ย้ายฉุกละหุก'ศูนย์อพยพหัวไทร'ไม่พอรับชาวบ้าน


เพิ่มเพื่อน    

4 ม.ค.62- สถานการณ์ลมพายุโซนร้อนปาบึก เริ่มถาโถมขึ้นฝั่งแรงขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา โดยมีลมพัดแรงขึ้นเรื่อยสังเกตให้ได้ชัดใน 6อำเภอชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ทั้ง อ.ปากพนัง อ.หัวไทร อ.ท่าศาลา อ.เมือง อ.สิชล อ.ขนอม มีต้นไม้ล้มขวางถนนและไฟดับลงหลายพื้นที่แล้ว ขณะที่ชายฝั่งทะเล อ.หัวไทร ระดับคลื่นมีความสูง2-3เมตรและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆตลอดเวลา โดยเฉพาะบริเวณริมถนนสายหัวไทร-ปากพนัง มีคลื่นทะเลถามโถมซัดขึ้นมาบนถนนตลาดเวลาอย่างน่ากลัว ซึ่งได้จนท.ปภ.และจนท.ท้องถิ่นใน อ.หัวไทรได้นำรถยนต์พร้อมสัญญาณไฟกระพริบประกาศเตือนให้ชาวบ้านที่ยังไม่อพยพออกจากบ้านให้รีบอพยพออกไปอยู่ในที่ปลอดภัยเป็นการด่วนแล้ว เพราะลมและคลื่นเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆอย่างน่ากลัว 

ขณะที่ศูนย์อพยพที่ศาลาประชาคม อ.หัวไทร ที่รับผู้อพยพจำนวน500 คน ไม่สามารถรองรับผู้อพยพได้เพียงพอ ต้องย้ายไปยังศูนย์อพยพที่ปลอดภัยอื่นๆอย่างฉุกละหุก ซึ่งจนท.ทุกฝ่ายต้องทำงานอย่างเต็มที่เพื่อแข็งกับเวลากับลมพายุที่เริ่มเข้ามายังพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชอย่างเต็มตัวแล้ว

ในขณะที่ อ.สิชล ที่ศูนย์อพยพวัดคงคาวดี หมู่ 2 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีผู้อพยพจำนวน 400 คน ปรากฏว่าจุดอพยพแห่งนี้ มีน้ำทะเลเริ่มหนุนสูงและคลื่นแรงมากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยกับผู้อพยพทั้ง400คน จนท.ทหารค่ายฝึกการรบพิเศษที่4สิชล จึงรีบย้ายไปจุดอพยพแห่งใหม่ที่ อบต.เสาเภา ซึ่งปลอดภัยกว่ามาก


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"