6 ก.พ.61- นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร) จ.จันทบุรี เห็นชอบในหลักการโครงการจัดตั้งระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (Eastern Fruit Corridor : EFC) มีเป้าหมายให้ภาคตะวันออกของไทยเป็นตลาดกลางประมูลผลไม้คุณภาพสูง เบื้องต้นจะตั้งอยู่ที่นิคม สมาร์ทพาร์ค จ.ระยอง คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 2-3 ปี จะเปิดดำเนินการได้เต็มระบบ โดยระยะ 6เดือนแรกจะทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการก่อน ซึ่งตามโครงการจะสร้างห้องเย็นสำหรับจัดเก็บผลไม้ด้วย โดยจะมีการใช้แนวทางประชารัฐให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ แถลงผลประชุมครม.สัญจร ที่จังหวัดจันทบุรี ว่าที่ประชุมเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การค้าผลไม้ครบวงจรพร้อมทั้งให้กระทรวงพาณิชย์ไปประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าผลไม้ครบวงจร เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีผลไม้เมืองร้อนจำนวนมาก ก้าวขึ้นเป็นมหานครผลไม้ของโลก มีเป้าหมาย 4 ด้านคือ
ให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตผลไม้เมืองร้อน ทั้งผลไม้สดและแปรรูป,ให้ประเทศไทยเป็นประเทศถือครองส่วนแบ่งตลาดหรือมาร์เก็ตแชร์ผลไม้เมืองร้อนของโลกมากที่สุด,ให้ประเทศไทยสามารถคุมกลไกการค้าผลไม้เมืองร้อนได้ และ ทำให้เกิดการสร้างแบรนด์ประเทศไทยกับผลไม้ ให้ชาวต่างชาติมีภาพจำของผลไม้ไทยว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณภาพเกรดพรีเมี่ย ทั้งนี้ ตามยุทธศาสตร์การค้าผลไม้ครบวงจร
สำหรับการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการผลิตผลไม้เมืองร้อนนั้น ได้กำหนดแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตผลไม้เมืองร้อนทั้งสดและแปรรูปให้มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ประกอบด้วย
1.การกำหนดและส่งเสริมมาตรฐานการผลิตและการค้าผลไม้เกรดพรีเมี่ยม ทั้ง Q-GAP, Thai GAP, Thailnd Trust Mark โดยจะยกระดับสัดส่วนสินค้าเกรดพรีเมี่ยม เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10%ของผลผลิตรวม ให้เพิ่มขึ้นเป็น 20 %
2.ส่งเสริมการทำการตลาดผลไม้เกรดรอง โดยการเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูป เช่นผลที่รูปทรงไม่สวย แก้ปัญหาโดยการแกะออกมาใส่แพ็คเกจพร้อมรับประทาน
3.การสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการแปรรูป
และ 4.การนำนวัตกรรมและงานวิจัยมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ผลไม้ เช่น การทำน้ำเชื่อมลำไยหรือลำไยไซรัป รับประทานเพื่อสุขภาพ และช่วยดูดซับปริมาณผลไม้ตกเกรดได้มากขึ้น
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การก้าวขึ้นเป็นผู้ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดผลไม้เมืองร้อนมากที่สุดนั้น จะต้องมีตลาดกลาง เพื่อกำหนดมาตรฐานราคาที่มีความน่าเชื่อถือได้ และต้องบุกตลาดเป้าหมายเมืองร้อน เช่น จีน จะรุกไปทุกพื้นที่มากขึ้น และพัฒนาโลจิสติกส์ควบคู่กันไป รวบถึงการสร้างคลังสินค้าที่นำระบบห้องเย็นที่สร้างขึ้นจากการผลิตพลังงาน นำส่วนที่สูญเสียมาใช้ประโยชน์ทำเป็นห้องเย็นขนาดใหญ่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)
สำหรับงบประมาณที่จะนำมาใช้ให้ใช้งบประมาณเดิมของหน่วยงานต่างๆก่อน หากมีความจำเป็นสามารถตั้งงบประมาณเพิ่มได้ กระทรวงพาณิชย์จะสร้างแบรนด์ผลไม้ของประเทศไทยให้เป็นผลไม้เกรดพรีเมี่ยม เป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพและมาตรฐาน จะเริ่มต้นที่ผลไม้ 3 ชนิดก่อนคือ ทุเรียน ลำไย และมังคุด
เขาบอกว่าเริ่มต้นปีแรกที่ทุเรียนก่อน ต่อไปทุเรียนพันธุ์หมอนทองจะไม่เรียกว่าทุเรียนหมอนทอง แต่จะเป็นทุเรียนแบรนด์ประเทศไทย ซึ่งทางบริษัทเอสซีจี เทรดดิ้ง จำกัด กำลังดำเนินการที่จะทำแบรนด์ทุเรียนของประเทศไทย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ทุเรียนของไทย
" ต่อไปชาวต่างชาติจะคิดถึงทุเรียนของไทยในภาพของทุเรียนคุณภาพ ไม่ใช่ทุเรียนอ่อน มีความแตกต่างจากทุเรียนของประเทศอื่น"
นายสนธิรัตน์คาดว่าปีนี้จะมีผลผลิตทุเรียนจำนวน 900,000 ตัน จะคัดทุเรียนที่ผลิตได้เกรดพรีเมียมออกมา 1% หรือประมาณ 9,100 ตัน ขณะนี้รวบรวมได้แล้วประมาณ 5,000ตัน ส่วนนี้จะนำมาใช้สร้างทุเรียน แบรนด์ประเทศไทย คาดว่าจะประชาสัมพันธ์ให้ต่างชาติทราบว่าถ้าต้องการทุเรียนคุณภาพดีต้องเป็นทุเรียนของประเทศไทยได้ในเดือนเม.ย.นี
ทั้งนี้ หลังจากที่ทุเรียนมีราคาดีในปี 2560 ที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรหันมาปลูกทุเรียนกันมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคตะวันออกที่โค่นต้นยางพาราแล้วหันมาปลูกทุเรียนกันจำนวนมาก จะทำให้ผลผลิตทุเรียนในอนาคตมีมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องเตรียมการเพื่อรองรับอนาคตด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |