อืมมมม.....
    "มนุษย์ประเภทนี้ ทำไมจึงมาเกิดในประเทศไทย?"
    เป็นความคิดที่เกิดขึ้น.....
    ตอบสนองคำแถลงหญิงชื่อโบว์ เมื่อเช้าวาน (๒๔ ธ.ค.๖๑) ซึ่งเธอบอก ว่า....
    "ที่ตัดสินใจฟ้องใช้เวลาเพียง ๑ นาที เพราะเราปรึกษากันและได้รับข้อมูลมาจากหน่วยงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ใหญ่ที่สุดในโลกว่า 
    ถ้าเราฟ้อง ......
    เขาจะเอาไปทำเรื่องสิทธิมนุษยชนของการละเมิดสิทธิเรื่องหนึ่งของโลก แม้จะรู้ว่าจะจับใครมาดำเนินคดีไม่ได้ก็ตาม"
    ก็ขอให้จำเริญ..จำเริญ เถอะแม่คุณ!
    ถึงตอนนี้ สิ้นข้อสงสัยแล้ว ในความเป็นหญิงอย่างเธอ!
    เมื่อเธอยินดีจะให้ "หน่วยงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ตามที่ว่านั่น
    นำภาพ "ประชาธิปไตยคาเตียง" ระหว่างเธอกับนายวัฒนา เมืองสุข แห่งพรรคเพื่อไทย 
    ไป "เผยแพร่ทั่วโลก"
    ประกอบการรณรงค์เรื่องละเมิดสิทธิฯ ของหน่วยงานนั้น ก็คงไม่มีใครไปว่าอะไรเธอได้
    และดูเหมือน นายวัฒนา "คู่สร้าง-คู่สม" ก็มีความภูมิใจในเรื่องประชาธิปไตยคาเตียงนั้นอยู่ 
    ถึงขั้นนำข้อความไลน์กับ "เฟ" วีรดา เมืองสุข "ลูกสาว" ของเขา มาโพสต์ fb 
    "พ่อๆ สู้นะคะ สู้กันมาถึงขนาดนี้แล้ว เอาให้ถึงที่สุดเลยค่ะ ไม่ต้องห่วงหนู หรือ anyone นะคะ ฟ้องมันให้หมดเลย"
    และนายวัฒนาก็ไลน์ตอบ
    "ขอบคุณครับลูก ขอโทษที่ทำให้ลูกไม่สบายใจ พ่อรักลูกเสมอ"
    "ทัศนคติ-สำนึก" สังคมไทยยุคมฤตยูทับดวงเมือง สร้างรูปแบบมนุษย์เป็นอย่างนี้ 
    และแบบนี้กระมัง ที่คนรุ่นใหม่กระหายหา และเรียกมันว่า
    ยุค "ไร้พรมแดน"?
    ทำอะไรก็ได้ ช่างมัน...ฉันไม่แคร์ ขอแค่มัน "สนองตอบ-สนองอยาก" ฉันได้เท่านั้น!
    นี่เป็นรูปธรรมของคำว่า "สิทธิมนุษยชน-สิทธิเสรีภาพ" ที่หน่วยงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนใหญ่ที่สุดในโลก ตามที่โบว์อ้างถึง รณรงค์
    บอกก่อนนะ.....
    เรื่องที่โบว์และไก่ว่าจะฟ้องนั้น ในความเห็นผม ขอให้จริงทีเถอะ
    เพราะอยากรู้ ว่าจะฟ้องใคร ประเด็นไหน?
    และคนเกือบทั้งประเทศ ก็ "อยากให้ฟ้อง" เช่นกัน คือ อยากรู้ว่า เตียงประชาธิปไตยนั้น ที่ไหน?
    ใครกันนะ ถ่ายทำ?
    และใคร เป็นผู้นำเผยแพร่?
    ที่สำคัญ ฟังตามที่เธอปลื้มปริ่มอิ่มสุขแถลง ว่ามีคนแอบถ่ายเก็บไว้หลายเดือนแล้ว 
    ยิ่งอยากให้เธอฟ้อง .....
    เพื่อเอามาพิสูจน์กันให้หมด โดยเฉพาะกับหน่วย IO ของทางการทหาร ที่เธอกล่าวหาแต่แรกว่า เป็นตัวการถ่ายทำ หวังทำลายฝ่ายประชาธิปไตยของเธอ นั้น
    โบว์ต้องฟ้องเป็นรายแรก
    ถ้าไม่ฟ้อง ระวัง...โบว์เองจะเป็นฝ่าย "ถูกเขาฟ้อง"
    เพราะเธอร้อยสำรากคาวปากกระเซ็นเปื้อนสถาบันกองทัพไว้คละคลุ้ง เขาอาจต้องชำระล้าง
    เอาละ ประเด็นฟ้องเขา หรือตัวเองจะถูกฟ้อง เป็นเรื่องแต่ละฝ่ายที่รู้สึกว่าตัวเองเสียหาย จะไปว่ากันเอง
    แต่ประเด็นที่ผมต้องนำมาว่ากล่าวตรงนี้ อยู่ตรงทัศนคติของหญิงชื่อโบว์ ที่มีต่อภาพลักษณ์ "ประเทศไทย"
    เธอใช้ "คาวสวาท" ของเธอกับคนเพื่อไทย ป้ายกองทัพให้เปื้อนไปทีหนึ่งแล้ว
    และเธอก็วางแผนกับหน่วยงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนใหญ่ที่สุดในโลก
    ใช้เวลา ๑ นาที ตัดสินใจ
    จะป้ายเมือกคาวใส่ประเทศ ประจานชาวโลกต่อ! 
    โดยจะฟ้อง (ใครก็ยังไม่ทราบ) เป็นเชื้อ เพื่อให้หน่วยงานที่ว่านั้น นำเรื่องไปขยายผล 
    ในด้านว่า.....
     ประเทศไทยละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมีเรื่องสมสู่ระหว่างเธอกับนายวัฒนา เป็นหนังตัวอย่างอ้างอิง
    "เธอ" กับนาย "วัฒนา" ไม่มีอะไรให้เสียอีกแล้ว
    ในความที่ไม่มีอะไรให้เสียนั้น .....
    เขาทั้งสอง ต้องการ "ประจาน" ให้ประเทศไทย "เสีย" ในด้าน คุกคามสิทธิฯ
    คือเขาสมสู่กัน ......
    เผด็จการก็ไปเป็นมารความสุขประชาธิปไตยคาเตียงเขา ไปแอบถ่ายคลิปเขา ประมาณนั้น 
    จนโบว์ คนอยากเลือกตั้ง ขัดเคืองใจ ต้องโพสต์ประณามแต่ต้น
    "เผด็จการจงพินาศ-ประชาธิปไตยจงเจริญ"!
    และ หน่วย IO คือหน่วยปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารที่ทหารใช้ในการสงคราม
    นั่นคือ "จำเลย"
    หรือมาร "ความรักที่ดีที่สุด" ของไก่ "เพื่อไทย" กับโบว์ "อยากเลือกตั้ง"
    นี้จึงเป็นเป้าหมาย ที่้หน่วยงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก กับโบว์ ฉวยโอกาส
    กะใช้ฉากนั้น "ถล่มประเทศ"!
    ความละอายในยางหญิงไม่มีความหมาย ทำอย่างไรก็ได้ ขอเพียงสร้างความวิบัติฉิบหายให้ภาพลักษณ์ประเทศ
    นั่นคือ "เป้าหมายสูงสุด" ของฝ่ายประชาธิปไตยระบอบทักษิณ!
    พินิจคิดใคร่แล้ว .....
    กับมนุษย์ที่ยอมทำทุกอย่าง แม้กระทั่งทำลายขายชาติบ้านเมือง แลกกับผลประโยชน์ส่วนตน
    ถ้ารัฐบาล..ไม่ว่ารัฐบาลไหน "ไม่เด็ดขาด" เห็นแก่หน้า เห็นแก่พวกพ้อง เห็นแก่บุญคุณ ในการใช้กฎหมาย
    สังคมประเทศจะเดินไปได้ยาก 
    มนุษย์สายพันธุ์ "ไร้สำนึก-ไร้ยางอาย" จะเป็นทั้งตัวฉุดรั้ง เป็นทั้งตัวบ่อนทำลาย 
    ทั้งระบบกฎหมาย ทั้งการพัฒนา ทั้งหน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ก็จะเสื่อมโทรม
    เพราะ "ความชั่วหัดง่าย" ใครๆ ก็จะพากันหันไปคล้อยตามตัวอย่างทรามนั้น
    ผมอยู่มาก็ใกล้ศตวรรษแล้ว แต่ไม่เคยพบ-ไม่เคยเห็น มนุษย์ไหน ครั้่งไหน เหมือนครั้งนี้
    แทนที่จะละอาย แสดงความเอื้อเฟื้อต่อสังคมบ้าง 
    ตรงกันข้าม.....
     กลับแสดงว่า รู้สึกภาคภูมิใจ เด่น-ดัง มีหน้ามีตา ในบทบาทประชาธิปไตยคาเตียง 
    แล้วโพสต์ fb สร้างประเด็นเป็นกระแส ยืดอก ลอยหน้า ยิ้มแย้ม 
    แถไถลกลายเป็นวีรกรรมของวีรุบุรษ-วีรสตรีฝ่ายประชาธิไตย ว่านั่นเป็นวิถีสู้ฝ่ายเผด็จการ!
    ดูๆ ไป สังคมคนรุ่นใหม่ปัจจุบัน เหตุการณ์หลายอย่างหน่อแนวโน้มเอียงไปทางมนุษย์วัตถุ 
    ทั้งเรื่องเพศ เรื่องประหัตประหารกัน เพราะมีแต่ความรู้สึกตอบสนอง ไม่มีสติและความรับผิดชอบชั่วดีในสำนึก
    เรามุ่งแต่พัฒนาด้านวัตถุ
    ก็คงต้องกลับมาคิดกัน ด้านพัฒนาจิตใจด้วยศีลและธรรม ให้เป็นอัตราส่วนการพัฒนาที่สมดุลระหว่าง "วัตถุกับจิตใจ" บ้างแล้ว
    ลองพลิกดูคำทำนายเก่าๆ เห็นว่า ยุคนี้ มาถึงยุคตอนท้ายๆ คำทายแล้ว ท่านว่าน่าฟัง จะยกมาให้ดู
    ..............................
    ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม
หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป 
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น 
แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา
ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ.    
    อืมมมม......
    "คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา"
    ตามนัยนี้ ก็หมายความว่า ......
    เมื่อถึงตอนแผ่นดินเปลี่ยนยุค คือตอนนี้่ มันก็ยังมีคนชั่ว คนหนังหนา-หน้าด้าน อยู่
    มี...เพื่อ.....
    "คนชั่วจะได้ถูกปราบราบคาบสิ้น" ประมาณนั้น
    แล้วแผ่นดินที่เคยเดือด เมื่อคนชั่วถูกปราบราบคาบ
    "ประเทศชาติ ก็จะผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ฟ้าสีทอง ก็จะผ่องอำไพ"
    ก็หวังว่า คนมาเป็นผู้นำรัฐบาลคนต่อไป น่าจะบริหารด้วยแนวคิด 
    "ความรู้ดี-การศึกษาดี" ไม่สู้บริหารให้ประชาชน "เป็นคนดี"
    "คนดี" รักษาชาติบ้านเมืองได้ ยิ่งมีความรู้ดี-การศึกษาดีประกอบ ยิ่งพาชาติเจริญ
    ตรงกันข้าม "ความรู้ดี-การศึกษาดี" แต่เป็นคนไม่ดี มีทัศนคติทราม นอกจากรักษาชาติบ้านเมืองไม่ได้แล้ว
    มันยังจะทำลาย-ขายชาติด้วย!