ไฟใต้ร้อนระอุ ยิงทหารเจ็บ3 บิ๊กตู่สั่งคุมเข้ม


เพิ่มเพื่อน    

  "บิ๊กตู่" สั่งคุมเข้มความปลอดภัยชายแดนใต้ พร้อมประณามการก่อเหตุ ขอ ปชช.มั่นใจ จนท.รัฐดูแลสถานการณ์ได้ กลุ่มก่อความไม่สงบป่วนไม่หยุด จ่อยิงหญิงวัย 59 ชาวปัตตานีดับ "นราธิวาส" ซุ่มยิงทหารพรานระหว่างเดินทางบาดเจ็บ 3 นาย 

    เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บ่อยครั้งในช่วงนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดและก่อความไม่สงบที่ จ.สงขลาและนราธิวาส
    "นายกฯ ประณามการกระทำของผู้ไม่หวังดีที่ฉวยโอกาสก่อเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อสร้างสถานการณ์และทำลายขวัญกำลังใจของคนในพื้นที่ โดยขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ และร่วมแจ้งเบาะแสหากพบสิ่งผิดปกติ ขอยืนยันขณะนี้ทุกฝ่ายสามารถควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ไว้ได้ทั้งหมด จึงอยากให้ทุกคนสบายใจ" นายพุทธิพงษ์กล่าว
    โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกฯฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ต้องเสียสละทำงานหนักขึ้น โดยล่าสุดได้รับรายงานว่าทุกพื้นที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยและระมัดระวังเหตุร้ายเป็นพิเศษ และยังคงเตรียมจัดกิจกรรมต้อนรับปีใหม่เพื่อสร้างความสุขแก่ประชาชนเช่นเดิม
    ขณะที่สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องรายวัน โดยเวลา 12.00 น. พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ ปัญญาชนวัฒน์ รอง ผกก.ป.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบนถนนสายโคกโพธิ์-ป่าบอน ม.1 ต.ป่าบอน จึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตอยู่กลางถนน ทราบชื่อนางกัญญารัตน์ ยศอักษร อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ม.2 ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดเข้าศีรษะจำนวน 1 นัด ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทะเบียน ขกน 0101 ปัตตานี ซึ่งเป็นของผู้ตายในตะกร้ามีข้าวของจำนวนมาก และพบหัวกระสุน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
    สอบสวนทราบว่า ผู้ตายขี่รถมาจากซื้อของที่ตลาดนัดเพื่อไปบ้านญาติ ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายสองคนขี่รถจักรยานยนต์ตามหลัง เมื่อสบโอกาสจึงขับแซงด้านขวาแล้วชักอาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะทันทีจนเสียชีวิตก่อนหลบหนีไป เบื้องต้นเชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่สร้างสถานการณ์
    ที่ จ.นราธิวาส เวลา 14.30 น. ร.ต.ท.สิงหา วสัญหิรัญกิจ รอง สว.สอบสวน สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายดักซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 4905 กรมทหารพรานที่ 49 ริมถนนบ้านไอร์แยง ม.3 ต.ศรีสาคร ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย รถถูกเพลิงไหม้เสียหาย 1 คัน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุธาเวชช์ ธารีไทย ผกก.สภ.ศรีสาคร, พ.ต.ท.ฉลอง รัตนภักดี รอง ผกก.สส.สภ.ศรีสาคร และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
    พบรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่กระบะหลังได้บรรทุกถังแก๊สขนาดบรรจุ 15กก. จำนวน 2 ถัง และเสบียงอาหารจำนวนหนึ่ง มีเพลิงไหม้ลุกโชกท่วมทั้งคัน จึงประสานไปยังหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลศรีสาครช่วยสนับสนุนในการฉีดน้ำดับไฟจนมอดลง และเมื่อตรวจสอบที่บริเวณเนินสวนยางพาราด้านซ้ายมือ ที่ซากรถยนต์ของเจ้าหน้าที่จอดอยู่ พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ของคนร้ายตกอยู่จำนวนกว่า 10 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
    ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นาย คือ ส.อ.สมพงษ์ อสิอุโฆ, อส.ทพ.วัชรกร ขวัญแย้ม และ อส.ทพ.ศักรินทร์ พรหมมาศ เพื่อนทหารที่มาสนับสนุนยังจุดเกิดเหตุ ได้นำตัวส่งรักษาอย่างเร่งด่วนที่โรงพยาบาลศรีสาคร ซึ่งทั้ง 3 นายอาการสาหัส เจ้าหน้าที่ทหารได้ประสานเฮลิคอปเตอร์จากชุดเฉพาะกิจนราธิวาส เพื่อลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
    สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.สมพงษ์ หัวหน้าชุด ได้นำผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 2 นาย นั่งโดยสารรถยนต์กระบะเพื่อไปติดต่อราชการที่กองบังคับการชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดศรีสาคร เมื่อแล้วเสร็จ ส.อ.สมพงษ์พร้อมผู้ใต้บังคับบัญชา ได้ร่วมกันเดินไปจ่ายตลาดเพื่อหาซื้อเสบียงอาหารที่ใช้เลี้ยงกำลังพล เมื่อพากันจ่ายตลาดแล้วเสร็จ จึงได้พากันนั่งโดยสารรถยนต์เพื่อกลับฐานซึ่งตั้งอยู่ ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นทางลัดเพื่อกลับฐาน ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนที่แฝงตัวอยู่บนเนินดินของสวนยางพาราด้านซ้ายมือ แล้วใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มใส่รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหาร จำนวนกว่า 10 นัด โดยกระสุนปืนของคนร้ายไปเจาะถูกถังแก๊สที่วางอยู่ท้ายกระบะ ส่งผลทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทหารจะช่วยกันเปิดประตูรถยนต์เพื่อหนีไฟที่กำลังลุกไหม้ พร้อมใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้าย จนกระทั่งกลุ่มคนร้ายได้หลบหนีไป 
    ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้ประสานไปยังศูนย์วิทยุสื่อสาร บก.ฉก.ทพ.49 เพื่อแจ้งให้ทราบว่าถูกคนร้ายดักซุ่มยิงแล้วได้รับบาดเจ็บ และขอกำลังเข้าสนับสนุนเพื่อนำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 นายส่งรักษาที่โรงพยาบาลศรีสาครอย่างเร่งด่วน
    วันเดียวกัน พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4  เดินทางมายังฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลกาลิซา ตั้งอยู่บ้านกาหนั๊วะ ม.5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังช่วงค่ำวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถูกคนร้ายบุกยิงถล่มฐาน และเกิดการตอบโต้ก่อนคนร้ายล่าถอยไป
    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีก 2 จุดคือ ที่ อ.จะแนะและศรีสาคร ซึ่งกลุ่มก่อความไม่สงบเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในช่วงค่ำที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"