วิกฤติศรัทธามาเยือน


เพิ่มเพื่อน    

             และแล้ว...การแทรกแซงองค์กรอิสระ ก็ยังคงเป็นประเด็นให้วิพากษ์วิจารณ์กันต่อไป

                หากการวิพากษ์วิจารณ์นั้น นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ประเทศชาติ ประชาชนก็จะเป็นผู้ได้ประโยชน์

                แต่หากหยิบยกเป็นประเด็นเพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง อีกหลายๆ สิบปี เราก็ยังต้องพูดถึงการแทรกแซงองค์กรอิสระกันต่อไป

                กรณีนาฬิกาเพื่อน เป็นการตอกย้ำให้เห็นความไร้ประสิทธิภาพขององค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช.

                เป็นการสร้างเงื่อนไข ที่นำไปสู่วิกฤติศรัทธา อย่างไม่จบสิ้น

                การปราบคอร์รัปชัน ไม่มีทางสำเร็จเลย หากไม่ปราบอย่างทั่วหน้า และทั่วถึง

                เมื่อไหร่ก็ตามที่ ป.ป.ช.มองคนทำผิดเป็นพวก

                ทำผิดแล้วปล่อยผ่าน!

                ความศักดิ์สิทธิ์ของ ป.ป.ช.จะหายไปทันที เหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้

                องค์กรอิสระอื่นๆ ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ฯลฯ หากไม่ทำหน้าที่ที่กำหนดไว้ในกฎหมาย 

                ก็ยากที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบได้

                ประเด็นนาฬิกาเพื่อนของ "บิ๊กป้อม" คือความตกต่ำอย่างสุดขีดของ ป.ป.ช.อีกครั้งหนึ่ง

                แต่เรายังมีความตกต่ำ ที่ต่ำกว่านั้น

                การทำรัฐประหารของ คสช.ที่ให้เหตุผลเรื่องคอร์รัปชัน กลายเป็นเพียงข้ออ้าง เพราะกรณีนาฬิกาเพื่อน ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คสช.เองยังมีปัญหาเรื่องความโปร่งใส เช่นเดียวกับรัฐบาลเลือกตั้งที่ผ่านมา

                แม้กระทั่งกองเชียร์ คสช.เอง ถึงเวลาต้องตระหนักแล้วว่า สัญญาที่ คสช.เคยให้ไว้นั้น เป็นไปตามคำสัญญาจริงหรือไม่

                การปราบคอร์รัปชันเป็นเรื่องใหญ่ และยาก ซึ่งไม่อาจคาดหวังได้จากรัฐบาลจากการเลือกตั้งได้เลย

                ประชาชนจึงคาดหวังว่า รัฐบาลทหารจะเข้ามาแก้ไขได้ เพราะมีอำนาจเบ็ดเสร็จ

                เฉกเช่น "สี จิ้นผิง" ขึ้นสู่อำนาจสูงสุดของจีน นับแต่ปี ๒๕๕๕ เป็นต้นมา มีการดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รัฐฉ้อราษฎร์บังหลวงไปแล้วร่วม ๒ ล้านคน

                แต่...คสช.ดูเหมือนขึงขังในช่วงแรก เมื่อเวลาผ่านไป การคอร์รัปชันไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเลย

                อย่างไรก็ตามยังมีความตกต่ำที่ยิ่งไปกว่าการที่รัฐบาล คสช.ไม่ได้สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น นั่นคือ นักการเมืองจอมกะล่อนทั้งหลาย ไม่เคยคิดจะแก้ไขปัญหาที่กัดกินประเทศอย่างเช่นปัญหาการทุจริตนี้เลย

                มุมหนึ่งของกรณีนาฬิกาเพื่อนคือ นักการเมืองที่เคยยืนหยัดร่วมคดโกงในรัฐบาลระบอบทักษิณ  วันนี้พากันตำหนิติเตียนรัฐบาล คสช. และ ป.ป.ช.

                ประหนึ่งว่าที่ผ่านมา พวกตนเป็นนักการเมืองใสซื่อมือสะอาด!

                เปล่าเลย นี่คือกลุ่มคนที่ร่วมโกงชาติ จน คสช.นำไปเป็นเหตุทำรัฐประหาร

                เหมือนกับว่านักการเมืองไม่เคยสะกดคำว่า "โกง" ออก เมื่อตัวเองอยู่ในอำนาจ

                แต่จะทำเป็นเห็นแจ้งเมื่อตัวเองอยากได้อำนาจคืน

                และนี่คือชะตากรรมที่คนไทยต้องแบกรับไปอีกนาน

                เพราะหลังเลือกตั้งไม่ว่าฝ่ายไหนขึ้นมามีอำนาจ การคอร์รัปชันจะยังคงดำเนินต่อไป โดยผู้มีอำนาจและบริวารนั่นเอง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"