ชี้แก๊ง3จว.ใต้บึ้ม!สงขลา 'ประวิตร'ฟันธงการเมือง


เพิ่มเพื่อน    

    ฝ่ายความมั่นคงยืนยันระเบิดแหลมสมิหลาเพียง 2 ลูก ส่วนที่เหลือเป็นเพียงการยิงทำลายวัตถุต้องสงสัย เชื่อเป็นฝีมือแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 4 อำเภอ-3 จว.ชายแดนใต้บางส่วน เหตุทั้งความมั่นคงและเชื่อมโยงทางธุรกิจ ผู้ว่าฯ สงขลาสั่งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยไม่ให้กระทบเทศกาลปีใหม่ "บิ๊กป้อม" ฟันธงเป็นเรื่องการเมือง แต่ใช้คน 3 จว.ใต้ก่อเหตุ เผยรู้ตัวแล้วกำลังติดตามอยู่  
    เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม มีความคืบหน้าเหตุระเบิดที่แหลมสมิหลา จ.สงขลา เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงได้ร่วมกันแถลงข่าวสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา, พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9,   พล.ต.จตุพร กลัมพสุต รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ พล.ร.ท.ชุตินธร ทัตตานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2
    โดยในส่วนของระเบิดที่เกิดขึ้น พล.ต.ท.รณศิลป์  กล่าวยืนยันว่า มีเพียง 2 ลูก คือลูกที่วางระเบิดรูปปั้นนางเงือกทำให้หางนางเงือกขาด กับลูกที่วางระเบิดรูปปั้นหนูกับแมวที่อยู่ห่างกันประมาณ 300 เมตร แต่ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนที่เหลือเป็นเพียงการยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยที่เป็นชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของระเบิดทั้ง 2 ลูกเท่านั้น ซึ่งกระจัดกระจายอยู่โดยรอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด ซึ่งชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดต้องยิงทำลายทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะส่งชิ้นส่วนระเบิดไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเชื่อมโยงไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุ
    "ส่วนสาเหตุของการลอบวางระเบิดนั้น เชื่อมโยงกันหลายเรื่อง ยังไม่สามารถที่จะชี้ชัดได้ และจากแนวทางการสอบสวน พบว่าอาจจะมีความขัดแย้งในทางการค้าและกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวมาเกี่ยวข้องด้วย แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นระเบิดการเมืองแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องเร่งสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป" พล.ต.ท.รณศิลป์กล่าว
    ด้าน พล.ต.จตุพรกล่าวว่า ยังไม่สามารถปักใจเชื่อว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด หรือเป็นการกระทำของกลุ่มใด แต่ก่อนหน้านี้พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดน จ.สงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บางส่วน แต่ยังไม่หลักฐานที่ยืนยันได้ว่าเป็นการกระทำของคนกลุ่มนี้หรือไม่
    ขณะที่ พล.ร.ท.ชุตินธรกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า หลังเกิดเหตุได้จัดกำลังชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดของกองทัพเรือเข้าไปสนับสนุนฝ่ายตำรวจ และจัดกำลังเสริมดูแลความปลอดภัยบริเวณชายหาดแหลมสมิหลาหลังจากนี้
    ทางด้านนายวีรนันทน์กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องเร่งวางมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ทั้งด่านตรวจด้านความมั่นคงและถนนสายรอง แต่จะต้องไม่กระทบกับบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ และต้องเร่งสร้างความมั่นใจกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยขอความร่วมมือสื่อมวลชนและประชาชนมาร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นของ จ.สงขลา ให้กลับคืนมา และร่วมกันประณามผู้ที่ก่อเหตุ และขอความร่วมมือสื่อโซเชียลอย่าเผยแพร่ข่าวที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งเป็นการซ้ำเติมให้เหตุการณ์เลวร้ายลงไปอีก
    ผู้ว่าฯ สงขลากล่าวว่า ในส่วนการซ่อมแซมรูปปั้นนางเงือกที่เสียหายนั้น จากการตรวจสอบพบว่าสามารถนำหางมาต่อได้ ซึ่งหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมต่อไป
    ในวันเดียวกันนี้ นายสมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีเมืองสงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลนครสงขลา ได้เข้าตรวจสอบความเสียหายของเงือกทอง พบว่าถูกแรงระเบิดจนขาดในช่วงกาลหาง โดยเบื้องต้นยืนยันสามารถดำเนินการซ่อมแซมได้ทันที และจะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สามารถเปิดพื้นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้
    มีรายงานว่า จากการตรวจสอบวัตถุระเบิดของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด พบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องโดยพบชุดควบคุมการจุดระเบิดเป็นนาฬิกาข้อมือยี่ห้อ คาสิโอ 1 ชุด ภาชนะบรรจุดินระเบิดหลัก เป็นกล่องเหล็กกว้าง 4 นิ้ว ยาว 5 นิ้ว หนา 2 นิ้ว ชิ้นส่วนสายไฟ ปลั๊กไฟตัวผู้ แบตเตอรี่ขนาด AA จำนวน 3 ก้อนฝากล่องพลาสติก
    ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังได้รับรายงานอีกว่า คนร้ายยังลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ อีก 2 ต้นด้วย โดยจุดแรกอยู่ในพื้นที่หมู่ 13  ต.บางเหรียง อ.ควนเนียง ซึ่งผูกไว้บริเวณโคนเสาไฟฟ้า 2 จุด ทำให้ให้ขาเสาไฟฟ้าแรงสูงขาดทั้งสอง 2 ต้น 
    ส่วนอีกจุดซึ่งอยู่ถัดออกไปในพื้นที่หมู่ 4 ต.ท่าช้าง เขตรอยต่อ อ.บางกล่ำ กับ อ.ควนเนียง มีการนำระเบิด 4 ลูกไปผูกไว้ที่โคนเสาไฟฟ้าทั้ง 4 ต้น แต่ยังไม่ระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าไปทำการเก็บกู้เอาไว้ได้ ซึ่งระเบิดที่พบเป็นการก่อเหตุในช่วงเวลาเดียวกันกับที่เกิดเหตุระเบิดที่ชายหาดแหลมสมิหลา โดยคนร้ายต้องการวางระเบิดเพื่อให้เสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม
     ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เชื่อว่าคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดมาแล้วหลายครั้ง หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหมลงพื้นที่ ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุเชื่อว่าเป็นกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ที่ต้องการจะสร้างการณ์ขึ้น แต่จะมีการหวังผลอะไรนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด  แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง จากการตรวจสอบด้านการข่าว ยังไม่พบกลุ่มดังกล่าวเตรียมเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่หัวเมืองสำคัญอย่างในกรุงเทพมหานคร อีกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นเหมือนเป็นการส่งสัญญาณ
     ขณะที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ กำลังดำเนินการติดตามตัวผู้ก่อเหตุอยู่ หากตามตัวได้แล้วตนจะเล่าให้ฟัง ซึ่งในวันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่ไปแล้ว และการกระทำดังกล่าวคาดว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ขึ้นมาก็ได้ในช่วงปีใหม่ ดังนั้นขออย่าเพิ่งด่วนสรุป และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางหน่วยงานด้านความมั่นคงก็ไม่ได้มีการรับแจ้งเตือนมาก่อน ดังนั้นขอให้รอผลการตรวจสอบให้ชัดเจนจากทางเจ้าหน้าที่ว่าน่าจะมาจากสาเหตุอะไร
    ต่อมา พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องการเมือง ไม่น่าจะเกี่ยวกับสถานการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งขณะนี้รู้ตัวแล้ว กำลังติดตามตัวอยู่ เชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลต่อสถานการณ์ ยืนยันว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่ใช้คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาก่อเหตุ
     "กำลังตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่ ยังไม่มีความชัดเจน ขอให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานเพื่อติดตามตัวคนร้าย มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการสร้างสถานการณ์ เพราะไม่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับที่ผมลงพื้นที่จังหวัดสงขลาเพื่อไปแจกโฉนดที่ดินคืนให้กับประชาชน" พล.อ.ประวิตรกล่าว 
     นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่เห็นว่าเหตุการณ์ระเบิดจะไปเชื่อมโยงการเมืองภายในพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"