3 ม.ค.62 - นายชัยวัฒน์ วิทิตธรรมวงศ์ ประธานอาวุโสสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ปฎิบัติหน้าที่ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ก้าวสู่ปีหมูทอง นับว่าในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ได้รับโอกาสทองจริงๆ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีชาวเมียนมาจากเมืองต่างๆทั้ง จังหวัดกอกาเรก-เมืองมะละแหม่ง- จังหวัดผาอัน-นครหลวงย่างกุ้ง ฯลฯ เดินทางมาท่องเที่ยวและจับจ่ายซื้อสินค้าที่ อ.แม่สอด จ.ตาก วันละ ไม่ต่ำกว่า 5,000-10,000 คน รถตู้ทัวร์โดยสารของชาวเมียนมา วิ่งเข้า-ออก ข้ามชายแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา วันละไม่ต่ำกว่า 300 คัน เข้าๆออกๆ มีเงินสะพัดกระจายรายได้ในพื้นที่อย่างมากมายมหาศาล ห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ ทั้งห้างโรบินสัน-ห้างโลตัส-ห้างแม็คโคร สาขาแม่สอด สินค้าหมดเกลี้ยง นับเป็นประวัติการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ชาวเมียนมาสนใจและเดินทางมาท่องเที่ยวซื้อสินค้าในชายแดน เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก(แม่สอด)มากมายล้นหลาม ห้างร้าน ร้านค้า รายใหญ่ รายเล็ก ขายสินค้าทะลุเป้า ธุรกิจด้านการบริการ ร้านอาหาร และการบริการอื่นๆ  มีเงินสะพัดใน อ.แม่สอด จำนวนมาก ทำให้ถึงเวลาแล้วที่ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดตากจะได้นำเสนอภาคราชการ ในคณะกรรมการร่วมภาครัฐ-เอกชน (กรอ.) รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงต่างๆ เพื่อผลักดันให้ขยายเวลา เปิด-ปิด ด่านชายแดนแม่สอด-เมียวดี จาก เวลา 05.30-20.30 น. เป็นตั้งแต่เวลา 05.30-22.00 น.เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า-การท่องเที่ยว หากมีการขยายเวลาจะทำให้ชาวเมียนมาอยู่ในพื้นที่จับจ่ายซื้อสินค้าและท่องเที่ยวในแม่สอดได้อีก ทำให้เศรษฐกิจกระตุ้นการเงินจะสะพัด ประกอบกับแม่สอด-เมียวดี คือ บ้านพี่เมืองน้อง Sister City ที่มีความสัมพันธ์ไมตรีของคนในท้องถิ่นทั้งสองฝั่งริมแม่น้ำเมยที่ดีต่อกันเสมอมา

“เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2558 ผมเคยขอขยายเวลา เปิด-ปิด ด่าน แม่สอด-เมียวดี มาครั้งหนึ่งแล้ว จาก เวลา 06.00-18.00 น.  เป็น 05.30-20.30 น. กว่า 4 ปี ไม่มีปัญหาด้านความมั่นคงเลย มีเพียงปัญหาเล็กๆน้อยๆที่ไม่กระทบกับความมั่นคง ทำให้ ในปี 2562 ปีหมูทอง เราต้องขอขยายเวลา เปิด-ปิด ด่านตั้งแต่เวลา 05.30-22.00 น. ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นกระจายอย่างมากมาย มีเม็ดเงินในพื้นที่วันละหลายสิบล้านบาท

เรื่องนี้ภาครัฐต้องเห็นด้วยและเข้าใจ ถึงหลักการและเหตุผลที่ดี ทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และหากจะมองภาพรวมทั้งประเทศ ในปีหมูทองก็เชื่อว่าจะดีขึ้น ทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะมีปัจจัยทางทางที่ดี เช่นจะมีการเลือกตั้ง สส. ในปี 2562 และขยายเวลา เปิด ปิดด่าน ทำให้ ทุกฝ่ายเกิดความมั่นใจ ในการลงทุนและทำการค้า ”  นายชัยวัฒน์ วิทิตธรรมวงศ์  กล่าว

ด้านนายสุชาติ ตรีรัตน์วัฒนา ประธานแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศล –นักธุรกิจรายใหญ่ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ในฐานะที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า ในปี 2562 ปีหมูทอง จะเป็นปีทองของชายแดนไทย-เมียนมา แม่สอด-เมียวดี อย่างแท้จริง ในปี 2561 ที่ผ่านมา มูลค่าการค้าชายแดนด่านแม่สอด-เมียวดี มีมากกว่า 70,000-80,000 ล้านบาท คาดว่าในปี 2562 หมูทองแห่งปีจะทะลุ 100,000 ล้านบาท มองในส่วนท้องถิ่นแม่สอด-เมียวดี Sister City ในภาคการบริการใน อ.แม่สอด จะดีมาก ชาวเมียนมาจะมาซื้อสินค้าจำนวนมากขึ้น เฉพาะการค้าในท้องถิ่น แม่สอด แค่อาศัยชาวเมียนมาทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวเมียนมาแต่ละวันก็มากมายมหาศาล