7ก.พ.61-เมื่อเวลา 00.15 น. ว่าที่ร้อยตรีอภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ นายเศวตรฉัตร สุวรรณรัตน์ ปลัดอาวุโสเมืองกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณย่านใจกลางชุมชนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ย่านการค้าเสียหายอย่างหนัก เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา

โดยต้นเพลิงมาจากห้องครัวร้านอาหารอ็อกโทเบอร์ บริเวณซอยสลิงกี้บาร์ ก่อนลุกลามอาคารบริเวณใกล้เคียงเป็นวงกว้างจนวอดไปกว่า 25 คูหา เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีลมพัดแรง ผู้ประกอบการร้านค้า นักท่องเที่ยวต่างวิ่งหนีตายกระโดดลงจากชั้น 2 ของอาคาร ขณะที่เครื่องมือและน้ำในการดับเพลิงมีจำกัด  ไม่มีน้ำประปาและรถดับเพลิง ทำให้ยากลำบากในการสกัดเพลิง
กระทั่งผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง กระแสลมเปลี่ยนทิศทาง เพลิงได้เริ่มสงบลง ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติช่วยกันลากสายน้ำที่ต่อมาจากแพลำเลียงของเอกชนมาฉีดสกัดเพลิง นอกจากนี้นักท่องเที่ยวนับ 100 คนยังช่วยกันขนถังน้ำดื่มน้ำใช้มาช่วยกันดับไฟที่ยังคงคุกรุ่น เพื่อไม่ให้ไฟปะทุขึ้นมาอีก จนสามารถควบคุมเพลิงได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องแสดงความดีใจของนักท่องเที่ยว

ว่าที่ร้อยตรีอภินันท์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก ถูกเพลิงไหม้ รวมกว่า 25 คูหา ซึ่งในขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ยังคงเหลือเสาไม้กลางอาคารที่ต้องใช้เชือกดึงลงมา เนื่องจากยังมีประกายไฟ ส่วนผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีทั้งหมด 9 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย อาร์เจนติน่า 3 ราย บราซิล 2 ราย และอิสราเอล 1 ราย

สำหรับชาวอาร์เจนตินา 3 รายรักษาที่คลินิกเอกชน และได้รับอนุญาตให้กลับแล้ว ส่วนชาวบราซิล 2 ราย และคนไทย 2 ราย ยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกาะพีพี ซึ่งทั้งหมดอาการปลอดภัย โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่บาดเจ็บเนื่องจากกระโดดลงมาจากที่พักชั้น 2 ของอาคารที่เกิดเพลิงไหม้และมีอาการสำลักควัน ส่วนความเสียหายประเมินเบื้องต้นไม่กว่า 30 ล้านบาท
รองผู้ว่าฯกระบี่ กล่าวถึงสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ว่า จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ทราบว่า เกิดจากแก๊สในร้านอาหารอ็อกโทเบอร์รั่ว ก่อนเกิดประกายไฟ และลุกลามบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้จะต้องรอให้กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง  โดย พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ จะลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ต่อไป

ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงแรมที่เกาะพีพีให้รับนักท่องเที่ยวที่ได้รับความเดือดร้อนไม่มีที่พักประมาณ 100 คน เข้าพักที่โรงแรมบนเกาะพีพี โดยนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดีและขอบคุณนักท่องเที่ยวที่มีจิตอาสาช่วยกันขนน้ำมาดับไฟจนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ หลังจากนี้จะวางมาตรการในเรื่องการควบคุมและวางแผนรับมือกับเหตุเพลิงไหม้ที่เกาะพีพี เนื่องจากเกาะพีพีไม่มีทั้งระบบประปาและการดับเพลิง ขณะที่โรงแรม ที่พัก ร้านค้า มีความแออัด เมื่อเกิดเพลิงไหม้ไม่สามารถดับเพลิงได้ทันท่วงที.