ถล่มเละ! เลื่อนเลือกตั้งไปอีก 1 เดือน ทุกพรรคประสานเสียงยี้ลั่นต้องยึดโรดแมป 24 ก.พ.2562 เท่านั้น “จรุงวิทย์” ไม่กล้าประกัน กั๊กบอกอยู่ที่ดุลพินิจ กกต. ซึ่งต้องใช้ทุกปัจจัยประเมิน มีไทม์ไลน์ 24 ก.พ.-9 พ.ค.ให้จิ้ม “เด็ก ปชป.” เชื่อมีเหตุจากพรรคทหารส่อแววล้ม ส่วน “เต้น” ปูดมีข่าวใช้ ม.44 ปลดล็อกสังกัดพรรค 90 วัน หวังดูดอีกล็อตใหญ่หลังเสียงแผ่ว “เหลิม” โชว์กร่างประกาศจอง รมว.มหาดไทย พร้อมสั่งย้ายผู้ว่าฯ นครพนมเข้ากรุเพื่อให้มาเคารพจนคอหัก!
เมื่อวันเสาร์ มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางถึงกระแสข่าวการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก 1 เดือน นับจากวันที่ 24 ก.พ.2562 เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิมพ์บัตรเลือกตั้งไม่ทัน โดย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ระบุว่า การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นดุลพินิจของ กกต. ซึ่งจะประกาศกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 5 วัน หลังพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ โดยเวลาที่กำหนดวันเลือกตั้งคือ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.-9 พ.ค.2562 ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กกต. ถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง รวมถึงเรื่องการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งด้วย โดยก่อน กกต.จะประกาศว่าวันใดเหมาะสม ต้องพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ด้วย
ขณะที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่าไม่ทราบกระแสข่าวดังกล่าว แต่ยืนยันรัฐบาลยังยึดโรดแมปเลือกตั้งเดิม 24 ก.พ. โดยหากมีปัจจัยที่ทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปจริง กกต.ต้องให้เหตุผลและอธิบายกับประชาชนให้เข้าใจ เพราะรัฐบาลไม่มีเหตุผลใดที่ต้องเลื่อน และขณะนี้ไม่มีสัญญาณอะไรจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลถึงกรณีดังกล่าว
ด้านนักการเมืองนั้น ต่างมีการแสดงความเห็นเรื่องนี้กันอย่างคึกคัก โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า กกต.ต้องชี้แจงให้ชัดเจน เพราะถึงที่สุด กกต.ก็ต้องร่วมกำหนดวันเลือกตั้ง จึงอยากให้คำนึงถึงความเชื่อมั่น เพราะการเลื่อนเลือกตั้งจะกระทบความเชื่อมั่นของรัฐบาลและประเทศ ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติจริงๆ ก็น่าแก้ไขได้ ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องการพิมพ์บัตรในต่างประเทศที่เขาพิมพ์บัตร มีชื่อผู้สมัครเป็นรายเขต เลือกตั้งภายใน 2 สัปดาห์เขายังทำกันทันเลย เพราะฉะนั้นอยู่ที่การบริหารจัดการมากกว่า
“การจะเลื่อนหรืออะไรก็ตาม คงต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย รัฐธรรมนูญก็มีเวลาที่กำหนดอยู่ และระยะเวลาจากวันออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งก็ถูกกำหนดไว้ในกฎหมาย ดังนั้นคงไปทำอะไรนอกกฎหมายไม่ได้อยู่แล้ว” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กในเรื่องนี้ว่า หากจะเลื่อนเลือกตั้งโดยผู้มีอำนาจ กกต. โปรดอย่ารับเป็นแพะ และหากข่าวเป็นจริง กกต.ย่อมกลายเป็นองค์กรอิสระอีกองค์กรหนึ่งที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงไม่แพ้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในช่วงนี้ และจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สะสมแต้มลบแก่ กกต. นับแต่เรื่องแบ่งเขตไม่ทันเวลา แบ่งเขตใหม่แล้วมีปัญหา จัดการคัดเลือก ส.ว.ที่เงียบเหงาและใช้งบประมาณมาก และการไม่มีท่าทีชัดเจนต่อการกระทำที่สุ่มเสี่ยงผิดของพรรคฝ่ายรัฐบาลทหาร
“การเลื่อนเลือกตั้งเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับเรื่องก่อนๆ เพราะ กกต.ยืนยันมาตลอดว่าพิมพ์ทัน โดยเฉพาะการประชุม กกต.เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ฝ่ายสำนักงานก็ยืนยันหนักแน่นว่าทำได้ทัน ดังนั้น หากการเลื่อนมาจากความปรารถนาของผู้มีอำนาจ เราหวังว่า กกต.คงไม่เอาตัวเข้าไปเป็นแพะ แพะเขาเอาไว้บูชายัญ ไม่ได้มีไว้แก้ตัวแทนใคร” นายสมชัยระบุ
ชี้บางพรรคเจออุบัติเหตุ
นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรค ปชป.กล่าวว่า ต้องจับตาดูพรรคการเมืองบางพรรคอาจเกิดอุบัติเหตุ หัวหน้าพรรคขาดคุณสมบัติ ทำเอากรรมการบริหารขาดคุณสมบัติไปด้วยที่สุดต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ เพื่อให้เข้าเกณฑ์ตามกฎหมาย คือ สังกัดพรรค 90 วันก่อนการเลือกตั้งจนเป็นเหตุให้ต้องเลื่อนเลือกตั้ง และอาจเป็นสาเหตุดังกล่าวทำให้ว่าที่นายกฯ บางคนประกาศห้ามนำชื่อตนเองไปหาเสียงล่วงหน้า เพราะเสี่ยงที่จะตายตกตามกันไปด้วย ดังนั้นจึงต้องจับตาดูเป็นพิเศษ อย่าให้ใครมาเลื่อนเลือกตั้ง เพื่อพรรคใดพรรคหนึ่ง เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง
“การเลือกตั้งควรต้องเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. กกต.ต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพราะเราเคยมีประวัติศาสตร์มาแล้วว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย พรรคถ้าทำผิดก็ถูกยุบได้ กกต.ถ้าทำผิดก็ติดคุกได้ และ กกต.ต้องเตรียมประกาศวันเลือกตั้ง พร้อมทั้งเตรียมจัดการเลือกตั้งให้มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม” นายจุฤทธิ์ระบุ
ขณะที่นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวกระทบความรู้สึกของประชาชนมาก เพราะส่วนใหญ่บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจแย่จะทนไม่ไหวกันแล้ว ต่างก็หวังเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ให้มาฟื้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น วันที่ 24 ก.พ.เป็นวันปลดเปลื้องความทุกข์ยากของประชาชน ทุกพรรคก็พร้อมแล้ว อย่าทำให้ประชาชนเสียความรู้สึก และต้องตกอยู่ในภาวะยากลำบากต่อไปอีกเลย
น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ขอวิงวอน กกต.ให้จัดการเลือกตั้งตามกำหนดเวลาที่ประกาศ เนื่องจากเป็นที่รับรู้ทั่วโลก ดังนั้นไม่ควรเลื่อนออกไป ส่วนที่ระบุว่าพิมพ์บัตรเลือกตั้งไม่ทันนั้น ก็เป็นระบบการจัดการของ กกต.ที่ต้องทำให้ทันตามเวลา
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุว่า พรรคไม่ได้มองประเด็นเรื่องการเลื่อนเลือกตั้งเป็นประเด็นสำคัญ เพราะไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องเกิดขึ้น ดังนั้นพรรคภูมิใจไทยจึงมุ่มเน้นเตรียมตัวให้พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้มีความพร้อม
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และไม่ควรเลื่อนออกไป แต่ทุกอย่างขึ้นกับ กกต. หากเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน แต่ไม่ว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน พปชร.มีความพร้อมทุกด้าน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติ (รปช.) เตือนว่า กกต.ต้องคิดให้มาก ต้องคิดถึงความรู้สึกของประชาชนเป็นสำคัญ เพราะคาดหวังที่จะเห็นการเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแมป หรือเป็นไปตามกำหนดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พูดไว้ กกต.มีหน้าที่ที่ต้องทำให้สำเร็จเรียบร้อย ทำให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมในการเลือกตั้ง การขยับวันเลือกตั้งออกไป มันทำให้ประชาชนเสียความรู้สึก
ถามต่อว่า การเลื่อนการเลือกตั้งเป็นเกมการเมืองได้หรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ไม่มองอะไรในแง่ร้าย และวิงวอนพี่น้องทุกฝ่ายอย่ามองอะไรด้วยแง่ร้าย ควรมองด้วยแง่ดี ด้วยความเข้าใจ กกต.อาจยุ่งยากในการบริหารจัดการ แต่เป็นหน้าที่ต้องทำงานทั้งกลางวันกลางคืน คือ ทำงาน 24 ชั่วโมง ทำงานผลัดก็ได้ เพื่อทำให้ความคาดหวังของประชาชนเป็นจริง ถ้าทำแบบราชการปกติคงทำไม่ได้
ส่วน ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า การอ้างว่าพิมพ์บัตรเลือกตั้งไม่ทันว่า เรื่องนี้ทำให้ กกต.ดูไม่เป็นมืออาชีพ และเรื่องนี้ประชาชนกำลังจับตามองอยู่ เพราะต้องการให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.ตามเวลาเดิม ดังนั้นขอให้ กกต.ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เป็นองค์กรที่เป็นความหวังเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน ขอให้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องไปเกรงกลัวอำนาจ เพราะอำนาจแบบนี้อยู่ไม่นาน จะอยู่อีกไม่เกินสองเดือนเท่านั้น
ปูดใช้ ม.44 เอื้อดูด
“เมื่อวานก็มีองค์กรอิสระพังลงไปแล้วองค์กรหนึ่ง จากการทำหน้าที่แล้วทำให้พี่น้องประชาชนไม่น้อยในประเทศเสื่อมศรัทธา และเกิดเป็นวิกฤติศรัทธา ดังนั้นจึงอยากให้ กกต.จัดการเลือกตั้งให้ทันตามกรอบ เพราะหากยิ่งเลื่อนออกไปหนึ่งเดือนก็เท่ากับว่า คสช.ต้องอยู่สร้างความเสียหายต่อไป” ร.ท.ปรีชาพลกล่าว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะทำงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรค ทษช. กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ กกต.ทั้ง 7 คนจะเพิกเฉยให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ แม้ข่าวที่ออกมาเป็นรายงานข่าว แต่ กกต.ต้องออกมาประกาศความชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะการเลื่อนการเลือกตั้งมีเพียงเหตุผลเดียวที่พอเข้าใจได้คือ การช่วยให้พรรคผู้มีอำนาจจัดการเรื่องผู้สมัคร เตรียมการให้ได้เปรียบสูงสุดในการเลือกตั้งใช่หรือไม่ เพราะไม่ได้มีแค่กระแสข่าวเลื่อนเลือกตั้ง ยังมีข่าวลือจะใช้อำนาจมาตรา 44 ปลดล็อกสมาชิกพรรคที่ไม่ต้องสังกัดพรรคใน 90 วัน แต่สามารถสังกัดพรรคได้จนถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อเปิดพื้นที่ให้พรรคผู้มีอำนาจดึงอดีต ส.ส. นักการเมืองที่มีฐานคะแนนเข้มแข็ง
“สองวันก่อน ป.ป.ช.ฆ่าตัวตาย เชื่อในสิ่งที่คนทั้งโลกไม่เชื่อว่านาฬิกาเป็นของรองนายกฯ และวันนี้ กกต.จะทำให้สิ่งที่คนทั้งโลกไม่อยากให้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองผู้มีอำนาจหรือไม่” นายณัฐวุฒิกล่าว
นายนิคม ไวยรัชพานิช สมาชิก พรรค ทษช. กล่าวว่า จะจับตาดู กกต.ว่าจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างแฟร์เพลย์หรือไม่ ขอให้ผดุงความยุติธรรม เพราะถ้าทำไม่ถูกต้อง จะทำให้เป็นชนวนความขัดแย้งหลังการเลือกตั้งได้
ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า พรรคกังวลมาตลอดเรื่องนี้ตลอด และยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ที่เสียหายของ คสช. และพรรคการเมืองที่เป็นนอมินี และพรรคสนับสนุนให้แย่ลงกว่าเดิม และจะบั่นทอนความนิยมของทาง คสช.ไปในตัวอย่างแน่นอน
“พรรคอนาคตใหม่พร้อมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ แม้การเลื่อนเลือกตั้งออกไปจะทำให้ได้เปรียบในการหาเสียงเพิ่ม แต่เราไม่ขอรับความได้เปรียบนั้น เพราะเราต้องการนำประชาธิปไตยกลับมาสู่ประเทศไทยให้เร็วที่สุด” น.ส.พรรณิการ์กล่าว
เมื่อถามว่ากระแสข่าวลักษณะนี้ออกมาเป็นการพยายามเบี่ยงประเด็น กรณีการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. หรือไม่ โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นวิจารณญาณส่วนบุคคลว่าจะมองอย่างไร แต่หากเป็นอย่างนั้นจริง คิดว่าการใช้กระแสข่าวด้านแย่กลบข่าวที่แย่กว่านั้นเป็นวิธีที่ไม่ฉลาดนัก
วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ในการลงพื้นที่ โดยพรรค ปชป. นายอภิสิทธิ์พร้อมคณะได้ลงพื้นที่สถานีขนส่งกรุงเทพ (หมอชิต) เพื่อส่งประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการวางตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขต ว่าไม่มีปัญหามีเพียง 5 จังหวัดที่ยังไม่แล้วเสร็จ เพราะต้องพิจารณาเรื่องยุทธศาสตร์ในบางจังหวัด และคาดว่าวันที่ 5-6 ม.ค.2562 น่าจะสรุปเรื่องของ ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อได้
ส่วนพรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ จ.นครพนม โดยก่อนขึ้นเวทีปราศรัย นายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.มหาสารคาม แกนนำผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียนเสื้อแดงได้ตั้งฉายา พล.อ.ประยุทธ์ว่าบักหวื่อ ที่เป็นภาษาอีสานแปลว่าคนที่ไม่ยอมฟังคนอื่น ต่อมา ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวตอนหนึ่งบนเวทีว่า จากผลโพลพรรคเพื่อไทยได้ 38.3% ส่วน พปชร.ได้ 4.7% ดังนั้นพรรค พท.ชนะเลือกตั้งครั้งนี้อย่างแน่นอน และหลังเทศกาลปีใหม่ พรรคจะชี้แจงแนวนโยบายพรรค
เหลิมจองเก้าอี้ รมว.มท.
ร.ต.อ.เฉลิมยังพาดพิงถึงนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.นครพนม ว่าเป็นผู้ว่าฯ ที่มีอายุน้อยที่สุด ควรวางตัวเป็นกลาง เพราะอนาคตรุ่งถึงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย หากยอมไปรับใช้กลุ่มผู้มีอำนาจ ถ้าพรรคได้จัดตั้งรัฐบาล จะขอมาเป็น รมว.มหาดไทยแล้วย้ายผู้ว่าฯ ไปอยู่ในกระทรวง จะเดินเข้า-ออกห้องของผู้ว่าฯ วันละ 10 เที่ยวให้ลุกขึ้นคำนับจนคอหักตาย ซึ่งเรียกเสียงปรบมือดังสนั่นจากประชาชน
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค พท. กล่าวว่า พรรคพร้อมทำงานหนักเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้แก่ประชาชนทันทีเมื่อประชาชนให้โอกาส ซึ่งสอดคล้องกับนิด้าโพล ที่ระบุว่าพรรคการเมืองที่จะสามารถให้ของขวัญปีใหม่ 2562 ตามที่ประชาชนต้องการได้อันดับ 1 เป็นพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคมีแนวทางชัดเจนที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง และมีทีมงานนักบริหารมืออาชีพหลายคน
ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรค พท. โพสต์เฟซบุ๊กว่า เมื่อปี 2544 รัฐบาลไทยรักไทยเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งต้องเผชิญมหาวิกฤติอย่างมาก สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นหนักกว่าที่เกิดในวันนี้หลายเท่า ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนในตอนนั้นยังอยู่พรรคเพื่อไทย ดังนั้นการนำพาประเทศออกจากความล้าหลัง ล้มเหลว ถดถอยและสิ้นหวังในทุกๆ ด้านทำได้ไม่ยาก เพียงเลือกพรรคให้ชนะอย่างถล่มทลายเท่านั้น นอกจากได้มืออาชีพเข้ามาแก้ปัญหาแล้ว ยังได้ขับไล่รัฐบาลตัวตลกและไร้ยางอาย รวมทั้งได้ขับไล่โสเภณีทางการเมืองที่ทรยศประชาชนไปรับใช้เผด็จการ เพราะเห็นกับประโยชน์ส่วนตนอีกด้วย
น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. กล่าวว่า พรรคจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งสิ้น 324 เขต และส่งในพื้นที่ภาคใต้ 49 เขต จาก 50 เขต เพราะทุกคะแนนมีความหมาย และในวันที่ 10 ม.ค. จะจัดปฐมนิเทศผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ของพรรค ส่วนการชื่อบุคคลเป็นนายกฯ นั้น ยังอยู่ระหว่างพิจารณา รวมถึงการตัดสินใจการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อของตนเองด้วย
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) กล่าวเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2562 ที่จะมาถึงนี้ว่า เราคงมีการเลือกตั้งทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น ซึ่งพรรคขอให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นความคาดหวังอย่างสูงจากพี่น้องประชาชนคนไทย ที่อยากเห็นความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองกลับคืนมา รวมทั้งความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจของประเทศ โดยพรรคมั่นใจว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย จะเสริมสร้างความมั่นใจต่อนานาชาติ รวมทั้งนักลงทุน นักท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างแน่นอน
ชพน.พร้อมร่วมมือ
“พรรคชาติพัฒนาพร้อมร่วมมือในทุกๆ ด้าน เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริต เที่ยงธรรม ได้รับการยอมรับ เพื่อเป็นการปฏิรูปการเมืองและนำไปสู่ทางออกของประเทศต่อไป” นายสุวัจน์กล่าว
ส่วนนายธนกรกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการกำหนดทิศทางการพัฒนาของประเทศ ซึ่งจากการลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชนอย่างต่อเนื่องนั้น พี่น้องประชาชนตอบรับพรรค พปชร.มาก กระแสดีวันดีคืน นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าโพลหลายสำนักคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ยังแรงไม่มีตก โดยส่วนตัวมองว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ตอบรับอยู่ในบัญชีนายกฯ ของพรรค เชื่อว่าพรรคได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน
ด้าน ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ทษช.กล่าวว่า พรรคได้เปิดเอ็มวีเพลงใหม่ ‘คิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง’ มีท่วงทำนองจังหวะแรป โดยเน้นถึงความเป็นสมัยใหม่ เนื้อสะท้อนเอกลักษณ์ ความเป็นตัวตนของพรรค โดยคนแต่งคือนายณัฐวุฒิ เพื่อเน้นย้ำหลอมรวมการทำงานความเป็นพรรคที่มีทั้งคนรุ่นใหม่ คนทุกรุ่นที่มีประสบการณ์ในการทำงาน เพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน
ร.ท.ปรีชาพลพร้อมคณะยังลงพื้นที่เขตสวนหลวง เพื่อเปิดศูนย์ประสานงาน ทษช.เขตสวนหลวง พร้อมทั้งรับสมัครสมาชิกพรรค โดยกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ใน กทม.และทั่วภูมิภาค พบปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล คือเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตย สกัดการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล คสช.
ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรค รปช. พร้อมคณะ ได้เดินรณรงค์เชิญชวนประชาชนเป็นสมาชิกพรรคที่จังหวัดปทุมธานี
นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ส่งข้อความชี้แจงถึงการกรณีผลการสำรวจรังสิตโพลที่เผยแพร่ ซึ่งระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังได้คะแนนนิยมเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เป็นกลาง ว่าเพื่อรักษาชื่อเสียงและความเป็นกลางทางการเมืองของ ม.รังสิต ในฐานะผู้อำนวยการโครงการจัดทำโพล จึงขอประกาศยุติการทำรังสิตโพลนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากในอนาคตจะทำการสำรวจโพล จะถือว่ามิได้เกี่ยวข้องกับ ม.รังสิตแต่ประการใดทั้งสิ้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |