1 ม.ค.62- เมื่อเวลา 00.20 น. พ.ต.ท.ลาภ คำพันธ์ สว.(สอบสวน)สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกันตายหลายศพที่บ้านเลขที่ 86 หมู่ที่ 8 ตำบลพะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายสมพร ปัจฉิมเพชร รองผวจ.ชุมพร พ.ต.อ.ธานี นาคหควิ ผกก.สภ.พะโต๊ะ พ.ต.ท.พิษณู บุษย์วิทย์ รอง ผกก.ป. พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ พ่วงพิศ ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร  ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน หน่วยกู้ภัยพะโต๊ะ-พุทธประทีปหลังสวน

ที่เกิดเหตุอยู่ใจกลางตลาดพะโต๊ะห่างจากที่ว่าการอำเภอพะโต๊ะและ สภ.พะโต๊ะ ประมาณ 200 เมตร เป็นบ้านห้องแถวชั้นเดียวสองคูหาเปิดเป็นร้านเสริมสวยชื่อ “อ่อนมุกข์” หน้าบ้านมีขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหาร กระจัดกระจายไปทั่ว ที่พื้นปูนข้างโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านพบศพทราบชื่อ นายวิจิตร นาคลอด อายุ 50 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่กลางหน้าอก 1 นัด 

ส่วนที่ห้องโถงภายในบ้านมีศพ นางงุด อ่อนมุกข์ อายุ 71 ปี นอนตายอยู่บนพื้น ใกล้กันเป็นศพของ นางสาวผกามาศ อ่อนมุกข์ อายุ 47 ปี สภาพศพนั่งตายอยู่บนโซฟา ทั้ง 2 ศพถูกยิงกลางหน้าอกศพละ 1 นัด ถัดเข้าไปเป็นทางเดินไปยังห้องครัวหลังบ้าน ส่วนด้านซ้ายเป็นห้องนอน 3 ห้อง ด้านขวาเป็นห้องนอน 2 ห้อง พบศพคนนอนตายอยู่บนช่องทางเดินหน้าห้องนอนที่ 2 ด้านซ้าย 1 ศพ ทราบชื่อ นางรัชพร อ่อนมุกข์ อายุ 50 ปี  ถูกยิงกลางหน้าอก 1 นัด

ภายในห้องนอนห้องแรกด้านขวามือบนเตียงเจ้าหน้าที่พบอีก 3 ศพชื่อ  นายสุชีพ ศรสังข์ อายุ 41 ปี ถูกยิงที่ขมับขวา 1 นัด ในมือขวากำปืนขนาด 9 มม.บาเร็ตต้า 1 กระบอก  ใกล้กันเป็นศพเด็กหญิงชนัญธิดา ศรสังข์ อายุ 6 ปี ถูกยิงกลางหน้าอก 1 นัด  และเด็กชายกษิเดช ศรสังข์ อายุ 9 ปี ถูกยิงกลางหน้าอก 1 นัด  ทั้ง 3 ศพเป็นพ่อลูกกัน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุตามจุดต่างพบปลอกกระสุนปืน 7 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และทราบว่ามีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ชื่อ นายทินกร อ่อนมุกข์ อายุ 33 ปี ถูกยิงที่หน้าท้องกระสุนแฉลบออกสีข้างด้านขวาชาวบ้านช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลพะโต๊ะกระสุนไม่ถูกอวัยวะสำคัญอาการปลอดภัยแพทย์ให้กลับบ้านได้

จากการสอบสวนนายทินกร อ่อนมุกข์ อายุ 33 ปี ผู้รอดชีวิตให้การว่าตนพร้อมด้วย นางรัชพร อ่อนมุกข์ อายุ 50 ปี  ซึ่งเป็นพี่สาว และนายวิจิตร นาคลอด อายุ 50 ปี พี่เขย ทำงานอยู่กรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาเยี่ยมแม่คือนางงุด อ่อนมุกข์ อายุ 71 ปี ที่บ้านหลังเกิดเหตุดังกล่าว ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 61 ที่ผ่านมา

คืนเกิดเหตุช่วงกำลังนั่งดื่มกินสังสรรค์เค้าดาวน์ปีใหม่กันในครอบครัวที่หน้าบ้านอย่างสนุกสนาน ปรากฏว่าได้มีนายสุชีพ ศรสังข์ อายุ 41 ปี พี่เขยตนบ้านเดิมอยู่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้มาอาศัยในอยู่บ้านเดียวกันหลังเกิดเหตุ ได้ขับรถยนต์กระบะโตโยตาสีดำสี่ประตูทะเบียน 7 กค 7826 กรุงเทพมหานคร มาจอดในโรงเก็บรถข้างบ้าน จากนั้นได้เดินเข้าบ้านด้วยอาการเมาสุราแล้วเข้ามาหาเรื่องบอกว่าพวกเมิงไม่ต้องมองหน้ากูแล้วชักปืนพกออกมาขู่และพูดต่ออีกว่ากูอยู่ที่นี่กูช่วยทุกอย่างไม่มีความดีเลยสักอย่าง แต่พวกมึงยังไม่ชอบหน้ากูจึงเกิดโต้เถียงกันขึ้น ทำให้นายสุชีพพี่เขยเหนี่ยวไกยิงใส่นายนายวิจิตร นาคลอด คู่เขยที่กำลังนั่งอยู่บนม้าหินอ่อนจนฟุบลงกับพื้นตายคาที่ แล้วหันมายิงใส่ตนถูกที่ท้อง 1 นัด จนล้มลงกองกับพื้นตนจึงอุบนิ่งทำแกล้งตาย 

จากนั้นนายสุชีพวิ่งไปยิงนางงุดแม่ตนและนางสาวผกามาศพี่สาวที่นั่งอยู่บนโซฟาจนตาย แล้วไล่ตามไปยิงนางรัชพรที่กำลังวิ่งหนีตายจนตายหน้าห้องนอน  นายสุชีพพี่เขยตนยังไม่หยุดความบ้าคลั่งได้วิ่งเข้าไปยิงลูกชายและลูกสาวตัวเองที่นอนเล่นเกมส์มือถืออยู่ในห้องนอนจนตายแล้วใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อขมับตัวเองฆ่าตัวตายตาม

สำหรับชนวนเหตุการณ์สังหารยกครัว 7 ศพในครั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัตินายทินกรมือปืนเคยถูกจับคดียักยอกทรัพย์ในตัวเมืองชุมพร นอกจากนั้นยังมีประวัติพัวพันเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเพิ่งพ้นโทษคดีพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ จ.นครศรีธรรมราช ออกจากคุกมาเมื่อวันที่ 20 พ.ย.60 ที่ผ่านมา แล้วกลับมาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ส่วนภรรยาของนายทินกรได้หนีไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากทนพฤติกรรมของนายทินกรไม่ไหวที่ชอบเที่ยวเตร่ไม่ทำงานเป็นหลักแหล่งชอบยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย จึงทำให้นายทินกรโกรธแค้นและมีเรื่องระหองระแหงกับครอบครัวฝ่ายภรรยามาตลอด โดยไม่ยอมย้ายออกไปอยู่ที่อื่นและยังข่มขู่คนในครอบครัวฝ่ายภรรยาตลอดอยู่เวลาว่าจะฆ่าให้ตายหมดทั้งครอบครัว เนื่องจากเข้าใจว่ารู้เห็นเป็นใจให้ภรรยาตนเองหนีไปอยู่กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งมาก่อเหตุเมื่อญาติๆมาอยู่กันครับหน้าขึ้นดังกล่าว.