พักเรื่องเลื่อนไม่เลื่อนเลือกตั้งเอาไว้ก่อน เพราะชักจะไปกันใหญ่ 
    รอว่าพระราชกฤษฎีกาประกาศเลือกตั้งออกมาเมื่อไหร่ เมื่อนั้นเดินต่อได้ทันที 
    ไปดูชีวิตพี่น้องชาวไทยในภาคใต้กันบ้าง
     "ปาบึก" เล่นงานแล้ว! 
    ต้องอพยพชาวบ้านกันขนานใหญ่
    โดยเฉพาะที่นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี 
    ชั่วชีวิตของหลายคนคงไม่เคยเห็นว่า สินค้า อาหาร ในห้างจะหมดชั้นวางของ เพราะประชาชนแห่ซื้อกักตุนไว้ 
    คราวนี้การเตือนภัยจากภาครัฐดูจะมีประสิทธิภาพ ออกข่าวเตือนเป็นระยะ มีการวางแผนอพยพและลงมือให้เห็นเป็นรูปธรรม 
    หากเทียบกับ พายุโซนร้อนแฮเรียต เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๐๕ ที่มีความเร็วลม ๙๕ กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว ปาบึกน่ากลัวน้อยกว่า 
    เพราะมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางเพียงประมาณ ๖๕ กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น 
    ในวันที่แฮเรียตถล่มแหลมตะลุมพุกนั้น คร่าชีวิตผู้คนไปถึง ๙๑๑ ราย 
     ส่วนพายุเกย์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๓๒ ถล่มชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ด้วยความเร็วถึง ๑๘๕ กิโลเมตรต่อชั่วโมง 
    เป็นไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดที่ประเทศไทยเคยเจอ
    ปีนั้นมีผู้เสียชีวิตไปถึง ๔๔๖ คน 
    ผ่านมาหลายปีเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ทันสมัยขึ้น การมีโซเชียลช่วยให้การกระจายข่าวเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น
    แต่ก็สร้างความตื่นตระหนกได้เช่นกัน 
    ยกตัวอย่าง วันก่อน "สมิทธ ธรรมสโรช" ที่เคยทายแม่นๆ ว่าจะเกิดสึนามิที่เมืองไทย แล้วก็เกิดจริงๆ ช่วงปลายปี ๒๕๔๗ 
    หลังจากนั้น "สมิทธ ธรรมสโรช" ได้ฉายา "สมิทธ คิดไปเอง" เพราะไม่เคยทำนายภัยพิบัติใดๆ ได้ถูกอีกเลย 
    มาคราวนี้ "สมิทธ ธรรมสโรช" ทึกทักเอาว่า ถ้า "ปาบึก" เข้าฝั่ง จะรุนแรงมาก เหมือนพายุเกย์ หรืออาจจะมากกว่า
    ครับ...ผู้คนตกใจ เพราะถ้าแรงกว่าพายุเกย์ ก็หมายความว่าจะสร้างความเสียหายอย่างมากมายมหาศาล 
    แต่ในความเป็นจริง ไม่มีทางเท่าพายุเกย์ได้ เพราะความเร็วลมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
    นี่เป็นตัวอย่างของความสับสน เหมือนที่สังคมไทยกำลังมึนอยู่กับข่าวสาร เลื่อนหรือไม่เลื่อนการเลือกตั้ง.