"บิ๊กตู่" วอนทุกคนอย่าพูดจาให้ร้ายกัน จะไม่เกิดประโยชน์ รับเป็นนายกฯ พูดต้องระวัง แต่ที่ร้ายๆ ในฐานะหัวหน้า คสช. ยันอยู่ไปไม่เสียของ อ้างปฏิรูปประเทศไม่ง่าย ต้องใช้กฎหมายหลายข้อ "อ๋อย" ข้องใจ "บิ๊กตู่" แทงกั๊ก แต่เชื่อคงไม่ถอยเพราะวางแผน 4-5 ปีเพื่อเป็นนายกฯ อีก พท.ปัดเอี่ยวรถตุ๊กๆ ติดป้าย "รับเงินหมา กาเพื่อไทย" ขนส่งเชียงใหม่ชี้ป้ายทะเบียนปลอม "หญิงหน่อย" ลงพื้นที่หนองคาย-อุดรฯ กองเชียร์ลั่นให้เป็นนายกฯ หญิง บี้ กกต.สอบแจกบัตรคนจนโดยไม่เกรงกลัวอำนาจ
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 26 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณสุดยอดวัฒนธรรมสร้างสรรค์แห่งปี พ.ศ.2561 ว่านิสัยตนเห็นอะไรก็อยากจะแก้ไขปรับปรุง อยากพัฒนา ให้ทุกคนสร้างความดี เป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ตลอดเวลา แม้จะนอนคิดดีปรารถนาดี สวดมนต์อวยพรให้คนอื่นได้ดี มีความสุข จะกินจะนอนก็นึกถึง จะกินอะไรดีๆ ก็นึกถึงคนที่ไม่มีอะไรจะกินบ้าง เพราะนายกฯ คือคนที่ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน เพื่อสิ่งที่ตนตั้งมั่นมาตลอด และพร้อมที่จะทำงานให้ดีที่สุดในช่วงที่ทำหน้าที่อยู่
"อยากเชิญชวนให้ทุกคนและคนทางบ้านสร้างสรรค์ความดีให้ประเทศไทย แต่ถ้ายังพูดจาให้ร้ายกันไปมา จะไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น อาจจะเกิดกับบางกลุ่มบางกลุ่ม แต่ไม่ได้เกิดประโยชน์กับประเทศ ซึ่งต้องได้รับความเชื่อมั่นและเชื่อถือจากโลกภายนอก และปีหน้าเราจะเป็นประธานอาเซียน จะเป็นรัฐบาลไหนก็ยังไม่ทราบ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องเตรียมการตั้งแต่วันนี้ เตรียมเป็นเจ้าภาพเจ้าบ้านที่ดี และที่สำคัญจะเชื้อชาติใด ศาสนาใด ต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ มีความขัดแย้ง มีปัญหาต่างๆ ต้องพูดคุยกัน"
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การปฏิรูปประเทศมันไม่ง่ายนักหรอก จำเป็นต้องใช้กฎหมายหลายตัวหลายข้อ อย่างการปฏิรูปตำรวจ ไม่ใช่จะปฏิรูปตำรวจอย่างเดียว ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ประกอบไปด้วย ตำรวจ อัยการ และศาล มี พ.ร.บ.เป็นสิบ พ.ร.บ. ต้องแก้ทุก พ.ร.บ. ไม่ใช่สั่งตำรวจอย่างเดียว อย่างอื่นไม่ต้องทำไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ต้องสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้ได้ ไม่ใช่รัฐบาลสั่งการ มันสั่งการไม่ได้ ถ้าทุกคนไม่เห็นชอบร่วมกัน ก็มีกลไกประชาธิปไตย ก็ไปว่ากันมา ไปแก้ไขกันมา ทุกอย่างทำได้ เริ่มต้นได้ แก้ไขได้หมด เพียงแต่ขอให้สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ไม่ทำเพื่อประโยชน์ตนเอง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ตนยึดมั่นมาตลอด และคิดว่าทุกคนน่าจะยอมรับในสิ่งที่ตนพูดทั้งหมดในวันนี้ ประชาธิปไตยที่ไม่เคารพกฎหมาย ถือเป็นประชาธิปไตยที่ใช้ไม่ได้จริง
"ผมทำงานด้วยกฎหมาย แม้จะมีคนกล่าวหาอะไรเยอะแยะ ตราบใดที่ทำถูกกฎหมาย ผมก็ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ใครทำอะไรก็ต้องถูกสอบสวนดำเนินคดี ผมไม่เคยไปก้าวล่วงหรือสั่งติดคุก เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม และเวลาไปต่างประเทศก็ไม่เห็นมีใครรังเกียจผม มีแต่คนไทยบางคนเท่านั้นแหละ"
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมเราต้องขัดแย้งกัน ทำไมไม่สร้างประเทศไทยให้อบอุ่นเป็นที่ยอมรับในความปรองดองสามัคคีของพวกเราไม่มีใครทำได้ ไม่มีรัฐบาลใดบังคับให้ทุกคนปรองดองได้ แต่อยู่ที่ทุกคน หลักคิดถูกต้องไหม ประชาธิปไตยถูกต้องไหม เรากำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง อยากฝากสังคมช่วยเรียนรู้อะไรที่เกิดขึ้นในอดีตต้องไม่เกิดขึ้นอีกในปัจจุบันและในอนาคตสิ่งต่างๆ เหล่านี้มีคนบอกนายกฯ อยู่เสียของ ซึ่งไม่เสียของ เพราะไม่ได้อยู่ที่ตนคนเดียว แต่อยู่ที่สังคมต้องเรียนรู้ที่จะสร้างประวัติศาสตร์เพื่อวันหน้าอย่างไร
"ตอนนี้การพูดจาของนายกฯ ต้องระวัง แต่อย่าลืมว่าผมเป็นหัวหน้า คสช.ด้วย ถ้าร้ายๆ เป็นหัวหน้า คสช. ก็ขออย่าลืม ประเทศสงบได้ทุกวันนี้กี่ปีแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ด้านนายวิรัตน์ วรศสิริน รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯ ยกเหตุผล 8 ข้อไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไป ว่า หาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธรมีเวลาคงจะพูดความล้มเหลวของรัฐบาล คสช.ได้มากกว่านี้ อาทิ การสืบทอดอำนาจ การเอาภาษีประชาชนไปหาเสียง การเอางบประมาณไปจัดซื้ออาวุธ ท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชนที่ยากจนลงทุกวัน รวมทั้งค้าขายก็ไม่ได้ รวมทั้งการปฏิรูปประเทศที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา และทำท่าจะแย่ไปกว่าเดิม ดูได้จากการปฏิรูปตำรวจ ยังพบการซื้อขายตำแหน่ง
ตอกย้ำ 4 รมต.เอาเปรียบ
"แม้รัฐบาลจะบอกปัด สิ่งที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรออกมาพูด ชาวบ้านคงไม่ฟัง เพราะเป็นสิ่งที่รับรู้มาโดยตลอดว่าสถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นใด มีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ อาจไม่ทราบ เพราะยังส่องกระจกบานเดิมเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วอยู่ ขณะที่วันนี้คนเสื้อเหลืองเสื้อแดง และคนทั้งประเทศก็ไม่มีใครเอาท่าน เว้นแต่คนที่อยู่รอบตัวท่านและได้ผลประโยชน์จากการรัฐประหารที่ยังชื่นชมอยู่ และมั่นใจว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นคำตอบให้ท่านรับทราบความจริงวันนี้ที่ชาวบ้านรู้สึกเป็นอย่างไร" นายวิรัตน์กล่าว
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โพสต์เฟซบุ๊ก “ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ยังทำเป็นกั๊ก?” ว่า จะแกล้งว่าไม่ต้องการเอาเปรียบใครหรือกลัวก็ไม่ทราบ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงห้ามพรรคการเมืองพูดสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ถ้าไม่ต้องการเอาเปรียบใครก็ดูพูดช้าไปมาก เพราะบางพรรคประกาศชัดเจนไปตั้งนานแล้วว่าถ้าเลือกเขามากๆ จะได้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ซึ่งเอาเปรียบพรรคอื่นๆ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจอนุมัติโครงการต่างๆ เท่ากับหาเสียงให้กับตัวเองและพรรคที่สนับสนุน หรือว่าชักกลัวถ้ายอมรับเป็นผู้ถูกเสนอชื่ออาจถูกถล่มจนรับไม่ไหว เพราะทุกวันนี้ก็โดนไม่เว้นแต่ละวันอยู่แล้ว ที่ พล.อ.ประยุทธ์อยู่มาได้ก็เพราะมีอำนาจเผด็จการในมือไว้คอยกดคน แต่ถ้าอยู่ในฐานะผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ จะกดคนไว้อย่างเดิมย่อมไม่ได้ จึงเป็นเรื่องน่าสนใจว่า พล.อ.ประยุทธ์คิดอย่างไรกันแน่ แต่เรื่องถอยคงเป็นไปไม่ได้เพราะลงทุนวางแผนมาตลอด 4-5 ปีมานี้ ก็เพื่อจะเป็นนายกฯ ต่อไป
นายจาตุรนต์ยังให้สัมภาษณ์กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ชี้แจงในที่ประชุม ครม.เกี่ยวกับข้อปฏิบัติของรัฐมนตรีที่ร่วมพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)หลังมี พ.ร.ฎ.การเลือกตั้งว่า นายวิษณุกำลังทำหน้าที่เป็นกุนซือให้ พปชร.เพิ่มเติมจากหน้าที่รองนายกฯ ปกติ การเป็นกุนซือให้รัฐมนตรีในเรื่องการบริหารงานบ้านเมืองสามารถทำได้ แต่ไม่ควรมาเป็นกุนซือให้พรรคการเมือง เพราะ รมต.มีตำแหน่งภายในพรรคการเมือง การออกมาพูดบ่อยๆ จะเข้าข่ายเป็นคนนอกที่ครอบงำพรรคการเมืองได้ แต่เราไม่ได้ไปเรียกร้องให้เอาผิดอะไร เพียงแต่เห็นว่าการที่รองนายกฯ บอกว่ารัฐมนตรีที่ไปทำพรรคการเมืองไม่สามารถพูดจะสานต่อนโยบายได้ แต่พูดสนับสนุนนโยบายว่าดีและอยากสานต่อได้ เหมือนเป็นการแก้ต่างให้นักการเมืองหาช่องทางใช้ประโยชน์จากโครงการของรัฐเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งไม่ควรทำ เพราะเป็นเพียงการหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายแบบเนียนๆ
นายธีรพงศ์ เผ่ากา รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ(พ.พ.ช.) กล่าวว่า จะมีการประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งในวันที่ 2 ม.ค.2562 ฝ่ายกฎหมายรัฐบาลก็เตือนรัฐมนตรีทุกคนให้ระวังและให้วางตัวเป็นกลาง ห้ามขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อชี้นำคน และใช้อำนาจหน้าที่ไปให้คุณให้โทษกับคนอื่น ซึ่งเห็นว่าเหลือเวลาอีกเพียง 61 วัน หรือ 2 เดือนเท่านั้นก็จะถึงวันเลือกตั้งแล้ว 4 รัฐมนตรี ในรัฐบาลนี้ที่เป็นสมาชิกพรรค พปชร. รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ที่พรรค พปชร.จะเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ของพรรค พปชร. ตนขอแนะนำให้ลาออกเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนจะได้เป็นแบบอย่างที่ดีในการไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนด้วยการเอาเปรียบผู้อื่น
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีการอ้างมีความพยายามบิดเบือนข้อมูลพบกระบวนการโจมตีพรรคพปชร.รายวัน และดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอนสอดรับกันหลายฝ่ายว่า แทบทุกเรื่องพรรค พปชร.ทำตัวเองทั้งสิ้น ทั้งข่าวระดมทุนโต๊ะจีนคำละ 3,000 บาท ที่มีชื่อหน่วยงานรัฐบริจาค 69 ล้านบาท นายอำเภอบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พาผู้สมัครพรรค พปชร.ไปหาเสียงโดยการแจกบัตรคนจน หรือการบังคับสมัครสมาชิกพรรค พปชร.แลกบัตรคนจน เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครไปทำให้ ทำตัวเองล้วนๆ กรณีนายเกียรติบุรุษ พันธ์เลิศ โพสต์คลิปประจานเจ้าหน้าที่ให้สมัครสมาชิกพรรค พปชร.เพื่อแลกบัตรคนจน สังคมไทยควรมีคนอย่างนายเกียรติบุรุษสักล้านเกียรติบุรุษ จะได้ร่วมกันตรวจสอบและรักษาสิทธิของตนเองไม่ให้มีการทุจริตที่จะนำไปสู่การโกงเลือกตั้ง ไม่ควรถูกคุกคามโดยการเรียกไปปรับทัศนคติ บ้านเมืองจะเดินหน้าได้ก็ต่อเมื่อประชาชนเข้มแข็ง ประชาชนควรมีส่วนร่วมป้องกันการโกงเลือกตั้ง คนชี้เบาะแสไม่ใช่อาชญากร
บี้ กกต.สอบแจกบัตรคนจน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค พท. กล่าวว่า อยากจะเรียกร้องให้ กกต.ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม การแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่ปรากฏในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยได้เคยยื่นร้องต่อ กกต.แล้วเกี่ยวกับปัญหานี้ ขณะเดียวกันรัฐบาลยังอนุมัติงบประมาณและแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ และพบว่าข้าราชการบางส่วนยอมที่จะก้มหัวให้กับอำนาจของรัฐ โดยไม่ได้มองเรื่องไหนถูกหรือผิด ทำให้มีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครบางพรรคการเมือง ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว และจะเตรียมยื่นให้กับ กกต.ต่อไป จึงฝากความหวังไว้ที่ กกต.ต่อชุดนี้ว่าจะทำหน้าที่ได้อย่างสมศักดิ์ศรีและไม่เกรงกลัวอำนาจใดๆ
ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ประกาศขู่หากพรรคการเมืองไหนอ้างชื่อหรือนโยบายของรัฐบาลในการหาเสียงเลือกตั้งจะลงโทษจะเอาผิดนั้น คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า หากทำตามที่พูดไว้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะขณะนี้เห็นว่ามีแกนนำที่เป็นรัฐมนตรียังขึ้นเวทีกล่าวปราศรัย และอ้างว่าจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อยู่ รวมถึงเอานโยบายของรัฐบาลทั้งหมด รวมถึงมีการแจกเงินอนุมัติงบต่างๆ อยู่ตลอด และก็ชูเรื่องนี้ในการหาเสียง หากรัฐมนตรี 4 คนลาออกกระแสกดดันจะไม่ตกอยู่แค่รัฐมนตรีทั้ง 4 คน
ทั้งนี้ เช้าวันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ลงพื้นที่จังหวัดหนองคายเพื่อพบปะประชาชนตลาดโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จ.หนองคาย โดยมีประชาชนจำนวนมากมารับฟังนโยบาย ซึ่งระหว่างที่เดินทักทายประชาชนนั้น ได้มีประชาชนตะโกนบอกอยากได้นายกรัฐมนตรีหญิงมาบริหารประเทศอีกครั้ง ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์บอกว่า ไม่ว่าใครในพรรคเพื่อไทยจะเป็นนายกฯ พรรคก็จะทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างเต็มที่ จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์เดินทางไปที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขต 1 จ.หนองคาย เพื่อเปิดศูนย์ประสานงานของพรรค
ก่อนที่ช่วงบ่ายได้เดินทางลงรณรงค์หาเสียงให้ว่าที่ผู้สมัครอุดรธานี ขณะเดินทางมาถึงตลาดนัดต้นยางใหญ่ บ้านนาข่า ท่ามกลางสมาชิกพรรคที่มารอกว่า 1,200 คน ระหว่างนั้นโฆษกยังประกาศเชียร์ให้คุณหญิงสุดารัตน์เสนอชื่อเป็น “นายกรัฐมนตรี”
โดยก่อนหน้าคุณหญิงสุดารัตน์จะเดินทางมานั้น นายสุทิน คลังแสง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.มหาสารคาม ปราศรัยบนเวที โจมตีการทำงานของรัฐบาลปัจจุบัน ว่าทำให้รวยกระจุก จนกระจาย มีพฤติกรรมอุ้มนายทุน ทำให้นักธุรกิจใหญ่ร่ำรวยขึ้น ไม่สนใจแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร ใช้เงินคงคลังไปจนเกือบจะหมด สร้างหนี้สาธารณะมากมาย บัตรคนจนหรือสวัสดิการที่รัฐบาลทำไว้ เราจะทำให้ดีขึ้น ไม่สุกเอาเผากิน โครงการจำนำข้าวจะกลับมา ไม่เอาโครงสร้างภาษีใหม่
จากกรณีที่มีการแชร์ภาพรถตุ๊กๆ รุ่นเก่า ทะเบียน สก 1139 เชียงใหม่ ติดป้ายโฆษณาด้านหลังรถโดยมีข้อความว่า “รับเงินหมา กาเพื่อไทย เพื่อหัวใจประชาชน” ลงบนโลกสังคมออนไลน์ และได้รับการแชร์เป็นจำนวนมากนั้น นายบุญธรรม บุญหมื่น หัวหน้าสาขาพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 2 ภาคเหนือ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เห็นภาพดังกล่าวแล้วรู้สึกตกใจเหมือนกัน และก็งงกับภาพที่เกิดขึ้นเพราะว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีพฤติกรรมแบบนั้น ที่จะจ้างรถตุ๊กๆ ติดป้ายโฆษณาแบบนั้น ซึ่งไม่ใช่แนวทางการปฏิบัติของพรรค ขอยืนยันว่าพรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับป้ายโฆษณาที่เกิดขึ้น
"ขณะนี้ได้นำภาพดังกล่าวไปตรวจสอบกับทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ว่าใครเป็นเจ้าของรถ ซึ่งอยากจะฝากไปที่เจ้าของรถ หรือใครก็ตามที่เตรียมจะมีการติดป้ายแบบนี้ ขอความกรุณาอย่านำชื่อพรรคหรือโลโก้ของพรรคไปแอบอ้างหรือไปกระทำการในลักษณะนี้เพราะทำให้พรรคเสียหาย" นายบุญธรรมกล่าว
"ไก่จ๋า"เหน็บอยากดูหน้าหมา
นางพรรณี พุ่มพันธ์ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นตามป้ายทะเบียนที่ปรากฏในภาพ พบว่าเลขทะเบียนรถและเจ้าของรถไม่ตรงกัน คาดว่าน่าจะเป็นการสวมป้ายทะเบียนปลอม ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่เช็กโดยละเอียดว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ต้องใช้เวลาสักพัก
ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรค พท. รีทวีตรูปภาพและข้อความของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร ที่โพสต์ลงบนทวิตเตอร์ว่า "เอิ่มม...ใจร่มๆ และคิดให้ดีๆ นะครับ พี่ 3 ล้อเขาไม่ได้ว่าใคร...หากร้อนตัว สั่งลูกน้องไปรังแกเขาอีก จะกลายเป็นว่า ที่แจกเงิน ก็เพื่อหวังคะแนนเสียงนะครับ..!!"
โดยนายวัฒนาทวีตข้อความสำทับว่า "ถ้าสั่งคนไปรังแกเค้า ก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นหมา อยากดูหน้าหมาจัง"
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ว่าไป ส่วนจะผิดหรือไม่ ตนไม่ทราบ ต้องไปถาม กกต.
"ฝากไปถึงพรรคการเมือง หาเสียงเชิงสร้างสรรค์ ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อรักษาบรรยากาศบ้านเมือง และการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปีหน้านี้ แต่หากมีใครทำผิดก็ต้องดำเนินการ" พล.อ.ประวิตรกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า การติดป้ายหาเสียงในขณะนี้ ถ้าหากว่าใครเสียหายก็ต้องว่าไปตามกฎหมายอาญา เพราะยังไม่ได้มี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งออกมา แต่เมื่อ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งมีผลใช้บังคับ ป้ายหาเสียงที่มีในขณะนี้ต้องเอาลงทั้งหมด
"ถึงแม้ขณะนี้ยังไม่ได้มี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. แต่ช่วงนี้อะไรที่จะทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต กกต. ยังสามารถที่จะตรวจสอบได้ และก็มีการเก็บข้อมูลและหลักฐานไว้แล้วในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดโต๊ะจีนระดมทุน, คลิปแจกบัตรคนจน, การแจกข้าวสาร, แจกเงิน 100 บาท เมื่อมีการเลือกตั้งแล้วเขามาเป็นผู้สมัคร การกระทำที่เขาเคยทำเอาไว้ ก่อนมี พ.ร.ฎ.ก็จะมีผลกับตัวเขาเอง กกต.ก็จะพิจารณาว่าสิ่งที่เขาทำนั้นทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมหรือเปล่า ซึ่งอาจมีผลทำให้เขาถูกระงับสิทธิในการสมัคร หรือถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้" พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว
ที่ จ.นครราชสีมา น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.), นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยผู้บริหารของ ชทพ. ทำพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) โดย น.ส.กัญจนา เปิดเผยว่า ได้อธิฐานขอย่าโมว่า ขอให้พรรค ชทพ.สามารถมีตัวแทนเป็นลูกหลานย่าโมใน จ.นครราชสีมาได้ เพื่อที่จะเป็นตัวแทนสะท้อนปัญหาให้ ชทพ.ได้รับใช้ประชาชนชาว จ.นครราชสีมา เพื่อก้าวข้ามปัญหาต่างๆได้ โดยจะส่งว่าที่ผู้สมัครลงทั้ง 14 เขตในจังหวัดนี้
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวหลังลงพื้นที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่ จ.นครราชสีมา ผ่านเพจริงไซด์การเมืองว่า พี่น้องลูกหลานย่าโมต้อนรับอย่างอบอุ่น สำหรับ จ.นครราชสีมา เป็นจังหวัดใหญ่ มี ส.ส.ถึง 14 คน พรรคภูมิใจไทยส่งสู้ศึกเลือกตั้งทุกเขต โดยไม่ได้หวังไปเก็บคะแนน เพราะแบบนั้นเหมือนดูถูกประชาชน แต่พรรคภูมิใจไทยหวังชนะ
ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมถึงการเตรียมความพร้อมของการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ว่า พรรคจะส่งผู้สมัคร 280 เขต ในพื้นที่ 60 จังหวัด โดยในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จะส่งครบทั้ง 14 เขตเลือกตั้ง ส่วนจะได้ ส.ส.เท่าใด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน แต่ส่วนตัวคาดหวังว่าจะได้ ส.ส.ทุกเขต ทั้งนี้ยอมรับกับหลายพรรคการเมืองที่พยายามหาเสียงและคาดหวังกับการยึดพื้นที่ใน จ.นครราชสีมา เนื่องจากเป็นจังหวัดใหญ่
ปชป.เคาะ"ลูกนิพนธ์"ได้ลง สส.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ทั้ง 50 เขต แถลงนโยบายการแก้ปัญหาราคาปาล์มและยางพาราว่า ภาคใต้เป็นเมืองหลวงของ ปชป. ว่าที่ผู้สมัคร 50 คน เป็นขุนพลที่ต้องรักษาเมืองหลวง และรักษา ปชป.เอาไว้ 4-5 ปีที่ผ่านมาเราตระหนักดีว่าประชาชนโดยเฉพาะภาคเกษตรกรอยู่กันอย่างยากลำบาก ดังนั้น 1 ปีหลังจากเลือกตั้ง ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน เป็น 1 ปีที่ต้องฟื้นฟูวิถีเกษตรกร โดยเราเดิมพันว่าเราจะฟื้นฟูชีวิตของเกษตรกรกลับมาให้ได้
เรามีนโยบายสำหรับภาคใต้ 5 เรื่องหลัก คือ 1.ยางพารา 2.ปาล์ม 3.การประมง 4.การท่องเที่ยว และ 5.ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
มีรายงานว่า สำหรับปัญหาเรื่องตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต ในบางเขต วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคปชป.ได้สรุปเรียบร้อย อาทิ เขตคลองสามวา กทม. ส่งนางฮูวัยฮีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช และน้องสาวนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ส่วน จ.สงขลา ที่ปัญหาระหว่างนายเจือ ราชสีห์ กับนายสรรเพชญ บุญญามณี ที่ประชุมมีมติเลือกนายสรรเพชญ ลง จ.สงขลา ขณะที่ จ.อุบลราชธานี พรรคส่งนายวุฒิพงษ์ นามบุตร ลงแทนนายศุภชัย ศรีหล้า
ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ทษช. พร้อมด้วยนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และคณะ ลงพื้นที่ตลาดสิริภิบาล จ.ระยอง โดยมีพ่อค้าแม่ค้าให้การต้อนรับและพูดคุยอย่างเป็นกันเอง และสะท้อนว่าค้าขายไม่ได้ จากเดิมที่ขายได้วันละเป็นหมื่น เหลือแค่ 3,000 บาทเท่านั้น จากนั้นคณะได้เดินทางไปสักการะศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และเดินทางไปรับฟังความคิดเห็นประชาชนชาวประมงและเกษตรกรชาวสวน บริเวณชายหาดปากน้ำกระแส โดยตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านได้สะท้อนปัญหาที่ได้รับความเดือดร้อนจากกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่รัฐบาล คสช.กำหนดขึ้น ขณะที่ผู้แทนชาวสวนผลไม้สะท้อนปัญหาราคาผลไม้ที่ตกต่ำ ซึ่งถูกกำหนดจากพ่อค้าคนกลางและไม่มีช่องทางการตลาด
นายจาตุรนต์กล่าวถึงกฎระเบียบจำนวนมาก 400-500 ฉบับ เป็นข้อจำกัดในการประกอบอาชีพของชาวประมง ไม่ว่าจะเป็นประมงเชิงพาณิชย์หรือประมงพื้นบ้าน เนื่องจากรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เสียเปรียบในการเจรจาต่อรองกับนานาชาติ รวมถึงปัญหาของเกษตรกรต่างๆ ที่จะแก้ไขได้ ต้องใช้รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น
ส่วนพรรคเพื่อชาติ โดยนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรค พร้อมคณะ เดินสายสัญจรภาคกลางเป็นวันสุดท้าย พร้อมเปิดสถาบันพัฒนาการเมือง มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ เป็นวิทยากรหลัก โดยเริ่มที่ จ.สุพรรณบุรีและนครปฐม โดยนายจตุพร กล่าวย้ำว่า ที่พรรคเพื่อชาติได้อธิบายถึงว่าเราเป็นพรรคเกาะกลาง คำว่าเกาะกลางนั้นเป็นเกาะกลางประชาธิปไตย ดังที่เห็นว่ารัฐธรรมนูญเป็นปัญหา จึงจำเป็นจะต้องพูดคุยกัน เพื่อที่จะตกลงเป็นสัญญาประชาคมร่วมกัน เพื่อหาทางออกให้กับชาติ ถ้าไม่มีการพูดคุย เราจะไม่ได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพในการแก้ไขปัญหาต่างๆ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |