วงการแฟชั่นไทยสลด "เซนติเมตร" สไตลิสต์ชื่อดัง พิธีกรรายการ "ล้นตู้" เสียชีวิตพร้อมเพื่อนสนิทรับปีใหม่ ขับรถไปเชียงใหม่ ถูกเก๋งพุ่งชนตกคลองชลประทาน ตำรวจดูภาพวงจรปิดได้หลักฐานชัด ตั้งข้อหาสาวคนขับรถเก๋ง ประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต 
    มีรายงานว่า เมื่อเช้ามืดวันที่ 3 มกราคมนี้ นายจตุรภัทร เข็มนาค หรือ "เซนติเมตร ล้นตู้" อายุ 28 ปี สไตลิสต์ชื่อดังในวงการแฟชั่นไทย และพิธีกรรายการ "ล้นตู้" ทางยูทูบ ได้เสียชีวิตลงแล้วที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หลังประสบอุบัติเหตุรถถูกชนตกคลองชลประทาน โดยก่อนหน้านี้เพื่อนที่นั่งไปด้วยคือ นายศุภกิจ เกิดซ้ำ หรือโจ้ อายุ 30 ปี ผู้จัดการ เน็กซ์ ทู นอร์มอล ร้านมัลติแบรนด์ในเครือเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป ได้เสียชีวิตเป็นศพแรก
    เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา รถเก๋งโตโยต้า วีออส หมายเลขทะเบียน สศ 9790 กรุงเทพมหานคร ชนกับรถฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ฌห 3963 กรุงเทพมหานคร ที่นายจตุรภัทรกับนายศุภกิจนั่งอยู่ จนรถฮอนด้า ซีอาร์วี ตกลงไปในคลองชลประทาน บริเวณสะพานข้ามคลองชลประทานทางเข้าวัดอุโมงค์ ถนนคันคลองชลประทานเชียงใหม่ 700 ปี ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมา พ.ต.ท.ธงชัย บัวเงิน สารวัตร (สอบสวน) สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วยกู้ภัยมูลนิธิรวมใจเชียงใหม่ และทีมแพทย์ฉุกเฉิน รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ได้ไปตรวจสอบ พบมีคนติดในรถที่จมน้ำ 2 ราย เจ้าหน้าที่จึงว่ายน้ำไปช่วยดึงคนขับและผู้โดยสารออกมา ก่อนจะช่วยกันปั๊มหัวใจ แล้วรีบนำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายนำส่ง รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ทว่าแพทย์ไม่อาจยื้อชีวิตคนทั้งสองไว้ได้ เนื่องจากจมน้ำเป็นเวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง
    หลังการเสียชีวิตของนายจตุรภัทร หรือเซนติเมตร บุคคลในวงการบันเทิงและแฟชั่นที่ทราบข่าวต่างโพสต์แสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้ง รวมทั้ง เจนนี่ ปาหนัน และพิชญ์ กาไชย พิธีกรร่วมรายการ "ล้นตู้" แนะนำการแต่งกายอย่างมีสไตล์ 
    เพจเฟซบุ๊ก ที่นี่เชียงใหม่ Fast News ได้เผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิดวินาทีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งโตโยต้าชนกับรถยนต์ซีอาร์วี จนรถยนต์ซีอาร์วีพุ่งตกลงไปในคลองชลประทาน 
    ขณะที่คนขับรถเก๋งโตโยต้าระบุว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถออกมาจากตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นสามแยกไฟแดงที่จะเลี้ยวข้ามสะพานไปยังอีกฝั่งหนึ่ง หลังเห็นสัญญาณไฟเขียวก็ได้ขับรถมาในเลนขวาเพื่อตรงไป แต่จู่ๆ รถคู่กรณีที่อยู่เลนซ้ายได้เลี้ยวขวาตัดหน้ากะทันหัน ทำให้เบรกไม่ทัน พุ่งชนรถคู่กรณีจนเสียหลักตกลงไปในคลอง
    ต่อมาช่วงสายวันพฤหัสบดี ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ น.ส.วิจิตรา ปุกบุญเรือง อายุ 25 ปี พนักงานบริษัทเอกชน คนขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส ได้เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน ว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถอยู่บนถนนคันคลองชลประทานเชียงใหม่ จากตลาดต้นพยอม มุ่งหน้าไปทาง ต.แม่เหียะ และจอดติดไฟแดงอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ เมื่อไฟเขียวได้ขับรถตรงไป ปรากฏว่ารถของคู่กรณีที่อยู่ทางซ้ายได้พุ่งมาแล้วเบียดกัน จนกระทั่งรถของคู่กรณีตกลงไปในคลองชลประทาน ส่วนรถของตนเองติดอยู่บริเวณราวสะพาน รู้สึกเสียใจมากที่ทราบว่าคู่กรณีเสียชีวิตทั้งคู่ ส่วนในเรื่องของคดี ทราบว่าตำรวจอยู่ระหว่างรอหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ซึ่งผลจะออกมาอย่างไรก็พร้อมยอมรับตามนั้น
    ด้าน พ.ต.ท.ธงชัย บัวเงิน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด 
    มีรายงานว่า เวลาต่อมามีการเปิดเผยภาพกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่าในช่วงเกิดเหตุ รถเก๋งของ น.ส.วิจิตราวิ่งมาตามเส้นทางเลนขวาสุด ซึ่งปกติเป็นช่องทางสำหรับเลี้ยวขวาข้ามสะพาน แต่กลับมุ่งหน้าตรงไป ส่วนรถฮอนด้า ซีอาร์วี อยู่ช่องกลางแล้วหักเลี้ยวขวา จนเกิดการเบียดกันชนราวสะพาน ทำให้รถรถซีอาร์วีตกลงไปในคลองชลประทาน 
    ในช่วงบ่าย พ.ต.อ.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เอนก ไชยวงค์ รอง ผกก.หน.งานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ พ.ต.ท.ธงชัย บัวเงิน สว.(สอบสวน) ตรวจสอบคลิปจากภาพกล้องวงจรปิด บริเวณสามแยกที่เกิดเหตุ และลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย
    พ.ต.ท.ธงชัยเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเส้นแบ่งการจราจร ถนนคันคลองชลประทาน ขาออกเมือง จุดเกิดเหตุมีไฟจราจร พบว่ามี 3 ช่องทาง โดยช่องซ้ายสุดให้รถวิ่งไปทางตรง ช่องกลางเป็นช่องที่รถสามารถไปทางตรงและเลี้ยวขวาได้ ส่วนช่องขวาสุดเป็นช่องที่ใช้สำหรับยูเทิร์น โดยมีเครื่องหมายการตีเส้นจราจรสีขาวแบ่งไว้ชัดเจน จากคลิปวงจรปิด ช่องทางการเดินรถของคู่กรณีทั้ง 2 คัน พบว่ารถยนต์นั่งซีอาร์วีขับมาตรงช่องทางถูกต้องและสามารถเลี้ยวขวาได้ ส่วนรถเก๋งโตโยต้า วีออส หมายเลขทะเบียน สศ 9790 กรุงเทพมหานคร ที่ขับโดย น.ส.วิจิตรา ปุกบุญเรือง อายุ 25 ปี ขับอยู่ช่องขวา ซึ่งเป็นช่องที่ใช้สำหรับยูเทิร์นเท่านั้น แต่ปรากฏว่า น.ส.วิจิตรากลับขับไปทางตรง ไม่ได้ยูเทิร์น กระทั่งเกิดอุบัติเหตุชนกับรถซีอาร์วีขึ้น ตำรวจจะได้เรียกตัว น.ส.วิจิตรามารับทราบข้อกล่าวหาในฐานความผิดขับขี่รถยนต์โดยประมาท เป็นเหตุทำให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทรัพย์สินเสียหาย
    "จากคลิปวิดีโอที่มองเห็นว่าฝ่ายผู้ตายไม่ได้เปิดไฟเลี้ยวแต่แรก แล้วขับเข้ามายังเลนขวาสุด ทำให้ถูกชนอย่างจังนั้น ยังไม่ถือเป็นประมาทร่วม แต่เป็นความผิดเรื่อง พ.ร.บ.จราจร" พ.ต.ท.ธงชัยกล่าว
    ที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ น.ส.สุภิญญา ตันติประชานุพันธ์ ลูกพี่ลูกน้องของนายจตุรภัทร หรือเซนติเมตร ได้เดินทางไปขอรับศพ เพื่อจะนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด จ.นครนายก ส่วนศพของนายศุภกิจ หรือโจ้ ได้มีนายประทิน เกิดช้ำ อายุ 64 ปี บิดา ติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่กรุงเทพมหานคร
    นายวิฑูรย์ กองเกิด พนักงานกู้ชีพเทศบาลตำบลสุเทพ เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งรถถูกชนตกน้ำและมีผู้ติดอยู่ในรถ ก็ได้เดินทางไปช่วยเหลือพร้อมเพื่อนกู้ชีพ โดยเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ที่ไปถึงก่อนหน้าสามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุคนแรก คือ เซนติเมตร ขึ้นมาได้ และทางทีมงานของเทศบาลตำบลสุเทพได้ช่วยทำการซีพีอาร์ปฐมพยาบาล ซึ่งเวลานั้นเซนติเมตรยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ได้สติ จึงได้นำขึ้นรถและปฐมพยาบาลไปตลอดทาง ส่งรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ส่วนผู้ประสบเหตุอีกคนหนึ่งช่วยเหลือออกมาได้ภายหลัง และทางทีมกู้ชีพของ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่นำตัวส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะรถตกลงไปในคลองชลประทานและน้ำเชี่ยว เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยทุกคนได้พยายามให้การช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความสามารถ และรู้สึกเสียใจที่ผู้ประสบเหตุเสียชีวิต
    นายเกียรติ ใจอินทร์ อายุ 48 ปี พ่อค้าขายส้มตั้งแผงอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 2 ม.ค. ได้ยินเสียงรถชนกัน จึงหันไปเห็นรถยนต์คันหนึ่งตกลงไปในคลองชลประทาน จากนั้นได้มีผู้เห็นเหตุการณ์วิ่งไปเพื่อช่วยเหลือ ส่วนตนถือค้อนไปด้วยเพื่อทุบกระจกรถ แต่เมื่อไปถึงไม่สามารถช่วยเหลือได้ เนื่องจากหลังคารถคว่ำจมลงไปในน้ำที่เชี่ยว และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างไม่มีความชำนาญ จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือ ระหว่างที่ชุลมุนอยู่นั้นได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือออกมาจากในรถ จนกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้มาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล กระทั่งทราบภายหลังว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ศพ.