ปัญหาโลกร้อนที่ทำให้สภาพอากาศของโลกเรานั้นปั่นป่วนอยู่ตลอดในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการดำเนินชีวิตของมนุษย์บนโลกเราเอง จากการใช้งานธรรมชาติอย่างเกินขีดจำกัด การพัฒนาโลกให้ก้าวไปข้างหน้าก็มีผลกระทบที่จะทำร้ายโลกได้เช่นเดียวกัน 
    ทั้งนี้ คนในโลกเริ่มเข้าใจถึงปัญหาและจุดเริ่มต้นของปัญหามากขึ้น จึงทำให้เกิดกระแสการรักษ์โลก และมีการปฏิบัติที่จะทำให้สิ่งแวดล้อมและโลกดีขึ้น ซึ่งหน่วยงานต่างๆ  ทั่วโลกก็มีนโยบายที่จะทำให้ประเทศของตัวเองหรือหน่วยงานของตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโลกไปในทางที่ดี อย่างเช่นความร่วมมือล่าสุดของกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ที่จับมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ลดและเลิกใช้สารทำความเย็น HCFC-22 โดยได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพหุภาคีภายใต้พิธีสารมอนทรีออล ในการดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ ในการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีสารทำความเย็น HCFC-22 ไปเป็นสาร HCF-32 
    รวมถึงออกมาตรการทางกฎหมายในการผลิต การนำเข้า และจำหน่ายเครื่องปรับอากาศขนาดต่ำกว่า 50,000 บีทียูต่อชั่วโมง ที่ใช้สาร HCFC-22 เป็นสารทำความเย็น และเพื่อให้การดำเนินการโดยรวมของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีความจำเป็นต้องส่งเสริม สนับสนุน ให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการใช้สารทำความเย็น HCF-32 ในเครื่องปรับอากาศแก่บุคลากร ฝึกช่างเครื่องปรับอากาศ รวมทั้งสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้แก่หน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ช่างเครื่องปรับอากาศภายในประเทศ
    ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่าสารดังกล่าวเป็นสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนและบรรจุอยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในบ้านเรือน หากมีการรั่วไหลและลอยไปสู่ชั้นบรรยากาศ ก็จะเป็นปัจจัยที่จะทำให้โลกร้อนได้ เพราะหากชั้นโอโซนถูกทำลายก็จะส่งผลให้ความร้อนจากดวงอาทิตย์สามารถเจาะทะลุเข้ามายังโลกได้ รวมถึงสารดังกล่าวยังไปจับตัวกันเป็นฝ้าและสะท้อนอากาศในโลกไม่ให้สามารถออกไปข้างนอกได้อีกด้วย ซึ่งก็จะทำให้โลกมีสถานะไม่ต่างจากเตาอบ
    นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม  กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะมีการถ่ายทอดความรู้ให้หน่วยงานต่างๆ สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย ตามหลักวิชาการ ให้มีความรู้และทักษะฝีมือเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารทำความเย็น HFC-32 เพื่อให้ครูผู้สอนสามารถนำความรู้และทักษะไปถ่ายทอดให้แก่นักเรียน นักศึกษา และช่างติดตั้งและซ่อมบำรุงเครื่องปรับอากาศได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย 
    ซึ่งชุดเครื่องมือฯ ที่มอบจาก กรอ. จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพครู นักเรียน นักศึกษา ในสาขาวิชาช่างเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาต่อไป และจะนำไปติดตั้งในสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อนำไปใช้ในการจัดฝึกอบรมสาขาช่างเครื่องปรับอากาศในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ สุพรรณบุรี และชลบุรี 
    ขณะเดียวกัน กรอ.เองก็เดินหน้าในเรื่องนี้เต็มที่ในการออกมาตรการทางกฎหมายในการควบคุมการผลิต ซึ่งเป็นผลให้ปริมาณการใช้สาร HCFCs ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากปริมาณการนำเข้าน้ำยาในปี 2560 ที่มีการใช้อยู่ 1,200 ตัน เหลือเพียง 560 ตันในปี 2560 อีกทั้งการติดตั้งและซ่อมบำรุงที่เหมาะสม จะช่วยลดการปล่อยสาร HFC-32 ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ
    และตลอดปี 2561 กองบริหารจัดการวัตถุอันตราย กรอ.จัดฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีทดแทนสาร HCFCs สำหรับเครื่องปรับอากาศที่ใช้ตามบ้านเรือน ให้แก่บุคลากรในสังกัดกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และจัดสัมมนาเกี่ยวกับหลักปฏิบัติงานการติดตั้งการซ่อมและการบำรุงรักษาเครื่องกับอากาศที่ใช้สาร HFC-32 อย่างถูกต้องและปลอดภัยให้กับครูผู้สอนทั่วประเทศ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา อีกทั้งจัดหาเครื่องมือพื้นฐานสำหรับการติดตั้งและบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศที่ใช้สาร HCF-32 เป็นสารทำความเย็นตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ
    อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่จะเพิ่มคุณภาพการใช้ชีวิตที่ไม่ทำลายโลก และยังเป็นแนวทางปฏิบัติให้หน่วยงานอื่นๆ ทำตามเพื่อจะช่วยกันดูแลรักษาโลกให้อยู่ได้อีกยาวนาน.

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า