ไต้หวันล่า 152 เวียดนามถือวีซ่าท่องเที่ยวแล้วล่องหน คาดลอบใช้แรงงานเถื่อน


เพิ่มเพื่อน    

ไต้หวันตามหาชาวเวียดนาม 152 คน ที่เข้าประเทศด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวแล้วหายสาบสูญ คาดเข้ามาเป็นแรงงานเถื่อน กระทบนักท่องเที่ยวเวียดนามโดนยกเลิกวีซ่าระนาว

แฟ้มภาพ AFP

    สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติไต้หวันแถลงเมื่อวันพุธที่ 26 ธันวาคม ว่า มีชาวเวียดนาม 153 คน ที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยว เดินทางมาถึงเมืองเกาสงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ขณะนี้สามารถติดตามนักท่องเที่ยวเวียดนามได้เพียงคนเดียว โดยได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจเพื่อติดตามชาวเวียดนาม 152 คนที่หายตัวไป และทำงานร่วมกับตำรวจเพื่อสอบสวนในเรื่องนี้ รวมถึงว่ามีกลุ่มใดที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่

    สื่อในไต้หวันคาดว่า ชาวเวียดนามเหล่านี้อาจเดินทางมาไต้หวันเพื่อเป็นแรงงานผิดกฎหมาย

    สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวันเผยว่า นักท่องเที่ยวเวียดนามที่หายตัวไป เมื่อพบตัวอาจต้องโดนเนรเทศและห้ามเข้าไต้หวัน 3-5 ปี

    การท่องเที่ยวไต้หวันเผยว่า ก่อนหน้านี้มีชาวเวียดนามที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยวราว 150 คน หายตัวไปเมื่อเดินทางถึงไต้หวัน และยังไม่แน่ชัดว่าเจ้าหน้าที่ตามตัวพบแล้วกี่ราย

    ด้านกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเผยกับเอเอฟพีว่า ขอร้องเจ้าหน้าที่ไต้หวันให้ทำคดีนี้ให้ชัดเจน และให้ทั้ง 2 ชาติประสานงานกัน เพื่อโครงการแลกเปลี่ยนและการท่องเที่ยวทวิภาคีจะไม่ได้รับผลกระทบ

    กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันเผยว่า มีคำสั่งยกเลิกวีซ่าของชาวเวียดนาม 152 คน ที่หายตัวไปแล้ว และสำนักงานตัวแทนไต้หวันในเวียดนามระงับวีซ่านักท่องเที่ยวของชาวเวียดนาม 182 คน ที่ยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวและได้รับการอนุมัติจากการท่องเที่ยวไต้หวันแล้ว

    วีซ่าท่องเที่ยวของไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายมุ่งใต้ของรัฐบาลเมื่อ 3 ปีก่อน มีเป้าหมายต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยว 16 ประเทศในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ให้เข้ามาท่องเที่ยวไต้หวันเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ลดลง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"