มาถึงแล้วกับเทศกาลปีใหม่ 2562 เป็นธรรมเนียมที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหนีไม่พ้นกรมขนส่งทางบก ที่ได้จัดกิจกรรมทุกปี ปีนี้ได้กำหนดมาตรการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ตามมาตรการ 777 โดยให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมบูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน
เบื้องต้นได้แบ่งช่วงดำเนินการเป็น 3 ช่วง คือ ช่วง 7 วันก่อนเทศกาลปีใหม่ 7 วันระหว่างเทศกาลปีใหม่ และช่วง 7 วันหลังเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ ช่วง 7 วันก่อนเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 20-26 ธันวาคม 2561 กรมการขนส่งทางบกได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.), บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.), ทหาร, ตำรวจ, หน่วยงานของจังหวัดและท้องถิ่น ตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถก่อนออกเดินทางที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดจำนวน 196 แห่งทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม จากผลดำเนินการ 5 วัน วันที่ 20-24 ธันวาคม 2561 ตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ จำนวนทั้งสิ้น 72,197 คัน แบ่งเป็นรถหมวด 2 กรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดทุกเส้นทาง จำนวน 33,588 คัน และรถหมวด 3 เส้นทางระหว่างจังหวัด จำนวน 38,609 คัน พบว่ารถโดยสารสาธารณะที่นำมาให้บริการยังต้องมีการปรับปรุงอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัย สั่งให้เปลี่ยนนำรถคันใหม่มาให้บริการทดแทนจำนวน 7 คัน และพ่นห้ามใช้รถทันที 1 คัน เนื่องจาก GPS ใช้งานไม่ได้
ขณะที่การตรวจความพร้อมพนักงานขับรถ จำนวน 72,197 ราย พบว่าทุกรายปฏิบัติตามระเบียบและข้อกำหนดเกี่ยวกับความปลอดภัยในการให้บริการ มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกรมการขนส่งทางบกได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์มาอย่างต่อเนื่องให้ผู้ประกอบการขนส่ง พนักงานขับรถ และผู้รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยในการขนส่งทางถนนตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบ และเพื่อให้เกิดจิตสำนึกในการให้บริการอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดตลอดการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 กรมการขนส่งทางบกยกระดับความเข้มข้นในการตรวจความพร้อมรถโดยสารทุกคัน ทั้งรถประจำทางและรถที่นำมาเสริมในเส้นทาง พนักงานขับรถทุกคน โดยจะบังคับกฎหมายสูงสุดในทุกกรณีความผิด หากพบรถโดยสารไม่ปลอดภัย ไม่พร้อมใช้งานพ่นข้อความ “ห้ามใช้” และต้องนำรถเข้าตรวจสภาพหลังดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังได้ประสานสมาคมและผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถเช่าเหมาให้เตรียมพร้อมนำรถเช่าเหมาเข้ามาเสริมหมุนเวียนทันที เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้เดินทางกลับภูมิลำเนา ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ทั้งนี้ รถเช่าเหมาทุกคันที่นำมาเสริมในเส้นทางต้องผ่านการตรวจสภาพ ดำเนินการชำระภาษีประจำปี มีหลักฐานการจัดทำประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถและประกันเพิ่มเติมเพื่อพิทักษ์สิทธิผู้โดยสาร ระหว่างการให้บริการต้องติดหนังสืออนุญาตที่ออกให้โดยกรมการขนส่งทางบกไว้ที่กระจกหน้ารถ และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการเดินรถอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ เริ่มต้นออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสาร ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับอัตราค่าโดยสารและจำนวนที่นั่งผู้โดยสาร ด้านพนักงานขับรถต้องไร้สารเสพติด แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ และขับรถไม่เกินชั่วโมงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนด ใช้ความระมัดระวังในการขับรถผ่านเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยงที่อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เช่น บริเวณทางแยกทางโค้งทางลาดชันขึ้น-ลงเขา และศึกษาสภาพเส้นทางก่อนเดินทางด้วย
กรณีพบพนักงานขับรถมีสภาพไม่พร้อม หรือพบการกระทำความผิดดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด ทั้งปรับ พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และ “ห้ามปฏิบัติหน้าที่” โดยผู้ประกอบการต้องเปลี่ยนรถคันใหม่และพนักงานขับรถที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่แทนทันทีเพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง และเข้มงวดตรวจสอบให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยครบถ้วนทุกคนก่อนออกเดินทาง และติดตามพฤติกรรมการขับรถและการใช้ความเร็วผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS
ในการเดินทางของประชาชน ประชาชนสามารถมีส่วนร่วม หากพบเจอสิ่งปกติ หรืออุบัติเหตุก็สามารถแจ้งได้ ในส่วนของหน่วยงานภาครัฐพร้อมให้บริการสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการสอบถามข้อมูลการเดินทาง รับเรื่องร้องเรียนกรณีถูกเอาเปรียบจากการให้บริการรถโดยสารสาธารณะ.
กัลยา ยืนยง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |