามคาแร็คเตอร์ในเรื่องนั้นๆที่มันควรจะเป็นมากกว่า ผมมีหลากหมายสไตล์ในการแต่ง แต่ผมเข้าใจว่ายุคสมัยมันเปลี่ยน คนที่แชร์ไปเพราะหน้าปกเราก็เข้าใจ แต่อยากให้มาดูว่าจริงๆมันไม่ได้เป็นแบบนั้น อยากให้มาดูให้มากกว่านั้น ดูที่เนื้องานกัน"
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากอินเตอร์เน็ต
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |