สร้างแบรนด์ เพิ่มคุณค่า ส่งเสริมเอสเอ็มอี(อีโคโฟกัส)
กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี เป็นกลุ่มธุรกิจเล็กๆ ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะหลายฝ่ายมองว่าจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโตขึ้นมาได้ ถึงจะไม่ได้รวดเร็วเท่ากับการลงทุนขนาดใหญ่ และก็เป็นการวางรากฐานให้กับประชาชนในประเทศได้อย่างดีที่สุด จึงเกิดไอเดียมากมายในการสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งศูนย์พัฒนาเอสเอ็มอี ตั้งศูนย์ให้ข้อมูล ออกมาตรการต่างๆ มาช่วยเหลือ มอบความรู้ ดูงาน เปิดตลาด ควบคู่ไปกับสนับสนุนทางด้านการเงินด้วย เอสเอ็มอีในประเทศไทยก็ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
แต่ก็พูดไม่ได้ เพราะมีบางกลุ่มที่มีความคิดสร้างสรรค์ เข้าหาทุกเครื่องมือที่มีไว้ให้ และมีเงินทุนพอที่จะกล้าได้กล้าเสียกับการพัฒนา ก็สามารถเติบโตและต่อยอดธุรกิจตัวเองให้มาทัดเทียมกับธุรกิจระดับใหญ่ๆ ของประเทศได้บ้าง แต่ในขณะที่ธุรกิจรายย่อย ตัวจิ๋ว ตัวเล็ก ที่เดิมเป็นเพียงร้านค้าทั่วไปและอยากจะพัฒนาตัวเองขึ้นมา ถึงจะเข้าถึงเครื่องมือที่มีให้ทั้งหมดแล้วก็อาจจะไม่เติบโตอย่างที่หวังไว้
อย่างไรก็ตาม เอสเอ็มอีก็ยังเป็นความหวังหลักๆ ของประเทศที่หวังว่าจะเติบโตและเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ในการเดินหน้าประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงไม่ลดความพยายามที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นผลดีกับกลุ่มผู้ที่ทำธุรกิจ เพราะจะเป็นช่องทางที่จะทำให้ตัวเองไปอยู่ในกลุ่มที่ได้รับความสนใจ และพัฒนาออกมาให้เติบโตจากจุดที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้
ซึ่งการสนับสนุนที่ออกมาจากหน่วยงานที่ดำเนินงานด้านนี้ ก็ออกมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด สภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภาเอสเอ็มอี) ที่นำโดย นายไชยวัฒน์ หาญสมวงศ์ ประธานสภา ก็ได้มีการโชว์มาตรการใหม่ที่จะสนับสนุนเอสเอ็มอีอีกช่องทางหนึ่ง ทำให้เกิดความรับรู้ระดับประเทศ ขยายตลาดให้กับกลุ่มเป็นผู้ทำธุรกิจ และเป็นแนวทางที่หวังว่าถ้าเกิดขึ้นมาจริงๆ แล้วจะเป็นอนาคตที่สดใสจริงๆ
โดยมีการผลักดันโครงการ SMEs Smart Province (เอสเอ็มอี สมาร์ท โพรวินส์) เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการระดับจังหวัดและพัฒนาสินค้าเด่นสร้างเป็น Brand Province (แบรนด์โพรวินส์) โดยนำสินค้าที่มีจุดเด่นในจังหวัดมาสร้างเป็นแบรนด์ที่เข้มแข็งทำให้เอสเอ็มอีในแต่ละจังหวัดมีเป้าหมายมากขึ้น โดยการดำเนินโครงการจะใช้กลไกความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถานศึกษา จากในระดับจังหวัดรวมกับกลไกในระดับประเทศ
เริ่มจากการสร้างความเข้มแข็งจากระดับจังหวัด เพื่อสนับสนุนความรู้ความเข้าใจในการเข้าถึงแหล่งทุน และองค์ความรู้ต่างๆ โดยบูรณาการความร่วมมือและใช้กลไกทุกภาคส่วนของจังหวัดในการขับเคลื่อนทั้งระบบ ประกอบด้วย ภาครัฐ ได้แก่ อุตสาหกรรมจังหวัด พาณิชย์จังหวัด สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ภาคเอกชน ได้แก่
สภาเอสเอ็มอีจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด สมาคม มูลนิธิ วิสาหกิจ ชุมชน และบริษัทประชารัฐ ภาคการศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) และมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) ในจังหวัด และภาคสถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ และธนาคารรัฐที่อยู่ในจังหวัด
ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขใน 3 ประเด็นปัญหาหลักของเอสเอ็มอี คือ 1.การตลาด โดยการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ด้วยการรับรองระบบคุณภาพ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การได้ตรามาตรฐานฮาลาล และการสร้างแบรนด์โพรวินส์ โดยความร่วมมือกับบริษัทประชารัฐในการสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออฟไลน์และแบบออนไลน์ ได้แก่ ผ่านเครือข่ายโทรทัศน์และวิทยุ
2.การเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยร่วมมือกับธนาคารให้ความรู้กับเอสเอ็มอีในการเตรียมตัวขอสินเชื่อธนาคาร และการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีเดียว โดยการจัดอบรมให้กับผู้ประกอบการทั้งที่เข้าระบบแล้ว และยังไม่เข้าระบบให้ทราบแนวทางและการเตรียมตัวเพื่อสามารถเข้าถึงแหล่งทุนภาคสถาบันการเงินในอนาคตได้
3.การให้องค์ความรู้ โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้คนรุ่นใหม่สำเร็จออกมาเป็นผู้ประกอบการที่มีความพร้อมและมีคุณภาพ รวมทั้งการสนับสนุนติดอาวุธทางปัญญาให้ผู้ประกอบการ ด้วยหลักสูตรการศึกษาไร้ปริญญาและบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมและอื่นๆ
ที่สำคัญคือการแก้ปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยร่วมมือกับธนาคารให้ความรู้กับเอสเอ็มอีในการเตรียมตัวขอสินเชื่อธนาคารและการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีเดียว โดยการจัดอบรมให้กับผู้ประกอบการทั้งที่เข้าระบบแล้วและยังไม่เข้าระบบให้ทราบแนวทางและการเตรียมตัวเพื่อสามารถเข้าถึงแหล่งทุนภาคสถาบันการเงินในอนาคตได้และการให้องค์ความรู้
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีประมาณ 3 ล้านราย มีส่วนแบ่งรายได้ในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประมาณ 39% แต่มีเอสเอ็มอีที่เข้าสู่ระบบเพียง 1 ล้านราย แบ่งเป็นเอสเอ็มอีที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ ประมาณ 600,000 ราย และเป็นเอสเอ็มอีที่อยู่ในระบบของธนาคารซึ่งมีการจัดทำบัญชีเดียวอย่างถูกต้องประมาณ 4.68 ล้านราย
ขณะที่เอสเอ็มอีที่เหลืออีก 2 ล้านรายไม่ได้อยู่ในระบบทำให้การขอสินเชื่อเพื่อดำเนินการธุรกิจเอสเอ็มอีจำนวนมากยังไม่สามารถที่จะทำได้ เห็นได้จากวงเงินสินเชื่อสำหรับเอสเอ็มอีที่ภาครัฐมีการจัดสรรให้กว่า 150,000 ล้านบาท มีเอสเอ็มอีที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนนี้ไม่กี่หมื่นรายเท่านั้น ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวนอกจากจะสนับสนุนอาชีพเดิมของเอสเอ็มอีอยู่แล้ว ยังสามารถให้ผู้ประกอบการเหล่านั้นสามารถมาเข้าระบบและเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างดีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การสร้างแบรนด์โพรวินส์จะต้องผ่านองค์ความรู้และมีการเข้าถึงตลาดอย่างดีที่สุด รวมถึงติดตามอย่างใกล้ชิดในขั้นตอนการทำบรรจุภัณฑ์ที่มีความสอดคล้องกับสินค้า ดูตลาดว่าจะขายที่ไหนได้บ้าง ต้องมีการติดปีกทางการตลาด รวมถึงสัญลักษณ์ในการการันตรีแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น อย. ฮาลาล หรืออื่นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
"เราจะต้องทำสินค้าที่เป็นของดีของเด่นในจังหวัดนั้นๆ แต่ไม่ใช่การให้ผู้ประกอบการกระจายเป็นไปแย่งชิงตลาดกันเอง แต่ต้องเป็นการให้ทำภายใต้มาตรฐานเดียวกัน เป็นแบนด์เดียวกันภายใต้แบรนด์โพรวินส์ โดยจะสั่งจัดทำจากกลุ่มผู้ผลิตในชุมชนในแหล่งต่างๆ โดยกำหนดมาตรฐานกลางและทำการโฆษณาว่าเป็นของดีของเด็ดที่สุดในจังหวัดนั้นๆ ที่มีมาตรฐานเดียวกัน และมีเพียงจังหวัดเดียวในประเทศไทยเท่านั้น สร้างเรื่องราวให้กับสินค้ารวมถึงทำตลาดในด้านต่างๆ ด้วย"
ทั้งนี้ การร่วมมือกับเอกชนหรือหน่วยงานขนาดใหญ่ มุ่งหวังว่าจะใช้บริษัทต่างๆ ที่เข้าร่วมกับประชารัฐเป็นตัวกลางที่จะขายสินค้าให้กับผู้ประกอบการในจังหวัดนั้นๆ เนื่องจากบริษัทเหล่านั้นซื้อของไม่มีภาษีได้ แต่ขายของมีภาษีได้ ก็จะใช้ข้อได้เปรียบในส่วนนี้เป็นการดำเนินงาน ขณะที่การขายออกนอกจังหวัดก็จะส่งไปเพียงสินค้าตัวเดียว และเป็นบริษัทตัวแทนเดียวเข้าไปขาย เพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันกันโดยผู้ผลิต หรือผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมนอกเหนือจากจะได้การผลิตสินค้าเดิมที่เคยผลิตอยู่แล้วก็จะมีตัวช่วยในการขยายตลาดเข้ามาด้วย ซึ่งหากมีความสนใจเพิ่มมากขึ้นรายได้ก็จะมาจากคำสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |