29 ธ.ค.61 - นายวัฒนา เมือองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค Watana Muangsook ว่า
เมื่อปี 2544 รัฐบาลไทยรักไทยเข้ามาบริหารประเทศ สิ่งที่เราเผชิญต้องเรียกว่ามหาวิกฤต เช่น (1) ประเทศสูญเสียความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ทุนสำรองระหว่างประเทศหมดต้องกู้ไอเอ็มเอฟ (2) หนี้เงินกู้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นเท่าตัวเพราะลดค่าเงินบาท (3) สถาบันการเงินล้มจำนวนมาก (4) นโยบายการคลังถูกควบคุมโดยไอเอ็มเอฟ (5) รายจ่ายมากกว่ารายรับต้องกู้เงินชดเชยงบประมาณ (6) เกิดสึนามิและไข้หวัดซาร์ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว (7) เกิดไข้หวัดนกทำให้ส่งออกสัตว์ปีกไม่ได้ และ (8) ถูกสหรัฐฟ้องทุ่มตลาดและอียูตัดสิทธิพิเศษทางภาษีทำให้ส่งออกสินค้ากุ้งไปยังสองตลาดหลักไม่ได้
วิกฤตที่เกิดขึ้นในวันนั้นจึงหนักกว่าที่เกิดในวันนี้หลายเท่า แต่ด้วยนักบริหารมืออาชีพที่นำโดยนายกทักษิณทำให้ประชาชนและนักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น เศรษฐกิจดีขึ้นสามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้ก่อนกำหนด รัฐบาลยังแปลงวิกฤตที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นโอกาส รวมถึงการเจรจาการค้าอย่างชาญฉลาดทำให้เราชนะคดีทุ่มตลาดและได้จีเอสพีคืน เป็นผลให้รัฐบาลจัดทำงบประมาณสมดุลได้เป็นครั้งแรกในปีงบประมาณ 2548
รมว.สธ. และ รมว.กษ. ที่แก้ปัญหาซาร์และไข้หวัดนกคือคุณหญิงสุดารัตน์ รมว.มท. ที่รับผิดชอบปัญหาสึนามิคืออาจารย์โภคิน ส่วนผมเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ดูแลราคาสินค้าเกษตรและเป็นคนที่รับผิดชอบการต่อสู้คดีทุ่มตลาดกับสหรัฐและการขอคืนจีเอสพีจากสหภาพยุโรปจนได้รับชัยชนะ ทุกคนยังอยู่พรรคเพื่อไทยรวมถึงผมที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เขตที่บางแค
ดังนั้น การนำพาประเทศออกจากความล้าหลัง ล้มเหลว ถดถอยและสิ้นหวังในทุกๆ ด้านทำได้ไม่ยาก เพียงท่านเลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะอย่างถล่มทลายเท่านั้น นอกจากจะได้มืออาชีพเข้ามาแก้ปัญหาแล้ว ยังได้ขับไล่รัฐบาลตัวตลกและไร้ยางอาย ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ขับไล่โสเภณีทางการเมืองที่ทรยศประชาชนไปรับใช้เผด็จการเพราะเห็นกับประโยชน์ส่วนตนอีกด้วย ระหว่างรอเลือกตั้งก็ฟังเพลงพรรคเพื่อไทยแก้เหงาไปก่อนครับ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |