โพล ม.รังสิตตอกย้ำ "บิ๊กตู่" ยังนำอันดับ 1 ที่ ปชช.ต้องการให้เป็นนายกฯ ตามด้วย "หญิงหน่อย" พปชร.เฉือนชนะ พท. นิด้าโพลอยากให้รัฐบาลใหม่แก้ปัญหา ศก.ปากท้องเป็นของขวัญปีใหม่ นายกฯ สั่งเหล่าทัพลงไปช่วยดูแลชาวบ้านเรื่องปากท้องและความเป็นอยู่ พท.ยก 7 คำถามที่ ปชช.สงสัยบี้ "ประยุทธ์" ตอบเป็นของขวัญปีใหม่ ปชป.ผุดนโยบายปะฉะดะยาเสพติด ชทพ.เปิดตัวผู้สมัครสุพรรณฯ 4 เขต "ประภัตร" โต้ "จองชัย" ลั่นใครจะลงสมัครอย่างไรไม่ต้องสนใจให้เลือก ชทพ.เท่านั้น 

    เมื่อวันศุกร์ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการโครงการสำรวจความนิยมของประชาชนต่อบุคคลและพรรคการเมืองที่จะมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลหลังวันที่ 24 ก.พ.62 ครั้งที่ 5 เปิดเผยว่า ได้รวบรวมตัวอย่างจำนวน 8,000 ตัวอย่าง ในวันที่ 24  ธ.ค.61 ตามภาคอาชีพ เพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ ฯลฯ ใน 350 เขตเลือกตั้งใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ ด้วยระดับความน่าเชื่อมั่นทางสถิติ 90% ผลการศึกษาสรุปว่า คะแนนนิยมในตัวบุคคลที่ประชาชนต้องการให้มาเป็นนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้งตามลำดับ คือ (1) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 26.04% (2) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 25.28% (3) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 22.68% (4)  นายอนุทิน ชาญวีรกูล 9.23% (5) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 9.9% และ (6) อื่นๆ รวมกัน 6.86% 
    เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจครั้งที่ 1 แล้ว พบว่าคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในสภาวะมีเสถียรภาพพอสมควร เพราะสามารถสร้างคะแนนนิยมจากที่เคยได้น้อยกว่าคุณหญิงสุดารัตน์ขึ้นมานำได้สำเร็จ แต่คุณหญิงสุดารัตน์, นายอภิสิทธิ์, นายอนุทิน และนายธนาธรมีคะแนนนิยมสูงขึ้น ผู้ที่มีคะแนนนิยมสูงขึ้นรวดเร็วที่สุด คือนายอนุทินที่เพิ่มขึ้น 6.97% คะแนนนิยมของคุณหญิงสุดารัตน์กับนายอภิสิทธิ์เพิ่มขึ้นในระดับใกล้เคียงกัน คือราว 7% ส่วนนายธนาธรคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นช้าสุด คือเพียง  0.22% เท่านั้น
     ผลการสำรวจครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่สามารถผูกขาดชัยชนะแบบเด็ดขาดเหมือนในอดีตอีกต่อไป เนื่องจากถูกพรรคพลังประชารัฐเข้ามาแบ่งคะแนนไปค่อนข้างมากในแง่ของตัวผู้นำพรรค และคะแนนนิยมในตัวนายอนุทินเพิ่มขึ้นรวดเร็วทั่วทุกภาคในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ในบรรดา 5 พรรคการเมืองที่มีคะแนนนิยมมากที่สุด คะแนนนิยมส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์มีค่าเฉลี่ยเกือบเท่ากันแทบทุกภาค กล่าวคืออยู่ระหว่าง 25-27% ในขณะที่หัวหน้าพรรคการเมืองอื่นๆ จะมีคะแนนนิยมในแต่ละภาคแตกต่างกันค่อนข้างมาก อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์จะมีคะแนนนิยมดีที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ส่วนนายอภิสิทธิ์จะมีคะแนนนิยมดีที่กรุงเทพมหานครและภาคใต้ เป็นต้น  และคะแนนนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์กับคุณหญิงสุดารัตน์อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันทั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
พปชร.แซง พท.
     ส่วนคะแนนนิยมของประชาชนตามภาคต่างๆ ที่มีต่อพรรคการเมือง ถ้ามีการเลือกตั้งในวันนี้  ประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองใด พบว่า (1) พรรคพลังประชารัฐ 26.03%     (2) พรรคเพื่อไทย 25.38%(3) พรรคประชาธิปัตย์ 22.62% (4) พรรคภูมิใจไทย 9.1% (5) พรรคอนาคตใหม่ 9.8%     
     "ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าผู้ที่จะเลือกใครเป็นนายกฯ จะเลือกพรรคการเมืองพรรคนั้นด้วย คือการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 ประชาชนตั้งใจที่จะเลือกตัวบุคคลที่จะเป็นนายกฯ เป็นหลัก คะแนนนิยมของพรรคการเมืองต่างๆ นับแต่บัดนี้เป็นต้นไปจะมาจากภาวะความเป็นผู้นำของตัวบุคคลที่ถูกเสนอเป็นนายกฯ นโยบายด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาคนระดับล่างของสังคม และการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในสังคมรวมถึงปัญหาใน 3 จังหวัดภาคใต้ด้วย" นายสังศิตระบุ   
    วันเดียวกัน "นิด้าโพล" เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "สิ่งที่ประชาชนอยากได้เป็นของขวัญปีใหม่ 2562 จากรัฐบาลชุดใหม่" ระหว่างวันที่ 24-26 ธ.ค.61 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,252 หน่วยตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 52.32 ระบุว่าอยากให้รัฐบาลชุดใหม่แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเป็นของขวัญปีใหม่ ร้อยละ 20.69 ระบุว่าแก้ปัญหาพืชผลทางเกษตร ร้อยละ 9.66  ระบุว่าแก้ปัญหาคอร์รัปชัน ร้อยละ 7.27 ระบุว่าเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ร้อยละ 3.99 ระบุว่าเพิ่มการจ้างงาน  เพิ่มอาชีพ ลดปัญหาการว่างงาน ร้อยละ 1.60 ระบุว่าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศ  เช่น การคมนาคม ถนน รถไฟ 
    สำหรับพรรคการเมืองที่จะสามารถให้ของขวัญปีใหม่ 2562 ตามที่ประชาชนต้องการได้ (10 อันดับแรก) พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 27.71 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 21.25 ระบุว่าไม่มีพรรคการเมืองใดที่จะสามารถให้ของขวัญปีใหม่ตามที่ต้องการได้ อันดับ 3 ร้อยละ 16.53 ระบุพรรคพลังประชารัฐ อันดับ 4 ร้อยละ 16.37 ระบุพรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 5 ร้อยละ 5.91 ระบุพรรคอนาคตใหม่  อันดับ 6 ร้อยละ 4.71 ระบุขอดูนโยบายของแต่ละพรรคก่อน อันดับ 7 ร้อยละ 2.24 ระบุพรรคเสรีรวมไทย อันดับ 8 ร้อยละ 1.60 ระบุพรรคชาติไทยพัฒนา อันดับ 9 ร้อยละ 1.04 ระบุพรรคภูมิใจไทย และอันดับ 10 ร้อยละ 0.56 ระบุพรรคเพื่อชาติ
    ด้านโครงการที่ประชาชนอยากให้รัฐบาลชุดใหม่สานต่อจากรัฐบาลชุดปัจจุบัน พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 27.00 ระบุว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ร้านค้าประชารัฐ ร้อยละ 15.09 ระบุว่าโครงการแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบ ร้อยละ 12.46 ระบุโครงการที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน (เช่น บ้านล้านหลัง ให้สิทธิทำกินในที่ดินของรัฐ) ร้อยละ 11.90 ระบุปราบปรามผู้มีอิทธิพล และปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ  ร้อยละ 10.22 ระบุโครงการส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิต (เช่น เกิดอุบัติเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินรักษาได้ทุกที่ 72 ชั่วโมง) ร้อยละ 5.75 ระบุการจัดระเบียบสังคม (เช่น รถตู้ รถแท็กซี่ คูคลอง หาบเร่ แผงลอย) ร้อยละ 4.63 ระบุว่าโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและพื้นที่ต่อเนื่อง 
    เช้าวันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล ปลัดกระทรวงกลาโหมและผู้นำเหล่าทัพได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์เพื่ออวยพรปีใหม่ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า โดยทยอยเดินทางมาตั้งแต่เวลา 08.30 น. ซึ่งนายกฯ ได้ฝากให้เหล่าทัพลงไปช่วยดูแลประชาชนในเรื่องปากท้องและความเป็นอยู่ต่างๆ โดยนายกฯ  ได้มอบกระเป๋าอเนกประสงค์ของสำนักโฆษกสำนักนายกฯ ให้แก่ผู้เข้าอวยพร 
    ส่วนที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เปิดมูลนิธิให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าอวยพรและขอพรวันปีใหม่ 2562 ซึ่ง พล.อ.ประวิตรได้อวยพรประชาชน โดยขอให้เดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัยปราศจากภัยอันตรายทั้งปวง และขอให้มีความสุขตลอดปี 2562 และตลอดไป พร้อมได้นำคำพูดของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ให้ไว้กับนายกฯ รัฐมนตรี และผู้บัญชาการเหล่าทัพที่ขอให้ทุกคนเป็นมิตรกัน เห็นแก่ความสุข และมุ่งประโยชน์ของประเทศเป็นหลักไปปฏิบัติด้วย
บี้นายกฯ ตอบ 7 คำถาม 
    ด้านนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เป็นธรรมเนียมช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมีการมอบของขวัญให้แก่กัน จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้มอบของขวัญให้คนไทยด้วยการตอบคำถาม 7 ข้อ ซึ่งคำถามทุกข้อเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของคนไทยที่ติดตามข่าวสารการเมืองในช่วงปี 2561 คือ 1.ท่านจะแก้ปัญหาเรื่องการจัดโต๊ะจีนระดมทุนเข้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มี 4  รัฐมนตรีในรัฐบาลของท่านเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร 2.มีความเห็นอย่างไรต่อเรื่องการทำบัตรคนจนพ่วงบัตรสมัครสมาชิกพรรค พปชร. ในฐานะที่ท่านจะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคดังกล่าว 3.ในฐานะเป็นนายกฯ จะจัดการปัญหาที่มีข่าวว่านายอำเภอไปชูบัตรคนจนระหว่างที่ผู้สมัครพรรคพปชร.หาเสียงที่จังหวัดขอนแก่นอย่างไร 4.คิดอย่างไรกับกรณีผู้สมัครจากพรรค พปชร.หนุนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนในป้ายหาเสียง 5.คิดอย่างไรกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบีบให้เจ้าของที่ดินบอกให้ผู้สมัครของพรรค พท.ปลดป้ายหาเสียงออกในจังหวัดนครราชสีมา 6.จะตอบสังคมเรื่องการที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจในการเข้าไปตรวจค้นบ้านพักของทีมงานพรรค พท.ในจังหวัดต่างๆ อย่างไร  และข้อที่ 7.คิดอย่างไรกรณีที่นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคพปชร.โดยที่ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค
    "หากกรณีที่เป็นข่าวทั้ง 7 เรื่องที่ขอให้ท่านตอบเป็นจริงตามนั้น ท่านจะดำเนินการอย่างไร ช่วยตอบคำถามที่สังคมสงสัย ให้สังคมหายข้องใจเป็นของขวัญปีใหม่ 2562 เพราะสังคมรอคอยการเลือกตั้งที่สุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม" นางลดาวัลลิ์กล่าว
    นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ได้แถลงผลการลงพื้นที่ของพรรค ทษช.เพื่อรับฟังปัญหาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า พบปัญหาที่ชัดเจนในหลายจังหวัดคือปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและปากท้อง ซึ่งเป็นปัญหาที่รุนแรงมาก การจัดทำนโยบายของพรรคจึงจะนำเรื่องเศรษฐกิจมาเป็นเรื่องหลัก และจะทุ่มเทในการทำนโยบายเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก การลงพื้นที่ในครั้งที่ผ่านมาเพื่อรับฟังปัญหา แต่หลังปีใหม่จะมีการพบปะกับประชาชนมากขึ้น และจะเน้นไปที่การปราศรัยเป็นหลัก และจะพูดถึงนโยบายที่ชัดเจนในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้จุดยืนนโยบายจะเน้นไปที่การหยุดการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล คสช.ด้วย
    ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย  สังข์ประไพ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตหลักสี่และจตุจักร และนายอันวาร์ สาและ อดีต ส.ส.ปัตตานี ร่วมแถลงนโยบายหาเสียงเลือกตั้งเรื่องยาเสพติด ภายใต้สโลแกน "ไม่เกรงใจใคร ปะ ฉะ ดะ ยาเสพติด" โดยพล.ต.ต.วิชัยกล่าวว่า นโยบาย ปะ ฉะ ดะ เริ่มจาก 1.การยกระดับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ให้มีอำนาจสอบสวนเทียบเท่าตำรวจ โดยสามารถทำสำนวนส่งอัยการฟ้องไม่ต้องผ่านตำรวจ 2.เพิ่มโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ต้องดำเนินวินัยกับผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น 3.ผู้เสพจับซ้ำต้องย้ำคุก หมายถึงหากได้รับการบำบัดแล้วครั้งหนึ่ง แต่เมื่อถูกจับอีกครั้งก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะอ้างเป็นผู้ป่วยไม่ได้อีก 4.ตั้งอาสาป้องกันยาเสพติด คล้ายเป็นตำรวจบ้านหรือตำรวจชุมชน โดยเราจะมีเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือน และ 5.เพิ่มศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติดให้ครอบคลุมพื้นที่   เมื่อออกมาแล้วผู้บำบัดจะได้คืนสู่สังคมได้  
    "คำว่า ปะ หมายถึง ดำเนินการ ฉะ คือ ปราบปรามทุกรูปแบบ ไม่กลัวผู้มีอิทธิพล และคำว่า ดะ  หมายความว่าไม่เลือกหน้า" พล.ต.ต.วิชัยกล่าว 
    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. พร้อมด้วยนายธนิตพล ไชยนันทน์ ผู้สมัคร ส.ส.ปชป. เขต 2 จ.ตาก เดินทางไปเยี่ยมประชาชน เกษตรกรชาวไร่ข้าวโพด และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านสันป่าไร่ ต.พระธาตุ อ.แม่ระมาด จ.ตาก พร้อมรับฟังปัญหาของประชาชนและติดตามความคืบหน้าของงาน อสม.เชิงรุก และ รพ.สต.ในการให้บริการด้านสาธารณสุขที่ได้ริเริ่มไว้ขณะเป็น รมว.สาธารณสุข โดยนายจุรินทร์กล่าวว่า หากได้เป็นรัฐบาลสิ่งที่จะทำคือ ให้ความสำคัญต่อการดูแลคนตั้งแต่ "ก่อนเกิดจนตาย" จะมีสวัสดิการเพิ่มเติมตามนโยบาย "เกิดปั๊บ รับแสน" จากนั้นก็จะเข้าสู่ระบบ "เรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ" มีนโยบาย "บัตรประชาชนใบเดียว รักษาฟรี 48 ล้านคน" มาตรฐานเดียวกับ 30 บาท แต่ไม่ต้องจ่าย 30 บาท  สำหรับผู้สูงอายุยังคงยืนยันให้มีเบี้ยยังชีพที่เริ่มไว้สมัยนายชวน แต่จะเพิ่มให้เป็น 1,000 บาท และเพิ่มเติมให้มีการตรวจสุขภาพฟรีปีละ 1 ครั้งด้วย 
'ประภัตร' โต้ 'จองชัย'
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงนโยบายที่จะผลักดันให้ประชาชนขับแกร็บคาร์ (Grab) ถูกกฎหมายว่า มั่นใจว่าคนขับแกร็บคาร์จะไม่เกิดความขัดแย้งระยะยาวกับผู้ขับรถแท็กซี่สาธารณะที่ถูกกฎหมายอยู่แล้ว เพราะทั้ง 2 อาชีพมีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน แนวคิดดังกล่าวสามารถทำได้จริง ยังมีนโยบายที่จะยกสถานะ อสม.เทียบเท่าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีเงินเดือนตามขั้นบันได ตั้งแต่ 2,500-10,00บาท, ระบบแบ่งปันผลกำไร ข้าว 70%:15%:15% โดยชาวนาได้เงิน 70% ในทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นทางไปปลายทางคือการขายข้าวสาร และการแก้ปัญหาหนี้ กยศ. คือการพักหนี้ 5 ปี โดยชำระตามความสามารถและปลดภาระผู้ค้ำประกัน 
    ที่จังหวัดสุพรรณบุรี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พร้อมด้วยคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา, นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค  พร้อมนางสุวรรณา ศิลปอาชา ภรรยา และบุตรทั้ง 3 เดินตรวจความพร้อมการจัดพิธีเปิดสาขาพรรค ชทพ.ลำดับที่ 3 จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีคณะผู้บริหารพรรคมาร่วมงานด้วย โดย น.ส.กัญจนากล่าวตอนหนึ่งว่า ขอกราบวิงวอนให้เอาความรักที่มีต่อพ่อบรรหารมาเลือก ส.ส.ของพรรคชาติไทยพัฒนาทั้ง 4  เขต โดยไม่แบ่งให้พรรคการเมืองอื่น หรือแบ่งให้ใครสักคะแนนเดียว
     ขณะที่นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ชทพ.กล่าวปราศรัยกรณีที่มีคนบอกว่า ตนและ นายจองชัย เที่ยงธรรม สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ที่ยืนคู่กับนายบรรหารตั้งแต่ปี 2529 แตกแยกนั้นไม่จริง เชื่อมั่นว่าหากพวกเราไม่แตก สุพรรณบุรีจะไม่แตก นายบรรหารสร้างพรรคมา 40 ปี จะต้องไม่แตกไม่แยก ดังนั้นจากนี้ไม่ต้องนึกถึงอะไร ให้เลือกพรรค ชทพ.อย่างเดียว ใครจะลงสมัครอย่างไรไม่ต้องสนใจมัน ให้เลือกพรรค ชทพ.เท่านั้นเพื่อรักษาพรรคให้อยู่ต่อไป
    ในการปราศรัยได้แนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพื้นที่ จ.สุพรรณบุรีด้วย ได้แก่ เขต 1 นายสรชัด สุจิตต์, เขต 2 นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ, เขต 3 นายประภัตร และเขต 4 นายเสมอกัน เที่ยงธรรม
         ที่ จ.น่าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐและคณะเดินทางไปรับฟังปัญหาประชาชน โดยมีประชาชนให้การต้อนรับกว่า 5,000 คน นายสมศักดิ์  กล่าวถึงกระแสอาจจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีกอย่างน้อย 1 เดือนว่า ยังไม่เคยได้ยินกระแสข่าวดังกล่าว คิดว่าไม่ควรที่จะมีการเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีกจากกำหนดเดิมที่จะมีในเดือน ก.พ.62 เพราะขณะนี้ประชาชนต่างคาดหวังว่าจะมีการเลือกตั้ง และกระแสของพรรค พปชร.กำลังมาแรง แต่หากจะมีการเลื่อนจริงๆ ต้องดูว่ามีเหตุผลใดที่จะทำเช่นนั้น ถ้าสมเหตุสมผลก็ยอมรับได้ แต่หากไม่สมเหตุสมผลอาจจะเกิดปัญหาตามมาได้
    ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กพร้อมภาพกับลูกสาว ระบุว่า "วานนี้พาน้องเฟไปที่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย เขตที่ 28 เพื่อเตรียมการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งที่ตนจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรของเขตบางแค เขตนี้เดิมเป็นพื้นที่ของท่านสุธา ชันแสง แต่เนื่องจากท่านสุธามีปัญหาสุขภาพพรรคจึงมอบหมายให้ผมมาเป็นผู้สมัครแทน โดยท่านสุธายังคงจะเป็นพี่เลี้ยงให้ ส่วนน้องเฟจะช่วยพ่อเดินหาเสียง ถ้าเห็นเราสองพ่อลูกเดินหาเสียงในเขตบางแคก็ทักทายกันได้เลยครับ"
     พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ในงานอบรมสัมมนาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบแบ่งเขตเลือกตั้งและระบบบัญชีรายชื่อ ณ โรงแรมอีสติน มักกะสัน กรุงเทพฯ ว่า สำหรับในกรุงเทพฯ จากการที่ได้มีโอกาสลงพื้นที่ตั้งแต่ตนสมัครผู้ว่าฯ กทม. มั่นใจว่าจะทำให้เกิดปรากฏการณ์เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับคุณสมัคร สุนทรเวช หรือคุณจำลอง ศรีเมือง ที่เคยทำมาแล้ว.