ลดแลกแจกดะไม่ได้แล้ว 'ซานต้าตู่'ต้องทำตามกม.


เพิ่มเพื่อน    

    “ประยุทธ์” เช้าฉุนสื่อเสนอข่าวแม่ค้าขายของไม่ได้ บ่ายร่ายยาวไม่ได้รังเกียจ แค่ขอเสนอด้านดีด้วย ยันไม่ใช่คนไม่รับฟังใคร ตัดพ้อตอนนี้จะขอ "ซานต้าตู่" ไม่ได้แล้ว เพราะต้องทำตาม กม. พร้อมสั่งล้างภาพ กอ.รมน.เป็นยักษ์เขียวเครื่องมือกองทัพ ให้เพิ่มสัดส่วนพลเรือน-ตำรวจ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ
    เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในการเสนอข่าวเรื่องเศรษฐกิจไม่ควรนำเสนอข่าวเหมารวมทั้งหมดว่าเดือดร้อน ควรไปดูปลีกย่อยว่าเป็นเพราะพื้นที่หรือไม่ บางพื้นที่มีการพัฒนาตัวเองแล้วหรือยัง ความสะอาด ความเรียบร้อย สินค้าน่าอุปโภคบริโภคหรือไม่ เหล่านี้คือสิ่งที่ต้องพิจารณาโดยรวมคือ Big data ต้องไปหาข้อมูลเหล่านี้ เพราะคำนี้เป็นเรื่องของเกษตรกร เศรษฐกิจ เป็นนโยบายการเมืองเป็นส่วนใหญ่ อันตรายมากในการใช้ประโยชน์จากตรงนี้ 
    "อยากขอร้อง สิ่งใดที่ดีขึ้นขอให้ช่วยกัน เพราะท่านต้องเสนอข่าวสองทางอยู่แล้ว ทางที่ดีก็เสนอด้วย อะไรไม่ดีก็เสนอมา ผมรับฟังได้ แต่ท่านเสนอไม่ดีอย่างเดียว ก็มีผลกระทบไปอย่างอื่น แล้วจะดีขึ้นได้อย่างไร ถ้าความเชื่อมั่นประชาชนของเราเองไม่ดี ส่วนที่ดีเขาก็ไม่ได้พูดออกมา อย่ามองทุกอย่างเป็นการเมืองไปหมด มันก็จะไปเข้าทางคนที่บิดเบือนอยู่ พอเสร็จแล้วก็ทำไม่ได้เหมือนเดิม" นายกฯ กล่าว
    นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ดูเศรษฐกิจโลกมหาอำนาจก็มีปัญหามากมายกันพอสมควร มีผลกระทบกันทั้งสิ้น เรื่องการค้าขายเราก็ดูแลผู้มีรายได้น้อย แต่ก็ต้องปรับปรุงพัฒนาตัวเอง บางพื้นที่ขายของไม่ดีต้องไปดูการพัฒนาตลาดให้มีความสะดวกปลอดภัย เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ ก็พยายามสอบถาม ก็บอกว่าขายได้ตามปกติ บางวันก็ขายได้น้อยลง แต่ยังขายได้อยู่ ไม่ใช่แย่จนขายของไม่ได้เลย ตราบใดที่ผู้บริโภคยังกินยังอยู่ เขาก็ต้องซื้อของ แต่เขาเลือกซื้อในส่วนที่สะอาด ปลอดภัย ก็ต้องปรับปรุงตัวเองด้วย เราต้องมองในเชิงบูรณาการ รัฐบาลทำอย่างเต็มที่ทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การทำอะไรก็ตามอย่าคิดเองเออเอง วันนี้จำเป็นต้องมีข้อมูลที่เพียงพอ อย่าไปเอียงข้างอะไรมากนัก อะไรไม่ดีรัฐบาลก็แก้ไข ไม่ใช่ไม่ฟังใครเลย ตั้งแต่เป็นนายกฯ มาฟังทุกคน จะบอกว่าตนไม่ตัดสินใจ ตนตัดสินใจมากกว่าคนอื่น มากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา อะไรที่ตัดสินใจแล้วส่งผลกระทบมากก็ต้องชะลอ ไปปรึกษาหารือกันใหม่ ถ้าทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่ทำ เท่านั้นเอง ส่วนที่บอกว่าทำเพื่อคนนั้นคนนี้ ความจริงแล้วตนไม่จำเป็นต้องทำเพื่อใคร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพราะตนต้องการให้ประเทศมีรายได้ที่สุด การที่จะทำให้รายได้ประเทศสูงขึ้น ก็ต้องมาจากหลายระดับ การค้า การลงทุน อยากให้สื่อมองตรงนี้ด้วย วันนี้การเสนอข่าวปัจจุบันต้องระมัดระวังที่สุด โลกกำลังอ่อนไหวจากมาตรการค้า การลงทุน เศรษฐกิจระหว่างประเทศมหาอำนาจต่างๆ ถ้าเราเสนอข่าวในทางที่เสียหาย ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างพังเร็วมากขึ้น ทั้งนี้ ขอให้สื่อมีความก้าวหน้า ประสบความสำเร็จในทางธุรกิจ ตนไม่ได้รังเกียจ แต่ขอร้องแค่นั้นเอง
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอบคุณ ครม.กับการทำงานช่วงที่ผ่านมา เราฟันฝ่าอุปสรรคมาหลายอย่าง ทั้งคำติฉินนินทา ความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ความไม่เข้าใจ ทุกคนกดดันมาก เพราะมุ่งหวังทำให้ดีที่สุด เราไปรังเกียจรังงอนข้าราชการไม่ได้ เพราะข้าราชการเป็นผู้ปฏิบัติ เราเปิดโอกาสให้ทุกหน่วยราชการเสนอแผนงานเข้ามา ไม่ได้ตีกรอบอะไร รัฐบาลเพียงแต่กำหนดนโยบายว่าเป็นอย่างไร แล้วมาดูเชื่อมโยงกันหรือเปล่า ตนให้แนวทางไปแค่นี้ ไม่ได้ไปชี้อะไร เพียงแต่มีคณะกรรมการกลั่นกรองออกมา ทั้งสภาพัฒน์ สำนักงบประมาณ ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าง่ายไม่ใช่การบริหารราชการแผ่นดิน เพราะฉะนั้นนโยบายคือนโยบาย การปฏิบัติก็คือการปฏิบัติ
    นายกฯ กล่าวว่า โดยมีส่วนราชการนำนโยบายไปแปลงเป็นการปฏิบัติ มีคณะกรรมการชุดต่างๆพิจารณา มีการประเมินรายจ่าย รายรับ รัฐบาลหน้าสามารถปรับเปลี่ยนแผนงานได้ แต่ต้องสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท ซึ่งมีคณะกรรมการติดตามประเมินตลอด เพราะฉะนั้นมันไม่ง่ายนักหรอก เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลเสนอขึ้นมา ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องรักษาตรงนี้ไว้ เพื่อให้รัฐบาลหน้าดำเนินการต่อไป ตรงนี้เป็นการรักษาผลประโยชน์ให้ประชาชนคนไทยทุกคนและนักลงทุนในประเทศไทย
    "ปีใหม่นี้ขอให้ทุกคน นักข่าว สื่อทุกสำนักพิมพ์ มีความสุข ความเจริญ ก้าวหน้า ประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจ และทุกสิ่งที่พึงปรารถนาทุกประการ มีความปลอดภัยในการเดินทาง การทำงาน ประกอบอาชีพ ก็ขอให้ประสบความสำเร็จ เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณธรรมที่จะร่วมกันพัฒนาประเทศชาติไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ผมไม่ได้รังเกียจใคร แต่ขอร้องกันเท่านั้น และวันคริสต์มาสก็อวยพรใน ครม.ไปแล้วว่า Merry Christmas best wishes for you เดี๋ยวปีใหม่ก็ไปขอพรกันอีกที ก็เป็นธรรมเนียมของคนไทย ทุกประเทศก็จะมีขอพรกัน เป็นเด็กๆ ก็ขอซานต้า พอโตมา ขอซานต้าไม่ได้แล้ว ขอซานต้าตู่ก็ไม่ได้ เพราะซานต้าตู่ต้องทำภายใต้กฎหมาย”
    วันเดียวกัน ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นตัวแทน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ รอง ผอ.รมน. ในพิธีอำนวยพรและมอบของขวัญปีใหม่ประจำปี 2561 และได้อ่านสารจาก พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ ผอ.รมน.ว่า กอ.รมน.เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการและประสานงานด้านความมั่นคง การจัดทำแผนแม่บท รองรับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาลไปสู่แนวทางการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมา บุคลากรของ กอ.รมน.มุ่งมั่นบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วน ความตั้งใจและเสียสละ เพื่อให้งานด้านความมั่นคงบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย
    พล.อ.ณัฐพลกล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีมีความคาดหวังมากกับบทบาทของ กอ.รมน. จะต้องปรับให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมีผลทางด้านความมั่นคงในราชอาณาจักรนั้น ในปัจจุบันคณะทำงานยุทธศาสตร์ชาติได้มอบหมายให้ กอ.รมน. เป็นส่วนที่ขับเคลื่อนหลักตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. ซึ่งท่านได้พูดในทุกเวที ไม่ว่าจะเป็นการแถลงผลงานในปี 62 โดยได้มีการเน้นย้ำในเรื่องนี้ ตนจึงนำเจตนารมณ์ของท่านนายกรัฐมนตรีมามอบ และย้ำให้กับทุกท่านที่เป็นข้าราชการใน กอ.รมน. ช่วยกันขับเคลื่อนให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของท่านนายกรัฐมนตรีให้ได้ ทั้งนี้ กอ.รมน.ได้รับมอบหมายให้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติในส่วนที่เกี่ยวข้อง และรอง ผอ.รมน. ได้หารือร่วมกับตน และเห็นว่าแนวทางขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ปัจจัยหลักคือคนต้องมีความพร้อม รองรับภารกิจที่สำคัญยิ่งในอนาคต
    "นายกรัฐมนตรีฝากมาว่าอยากให้ กอ.รมน.เป็นภาพของพลเรือน ตำรวจ ทหาร ไม่ใช่มีแต่ทหารอย่างเดียว ถ้ามีแต่ทหารอย่างเดียว จะถูกมองว่า กอ.รมน. เป็นเครื่องมือของกองทัพ เพราะฉะนั้นต้องมีการปรับให้มีทั้งตำรวจและพลเรือนมากขึ้น ซึ่งเข้าใจว่าจะไม่มากขึ้นในทันท่วงที ซึ่งเราก็ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงระดับผู้บริหารด้วย โดยเฉพาะในศูนย์การประสานการปฏิบัติ (ศปป.) ควรจะมีทหารและพลเรือนอัตรา 2:1:1 เพื่อจะให้มองเป็นภาพของพลเรือน, ตำรวจ และทหาร แต่ทหารยังคงเป็นหลัก นี่คือสิ่งที่เราจะต้องขับเคลื่อนต่อไป นายกฯ ยังขอให้มีการปรับโครงสร้างพลเรือนและตำรวจมากขึ้น โดยเฉพาะในศูนย์ประสานการปฏิบัติ (ศปป.) ในอัตรา 2:1:1 แต่ทหารยังคงเป็นหลัก โดย กอ.รมน.ต้องเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน" .


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"