เซียนอยู่รู-หมูอยู่ตึก???


เพิ่มเพื่อน    

      ฮื่ออ์อ์อ์...ช่วงหลังๆ นี้ รู้สึกว่าพรรค เผาไทย เขาดูจะออกอาการไก่หงอย หงอยๆ เหงาๆ ยังไงพิกล...ว่ามั้ยทั่น!!! ทั้งที่กะจะแลนด์สไลด์ จะแอฝะลานช์ กันเป็นร้อยๆ สองร้อย สามร้อย แต่กลับไม่ได้คิดจะงัดอะไรออกมาใช้เป็น จุดขาย ไม่ได้มี เกิดปั๊บ-รับแสน หรือ กดปั๊บ-รับห้าร้อย แบบคู่แข่ง คู่ชิง เขาบ้างเลย...

                                                              -----------------------------------------

      เท่าที่ยังพอขายได้ หรือพอหลงเหลือเอาไว้ขาย...ก็น่าจะออกไปทาง ขายน้ำแข็ง จากโรงงานผลิตน้ำแข็ง ของสารวัตร เหลิม นินจา เขานั่นแหละ คือต้องหันไปไล่บี้ ไล่เช็ด ไล่ล่าเล่นงานฝ่ายตรงกันข้ามกันเป็นหลัก แต่ก็อย่างว่า...การขายในแนวนี้ มันออกจะเป็นอะไรที่เหนื่อยยาก ลำบาก มิใช่น้อย เรียกว่า...กว่าจะเสกสรรค์ ปั้นแต่ง น้ำแข็งในแต่ละก้อน ก็เล่นเอามือซีด มือเย็น ตีนเย็น แถมอาจไม่ถึงกับคุ้มค่า คุ้มราคา ซักเท่าไหร่ ด้วยเหตุเพราะคู่แข่ง คู่ชิง เขาต่างมีมือ มีตีน แถมไม่ได้คิดจะซุกมือ ซุกตีน ไว้ในหีบซะอีกต่างหาก พร้อมออกอาวุธโต้กันแบบชนิดดอกต่อดอก การขายประเภทมันเลยต้องอาศัยต้นทุน แถมอาจขาดทุนกำไรได้เสมอๆ...

                                                                   -------------------------------------------

      ต่างไปจาก เผาไทย เมื่อยุคก่อนๆ...ที่พร้อมจะนิรมิต สร้างสรรค์ สิ่งที่สามารถนำมาขายได้ระดับเป็นกุรุสๆ หรือสต๊อกไว้เป็นโกดังๆ เอาเลยก็ว่าได้ ประเภท 30 บาทรักษาทุกโรค หนึ่งหมู่บ้าน-หนึ่งกองทุน แปลงสินทรัพย์เป็นทุน แปลงทะเลเป็นทุน ไปจนถึงจำนำทุกเม็ดเอาไปเลยหมื่นห้า ฯลฯลฯลฯลฯ ที่แม้กระทั่งในยุค ผู้ปกครองเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ หรือยุคที่ผู้นำทั่นไม่ถึงกับรู้เรื่อง รู้ราว อะไรกับใครเขา แต่ก็ยังสามารถประดิษฐ์ คิดค้น เนรมิต สร้างสรรค์ สิ่งที่สามารถนำใช้เป็นจุดขาย ได้ต่างๆ นานา...

                                                                  ----------------------------------------------

      แต่มาถึงยุคนี้...แม้ว่าประธานยุทธศาสตร์จะยังคงเป็นหญิง แต่สิ่งที่จะงัดออกมาขาย มันคล้ายๆ จะหมดสต๊อกหรือยังไง เป็นไง ก็มิอาจรับรู้ได้ แถมตอนที่เริ่มต้นเปิดบูธ ก็ดันไปเปิดที่ร้านขนมจีน ยายเป้ากระเด้าหม้อ เค้าซะอีกต่างหาก เลยทำให้ตัวสินค้า ลักษณะของสินค้า การพรีเซนเตอร์ ตลอดไปจนการกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภค มันเลยออกไปทางมึนซ์ซ์ซ์ๆ เบลออ์อ์อ์ๆ ยังไงก็ไม่รู้ ทั้งที่โดยแนวทางการตลาดนั้น มันน่าจะเป็นอก-เป็นใจให้กับกรรมวิธีการลด-แลก-แจก-แถม ที่เคยใช้เป็นจุดขายเดิมๆ อย่างเป็นพิเศษ พูดง่ายๆ ว่า...ด้วยเหตุเพราะใครต่อใครต่าง กรอบเป็นข้าวเกรียบ กันเป็นหลักใหญ่ โดยเฉพาะระดับรากหญ้า รากฝอย ที่ออกจะหน้าดำ คร่ำเครียด กับสภาวะเศรษฐกิจมาโดยตลอด...

                                                                  -------------------------------------------------------

      แต่กลับกลายเป็นคู่แข่ง คู่ชิง ที่หันไปช่วงชิงโอกาสทางการตลาด งัดเอา กดปั๊บ-รับห้าร้อย ออกมาประชัน ขันแข่ง กับ เกิดปั๊บ-รับแสน โดยที่เผาไทย เผาชาติ หรือเผาอะไรต่อมิอะไรทั้งหลายที่สยายตัวกันเป็นเครือข่าย กลับดันมามั่วอยู่กับเรื่อง ประชาธิปไตย-เผด็จการ ที่กินก็ไม่ได้ ทาก็ไม่ได้ ไม่สามารถนำมาดม-อม-หยอด-สอด-เสียบใดๆ ได้เลยแม้แต่น้อย อันนี้นี่แหละมันเลยออกไปทางคล้ายๆ ไก่หงอย อยู่พอสมควร ซึ่งต้องถือว่าแปลก หรือออกจะผิดฝา ผิดตัว ไปจากบุคลิกเดิมๆ อย่างเห็นได้โดยชัดเจน...

                                                                 -------------------------------------------------------

      จะด้วยเหตุเพราะมันเกิดความไม่ลงล็อก ลงตัว ไม่เข้าล็อก ไม่เหลือเรี่ยวแรงปลดล็อก หรือไม่ อย่างไร ก็มิอาจคาดคะเนได้ แต่ถ้าหากยังเป็นอะไรที่ จืดสนิท-ติดทนนาน ต่อไปในรูปนี้ หรือยังเอาแต่ด่า เอาแต่ส่งน้ำแข็งแต่ละก้อนใส่รถซาเล้งออกไปขาย โอกาสที่จะกวาดเก้าอี้กันในระดับสองร้อย-สามร้อย ยึดตำแหน่งประธานรัฐสภาเอาไว้แต่แรก ก่อนไล่ต้อน ไล่บด ไล่บี้ นายกฯ บิ๊กตู่ ในสภาฯ ให้หมดสภาพ ให้ไม่เหลือเรี่ยว เหลือแรง พอที่จะยกโพเดียมทุ่มหัวใครต่อใครได้อีกเลย มันก็เลยออกจะเป็นอะไรที่ยากซ์ซ์ซ์ลำบากมิใช่น้อย ไม่ได้ง่ายๆ กล้วยๆ ไม่ได้ลื่นๆ ไหลๆ แบบที่ใครต่อใครคาดๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า...

                                                                 ---------------------------------------------------------

      ยิ่งเห็นว่า กดปั๊บ-รับห้าร้อย ของ บิ๊กตู่ นั้น...คว้าคะแนนนิยมไปแล้วถึงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าหากเป็น การมวย ก็ต้องเรียกว่า...ยกแรก ได้รับคะแนนเป็นเอกฉันท์ ระดับ 10 ต่อ 8 อะไรประมาณนั้น คือระดับ มีนับ หรือระดับที่กรรมการสามารถให้คะแนนแบบแพ้ขาด ชนะขาด ได้โดยชัดเจน ด้วยเหตุนี้...ถ้าหากยังหมกมุ่นอยู่กับการใช้กลยุทธ์เดิมๆ แบบประเภทด่าแล้ว ด่าอีก ตอดโน่น ตอดนี่ ไปเรื่อยๆ หรือเข็นน้ำแข็งออกมาขายก้อนแล้ว ก้อนเล่า เผลอๆ...อาจมีแต่ตาย...กับ...ตาย ลูกเดียวเท่านั้นเอง โอกาสที่จะแลนด์ สไลด์ แอฝะลานช์ อาจต้องกลายสภาพไปเป็น ธรณีสูบ ได้ทุกเมื่อ...

                                                                   -------------------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างยังเป็นไปในแนวนี้ สมิงเขียว ญาติห่างๆ ของ สมิงขาว คงหนีไม่พ้นต้องออกมาให้ราคาต่อรอง ระดับ ฝ่ายน้ำเงินเป็นต่อ 5-2, 4-1 เอาเลยก็ไม่แน่!!! เพราะในเมื่อ ฝ่ายแดง ชักเริ่มออกอาการ แดงเอย...โธ่เอ๋ยน้องแดงของพี่ หนักเข้าไปทุกที การ เลือกตั้งที่รัก ที่จะเริ่มต้นกันในปีนี้ ปีหน้า ใครจะไปรู้ได้ว่า...อาจเป็นไปในรูป เซียนอยู่รู-หมูอยู่ตึก หรือออกไปทางพลิกล็อก หักปากกาเซียน เอาง่ายๆ...

                                                                    ----------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก Churchill... Though your enemy seems a mouse, yet watch him like a lion.-แม้ศัตรูของท่านจะดูเหมือนหนู แต่จงเฝ้าดูเขาให้เหมือนกับดูราชสีห์...

                                                                     ---------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"