เที่ยวนอกกรอบ ท่องเมืองจันท์ วันธรรมดา ชวนกันขึ้น “เขาคิชฌกูฎ ปี2562”


เพิ่มเพื่อน    

          

ในการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยนั้นผูกพันกับการเที่ยวไป ทำบุญไป เพื่อความเบิกบานใจและความโชคดีมีชัยของตัวเอง  สำหรับการเดินทางไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ที่ยอดเขาคิชกูฏ จังหวัดจันทบุรี นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่หลายคนอยากได้สัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง และสำหรับปี 2562 นี้ งานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง  เขาคิชฌกูฎ   กำหนดเปิดให้ขึ้นไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ได้ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ถึง 5 เมษายน 2562 บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฎ อำเภอเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี นับเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่นักท่องเที่ยวสายบุญพลาดไม่ได้ อีกทั้งมีช่วงเวลายาวนาน สามารถเลือกกระจายความแออัดด้วยการเดินทางไปในวันธรรมดาได้

 

นางปราณี  จั่นนพรัตน์   ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจันทบุรี เปิดเผยว่า    จันทบุรีเป็นจังหวัดในภาคตะวันออก ที่มีหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวมีทั้ง ทะเล น้ำตก สวนผลไม้ โบราณสถาน ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์  แหล่งท่องเที่ยวชุมชน และยังเป็นจังหวัดที่เดินทางมาท่องเที่ยวได้ง่ายใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ 3 ชั่วโมงเศษและมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวทำได้ทุกวัน ไม่ว่าวันหยุดหรือวันธรรมดา

 

ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานจันทบุรี กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่มีโอกาสมาเที่ยวจังหวัดจันทบุรีในช่วงวันที่ 5 กุมภาพันธ์-วันที่ 5 เมษายน จะได้ร่วมกิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลาย โดยเฉพาะบรรดานักท่องเที่ยวสายบุญ สามารถร่วมงานประเพณีเดินขึ้นเขาคิชฌกูฏ ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่พุทธศาสนิกชนเดินทางมาแสวงบุญกันเป็นจำนวนมาก นอกจากได้นมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังจะได้ชมความงดงามแปลกอัศจรรย์ของหินลูกพระบาท  ก้อนหินกลมใหญ่ริมหน้าผา

 

วิธีการเดินทาง ให้มาตามถนนสุขุมวิท ถึงทางแยกเข้าตัวเมืองจันทบุรี (สี่แยกเขาไร่ยา) เลี้ยวลงถนนไปตามเส้นทางไปน้ำตกกระทิง หรือถนนบำราศนราดูร จากทางแยกเขาไร่ยา ไปถึงน้ำตกกระทิงระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เมื่อเลยจากวัดกระทิงไป 400 เมตร ถึงแยกขวามือเป็นทางไปวัดพลวง เป็นถนนลูกรังระยะทาง 3 กิโลเมตร เมื่อถึงวัดพลวงจะเป็นจุดเริ่มต้นขึ้นไปยังยอดเขา มีรถรับจ้างรับไปส่งถึงจุดที่ใกล้ที่สุด และเดินเท้าต่ออีกประมาณ 40 นาที ผู้ที่เดินทางมาถึงวัดพลวงตอนเย็น สามารถพักค้างคืนเพื่อเริ่มเดินขึ้นสู่ยอดเขาในตอนเช้าได้ โดยทางวัดมีที่พักและที่อาบน้ำไว้รองรับคนได้จำนวนมาก

 

นอกจากกิจกรรมของสายบุญแล้ว ยังมีกิจกรรมสำหรับสายเฮลท์ตี้  ตามเทรนด์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่กำลังนิยมอยู่ในเวลานี้ คืองานวิ่งและปั่นที่จันทบูร "Race on The Moon" Chanthaburi Run&Ride 2019  ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม 2019 เวลา 04:30 – 10:30รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมทบทุนการศึกษาของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และมอบให้แก่นักศึกษาที่เรียนดี แต่ขาดทุนทรัพย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี   หรืออาจเลือกมางาน“วิ่งเลียบคุ้ง เคียงเนิน เพลินทะเล”ในวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2562 ณ ลานหินโคร่ง หาดคุ้งวิมาน อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี เพื่อหารายได้สนับสนุนอุปกรณ์ไฟฟ้าให้กับโรงเรียนนายายอามพิทยาคม  อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ก็ได้เช่นกัน 

 

ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานจันทบุรี  กล่าวต่อว่า นอกจากมาร่วมกิจกรรมแล้ว เมืองจันทบุรีก็มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ให้มาเยือนได้ทุกวันและตลอดทั้งปี  โดยมีไฮไลท์น่าสนใจดังนี้ เริ่มที่“ศาลหลักเมือง” และ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”  ตั้งอยู่ในตัวเมืองจันทบุรี หน้าค่ายตากสิน กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1  กองพลนาวิกโยธินตั้งอยู่ข้างๆ  ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนจันทบุรีเคารพบูชาเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่นิยมเข้ามาไหว้ขอพรที่ศาลหลักเมืองจันทบุรี และเมื่อขอพรเสร็จแล้ว ก็ไปไหว้ขอพรศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน

จากนั้นต่อด้วยการชมความงามของวัดคาทอลิกจันทบุรี  “อาสนวิหารพระนางมารีอาปฎิสนธินิรมล” เป็นอาสนวิหารประจำมิสซังโรมันคาทอลิกจันทบุรี ตั้งอยู่บริเวณริมคลองจันทบุรี ตรงข้ามชุมชนเก่าแก่จันทบูร ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจังหวัดจันทบุรี มีประวัติการก่อสร้างยาวนานถึง 275 ปี เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโกธิค ภายในตกแต่งด้วยกระจกสีที่เรียกว่า สเตนกลาส  เป็นภาพนักบุญต่างๆ ซึ่งมีความงดงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และที่สำคัญภายในโบสถ์มีแม่พระประดับพลอย วัสดุที่นำมาสร้างประกอบด้วยทองคำบริสุทธิ์ เงินบริสุทธิ์ และพลอยบริสุทธิ์ ถือได้ว่าเป็นองค์พระแม่ที่ล้ำค่าและสวยที่สุด

 

 

ไม่ห่างกันคือ “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” เป็นชุมชนเก่าแก่ของชาวจีนและญวนอพยพตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมาได้พัฒนามาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการค้าของจันทบุรีที่สำคัญแห่งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 5  ถึงแม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปมากสักเพียงใด แต่ร่องรอยในอดีตของชุมชนเก่าแห่งนี้ก็ยังไม่เลือนหายไปตามกาลเวลาจนปัจจุบันกลายสถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือน

 

เปลี่ยนบรรยากาศเอาใจนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติคือ “อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว”  เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดจันทบุรี มีน้ำตลอดทั้งปี  เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีความแปลกกว่าน้ำตกอื่น ตรงที่เป็นน้ำตกที่มีเพียงชั้นเดียว มีต้นน้ำมาจากธารน้ำ 2 สาย สายหนึ่งไหลมาจากต้นน้ำ ไหลลอดตามแนวซอกหิน มาบรรจบกับอีกสายหนึ่งที่เล็กกว่า  

 

 

อีกทั้งยังมีเส้นทางเดินที่ทำไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมธรรมชาติ มีระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นทางเดินสำหรับเดินชมต้นไม้ แมลง นก และสัตว์ป่า ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ริมสองข้างทางเดิน  น้ำตกแห่งนี้ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 15 กิโลเมตร ขับรถเส้นสุขุมวิทไปทางจังหวัดตราด

 

ส่วนสถานที่ห้ามพลาดเด็ดขาดคือ “ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต”   เส้นทางเชื่อมโยงเส้นทางริมฝั่งทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ตั้งแต่ช่วงจังหวัดระยอง จนถึงจันทบุรี เป็นเส้นทางผ่านแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง  มีจุดชมวิวที่มีความสวยงาม ได้แก่ จุดชมวิวเนินนางพญา มองเห็นวิวทะเลกับถนนที่คดเคี้ยวสวยงาม รวมทั้งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสวยที่สุด สิ้นสุดของถนนเส้นนี้ก็จะมีจุดชมวิวได้แก่ เจดีย์กลางน้ำ มีสะพานทอดยาวไปถึงเจดีย์ที่ตั้งอยู่กลางทะเล ทำให้มองเห็นวิวกลางน้ำทะเลที่สวยงาม 

 

นอกจากนี้ยังมี"ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ" บนพื้นที่อำเภอท่าใหม่ เนื้อที่ประมาณ 4,000 ไร่ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2525 มีหน้าที่ศึกษาค้นคว้าและวิจัยในเรื่องระบบนิเวศทางธรรมชาติ เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดจันทบุรี ภายในศูนย์ฯ มีสะพานเดินศึกษาธรรมชาติและป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน ระยะทาง 1,600 เมตร เป็นเส้นทางชมป่า พร้อมกับมีศาลาเล็กไว้เป็นระยะแสดงข้อมูลความรู้เกี่ยวกับป่าชายเลน และข้อมูลพันธุ์ไม้ต่างๆ เช่น โกงกาง แสม ลำพู ฯลฯ

 

คนที่สนใจเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ จันทบุรีเป็นเมืองที่มีความสำคัญในอดีตและมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เหลือให้เห็น อาทิ "ตึกแดง" ที่ก่ออิฐถือปูน ทาด้วยสีแดงทั้งหลัง เคยเป็นที่ตั้งกองบัญชาการและที่พักนายทหารของฝรั่งเศสสมัยที่เข้ามายึดครองเมืองจันทบุรี รวมทั้ง "คุกขี้ไก่" เป็นอาคารสองชั้นที่ฝรั่งเศสใช้คุมขังนักโทษโดยเลี้ยงไก่ไว้ชั้นบนเพื่อให้ถ่ายมูลรดศีรษะนักโทษด้านล่าง

 

ผู้อำนวยการททท.สำนักงานจันทบุรีกล่าวต่อว่า จบจากเรื่องเที่ยวก็ต่อด้วยสายกิน มี 2 ร้านแนะนำ ที่ชูอาหารถิ่นพื้นบ้าน เริ่มที่   “ร้านครัวเรือนจันท์”  ตั้งอยู่บริเวณถนนท่าแฉลบ ทางเข้าเรือนจำ จังหวัดจันทบุรี เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00 – 15.00 น.  ขายข้าวแกง และอาหารพื้นบ้านจังหวัดจันทบุรี  ราคาเริ่มต้นที่ 29 บาท   และ “ร้านจันทรโภชนา”  มีเมนู เด็ดที่หารับประทานจากที่อื่นยาก อาทิ แกงหมูชะมวง  ,แกงหมูขิงแห้ง ,มัสมั่นทุเรียน ,แกงเป็ดเงาะ , ส้มตำทุเรียน โดยมีให้บริการสองสาขา คือ สาขาเบญจมราชูทิศ ติดกับโรงแรมเกษมศานติ์ ถนนเบญจมราชูทิศ ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 22.00 น.  และ สาขามหาราช ตรงข้ามวัดป่าคลองกุ้ง อำเภอเมืองจังหวัดจันทบุรี เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา09.00 – 22.00 น.

 

"มั่นใจว่าหากเลือกเดินทางมาเที่ยวเมืองจันทบุรีในช่วงนี้แล้ว นอกจากได้อิ่มบุญอิ่มใจ สุขภาพแข็งแรงแล้ว ยังได้รับความประทับใจจากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ พร้อมอร่อยกับอาหารถิ่น และ ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระจายรายได้ลงสู่ชุมชนต่าง ๆ สอดคล้องกับโครงการ "เที่ยวไทยเท่...เที่ยวนอกกรอบ ออกไปเที่ยวเมืองรอง" ของททท.อีกด้วย  " ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานจันทบุรี เชิญชวนปิดท้าย

 

สอบถามข้อมูลได้ที่  ททท.สำนักงานจันทบุรี  (สำนักงานชั่วคราว) 85/26  โครงการเจมส์อเวนิว ถนนมหาราช ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี 22000 โทร 039-609112 หรือ www. Facebook.com/tatchan

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"