เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ว่า “เสมอกัน เที่ยงธรรม” บุตรชายนักการเมืองรุ่นใหญ่ “จองชัย เที่ยงธรรม” จะย้ายจากพรรคชาติไทยพัฒนาไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ตาม “กลุ่มนิวบลัด” อย่าง "สิริพงษ์ อังสกุลเกียรติ" อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ และตระกูลปริศนานันทกุล
ท่ามกลางกระแสข่าวลือในตอนนั้นว่า “จองชัย” ผู้เป็นพ่อรู้สึกไม่พอใจ หลัง “ประภัตร โพธสุธน” เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา จะส่ง “ยุทธนา โพธสุธน” หลานชาย ที่ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ลงมาสมัคร ส.ส.เขต 4 จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นแข่งเขตเดียวกับ “เสมอกัน”
แต่ที่สุด “เสมอกัน” ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ตัวเขาจะลงสมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี ในนามพรรคชาติไทยพัฒนาต่อไป แม้จะมีการชักชวนจาก “นิวบลัด” ก็ตาม
เมื่อ “เสมอกัน” ยืนยัน และสถานะของเขาหลังจากวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ยังเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา ทำให้ไม่มีใครคิดว่าจะมีการย้ายพรรคเกิดขึ้นอีก เนื่องจากล่วงเลยระยะเวลา 90 วัน อันเป็นคุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัคร ส.ส.แล้ว
ทว่าการที่ “ยุทธนา” ไปสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก็ทำให้ “จองชัย” รู้สึกไม่ไว้วางใจ เพราะไม่คิดว่า หลานชายของ “ประภัตร” จะไปลงสมัครในรูปแบบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือจะไปลงสมัคร ส.ส.ที่เชียงรายอย่างที่เป็นข่าว เพราะมีทะเบียนบ้านอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี
ในช่วงก่อนวันที่ 26 พฤศจิกายน ด้วยสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ “เนวิน ชิดชอบ” ตั้งแต่สมัยอยู่ “ชาติไทย” ด้วยกัน “จองชัย” จึงประสานไปยัง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อสมัครสมาชิกพรรคอย่างเงียบๆ เพื่อให้มีคุณสมบัติสามารถลงสมัคร ส.ส.ได้ หากสุดท้าย “ประภัตร” ส่งหลานชายจากพรรคพลังประชารัฐลงแข่งกับ “เสมอกัน” จริง
เพื่อเป็น “แผนสำรอง”!!!
และเป็นไปอย่างที่ “จองชัย” คิดเอาไว้ “ยุทธนา” ในสีเสื้อพรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการว่า จะลงสมัคร ส.ส.เขต จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นเขตเดียวกับ “เสมอกัน”
เรื่องดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับ “จองชัย” เป็นอย่างมาก เพราะรู้สึกว่าลูกชายคนโตอย่าง “เสมอกัน” ที่ยังอยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนาถูกรังแกจาก “ประภัตร” ที่วันนี้มีอำนาจแทบจะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดภายในพรรค หลังสิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ไป
“จองชัย” รู้ว่า นี่เป็นการตัดสินใจของ “ประภัตร” จึงตัดสินใจใช้ยุทธวิธี “หนามยอกเอาหนามบ่ง” ในเมื่อส่งหลานชายลงมาแข่งกับลูกชายของเขาในเขต 4 (อ.ด่านช้าง อ.เดิมบางนางบวช อ.หนองหญ้าไซ และ อ.ดอนเจดีย์) ตัวเองก็จะกลับมาลงสมัคร ส.ส.เขตในรอบหลายปีที่เขต 3 ของ “ประภัตร” เช่นเดียวกัน
ทำให้สนามเลือกตั้ง จ.สุพรรณบุรี กลับมาคุกรุ่นอีกครั้ง
จากเดิมที่ซาๆ ลงไปแล้ว หลัง “ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ” ยอมย้ายจากพรรคเพื่อไทยกลับมาพรรคชาติไทยพัฒนาตามคำงอนง้อของแกนนำในพรรค
แล้วเป็นศึกใหญ่ระดับ “ช้างชนช้าง” เสียด้วย เพราะ “จองชัย” และ “ประภัตร” ต่างเป็นนักการเมืองรุ่นใหญ่และเก่าแก่อย่างมากในพรรคชาติไทยพัฒนา อยู่กับมา “บรรหาร” มาหลายปี
เพิ่งจะมีในการเลือกตั้งปี 2554 ซึ่งชื่อของ “จองชัย” ค่อยๆ เงียบหายไป หลังเขตของเขาที่ส่ง “มุกดา เที่ยงธรรม” ภรรยาลงสมัคร ถูกคู่แข่งที่ผูกปีแพ้อย่าง “สหรัฐ กุลศรี” จากพรรคเพื่อไทยพลิกมาชนะได้
โดยเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ จ.สุพรรณบุรีถูกเจาะจากพรรคอื่น ซึ่งขณะนั้นมีกระแสข่าวว่า “บรรหาร” ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ขณะที่การเลือกตั้งครั้งนี้ “จองชัย” ส่ง “เสมอกัน” ลงสมัคร ส.ส.หวังจะทวงพื้นที่คืนให้กับพรรคชาติไทยพัฒนาแบบเหมาจังหวัด แต่การที่ “ประภัตร” ส่ง “ยุทธนา” มาตัดแต้มกันเอง ยิ่งอาจเปิดช่องว่างให้คู่แข่งจากพรรคอื่นมาหยิบ “ชิ้นปลามัน” ไปได้
เพราะต้องยอมรับว่า เขตนี้คะแนนของ “ตระกูลเที่ยงธรรม” ไม่ได้ทิ้งห่างคู่ต่อสู้มากนัก
ขณะเดียวกัน มีอีกกระแสระบุว่า เหตุที่ “ประภัตร” ตัดสินใจส่งหลานชายจากพรรคพลังประชารัฐมาแข่งกับพรรคตัวเอง เพราะคิดว่าเป็นเขตที่สุ่มเสี่ยงที่สุดที่จะถูกเจาะจากทั้งหมด 4 เขตใน จ.สุพรรณบุรี อย่างน้อยการส่ง “ยุทธนา” ลงมา หากพลาดพลั้งก็ยังมีคนของตัวเองจากอีกพรรคอยู่
ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องเคลียร์กันหนัก เพราะลำพังแผลเดิมของ “ประภัตร” และ “จองชัย” เองก็ว่ากันว่าไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาเจอเรื่องนี้ไม่ต่างจากการ
“หักกัน”!!!
ขณะนี้ทำได้เพียงให้แกนนำคนอื่นๆ ในพรรคหาทางออก สมานบาดแผล เพราะยังมีเวลาจนถึงวันเปิดรับสมัคร ส.ส. ที่จะทำให้ใครคนใดคนหนึ่งเปลี่ยนใจไม่ส่งคนของตัวเองไปลงแข่งกับพรรค
แต่ดูแล้วน้ำหนักในพรรคของ “ประภัตร” ตอนนี้เหลื่อมกว่าเยอะ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |