ลั่นฟ้องคลิป-เจ้าของรร. 'โบว์'พิงองค์กรสิทธิโลก


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กป้อม" ปัด คสช.ไม่เกี่ยวคลิปฉาว ชี้เรื่องส่วนตัว "วัฒนา" ลั่นโดนเผด็จการจ้องทำลายพร้อมกับ พท. ยันฟ้องมือปล่อยคลิป-เจ้าของโรงแรมแน่ สาวถึงผู้สั่งการ "โบว์" เผยองค์กรสิทธิระดับโลกยุฟ้องเป็นคดีตัวอย่าง
    เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีการพาดพิงถึงกองทัพและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่มีความสัมพันธ์กันระหว่างนักการเมืองและนักเคลื่อนไหวสาวว่า เป็นเรื่องของกองทัพที่จะต้องตอบเรื่องนี้ แต่คิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกองทัพ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ใครทำก็ไม่รู้ ส่วนที่จะมีการฟ้องร้องทหารนั้นก็ฟ้องไป
    เมื่อถามว่า กองทัพจะฟ้องกลับหรือไม่ หากเป็นการพาดพิงทำให้เกิดความเสียหาย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ใช่กองทัพ ซึ่งกองทัพต้องออกมาดูแลปกป้อง ก็ต้องดำเนินการเอง ส่วนเรื่องนี้จะมีขบวนการอยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น ไม่ทราบ ไม่รู้เรื่องจริงๆ
    ด้านนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตน ทุกคนคงเห็นแล้วว่ามาจากการเมือง หลักฐานคือการใช้โลโก้ของพรรคเพื่อไทยแปะไว้ที่คลิปทุกคลิป เจตนาของคนทำคือต้องการทำลายตนและพรรคเพื่อไทยที่มีจุดยืนอยู่ตรงข้ามกับเผด็จการ ส่วนคนทำเป็นใคร ลองอ่านความเห็นตามโพสต์ของนายพานทองแท้ ชินวัตร ที่แปะลิงก์ไว้ท้ายโพสต์นี้
    "เผด็จการคงคิดว่าเรื่องสกปรกที่ทำขึ้นคงทำให้ผมถอย หรือคงจะทำลายผมและพรรคเพื่อไทยที่เป็นเป้าหมายได้ แต่กลายเป็นทำให้ประชาชนตาสว่างมากขึ้น เพราะนอกจากจะได้เห็นถึงการไร้ความสามารถในการบริหารทำให้คนไทยต้องยากลำบากทั่วหน้าแล้ว เรายังได้เห็นเรื่องสกปรกที่คนพวกนี้กล้าทำ ตั้งแต่การโกงอำนาจ การโกงการเลือกตั้งเพื่อสืบทอดอำนาจ ล่าสุดคือการใช้วิธีสกปรกที่สุดที่มนุษย์ไม่ทำกัน คือการแอบถ่ายคลิปในที่ลับเอามาประจาน ผมจะไม่เสียเวลากับเรื่องสกปรกที่ถูกกระทำมาเปลืองพื้นที่ของประชาชนอีก ส่วนการฟ้องเจ้าของโรงแรมและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องทำแน่ แต่จะมอบหมายให้ทนายดำเนินการ" นายวัฒนาระบุ
    นอกจากโพสต์ข้อความดังกล่าวแล้ว นายวัฒนายังได้โพสต์ภาพข้อความไลน์ที่คุยกับ "น้องเฟ" วีรดา เมืองสุข บุตรสาว โดยน้องเฟให้กำลังใจนายวัฒนาว่า "พ่อๆ สู้นะคะ สู้กันมาถึงขนาดนี้แล้ว เอาให้ถึงที่สุดเลยค่ะ ไม่ต้องห่วงหนูหรือ anyone นะคะ ฟ้องมันให้หมดเลย" ขณะที่นายวัฒนาตอบว่า "ขอบคุณครับลูก ขอโทษที่ทำให้ลูกไม่สบายใจ พ่อรักลูกเสมอ"
    นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายนายวัฒนา เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายจากนายวัฒนาให้ดูคดีนี้ เป็นเพียงการหารือกันในเบื้องต้นถึงการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งนายวัฒนามีความประสงค์ที่จะฟ้องร้อง ส่วนจะฟ้องใครบ้างนั้น กำลังรวบรวมข้อมูลที่ออกมาสู่สาธารณชนในรูปของการโพสต์ลงระบบคอมพิวเตอร์ว่ามาจากไหน หรือสื่อมวลชนไหนบ้าง เราจะไล่ก่อนว่าคนที่นำมาโพสต์ครั้งแรกเลยเป็นใคร แล้วค่อยขยายผลถึงผู้ที่แชร์ต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 
    "เราต้องนำกลุ่มนี้มาตั้งเรื่องก่อน ค่อยมาพิจารณาในกลุ่มที่ 2 ว่าใครเป็นผู้สั่งการให้มีการติดตามถ่ายภาพหรือคลิป เนื่องจากสิ่งที่เกิดเป็นกระบวนการที่มีการติดตามถ่ายภาพมาต่อเนื่อง เป็นภาพที่ผ่านมานานแล้ว แปลว่ามีการติดตามเพื่อที่จะส่งข้อมูล ส่วนกลุ่มที่ 3 เป็นโรงแรมที่เกิดเหตุที่เราต้องดำเนินการ โดยหลักแล้วโรงแรมไม่สามารถที่จะดำเนินการติดกล้องแอบถ่ายได้ เราจึงต้องดูทุกภาคส่วน ตอนนี้ถ้าใครแชร์หรือโพสต์ภาพก็จะเป็นไปตามที่ ผกก.กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้เน้นย้ำว่าเป็นความผิดทางกฎหมาย" นายนรินท์พงศ์ กล่าว
    ส่วนจะมีการฟ้องสื่อมวลชนด้วยหรือไม่นั้น นายนรินท์พงศ์กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เราต้องการทราบว่าใครโพสต์ครั้งแรก เรื่องนี้ออกมาจากตรงไหน ซึ่งกำลังตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับไอทีว่าข้อมูลออกมาอย่างไร เพื่อที่จะได้ทราบว่าข้อมูลเริ่มเผยแพร่จากตรงไหน ตอนนี้จึงยังไม่อยากสรุปอะไรว่าจะดำเนินคดีกับใครยังไงบ้าง ต้องอยู่ที่นายวัฒนาจะเป็นผู้ดำเนินการตัดสินใจทั้งหมด สำหรับโรงแรมที่เกิดเหตุนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดอะไรได้ ต้องการสืบไปถึงต้นเรื่องก่อนที่คนกระทำผิดจะไปกลบพยานหลักฐาน 
    เมื่อถามย้ำว่า จะฟ้องได้ก่อนปีใหม่หรือไม่ นายนรินท์พงศ์กล่าวว่า คงจะยัง ขึ้นอยู่กับนายวัฒนาว่าจะดำเนินการอย่างไร
    ขณะที่ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ในรายการ  Wake Up News ช่อง Voice TV ถึงการตัดสินใจฟ้องผู้ที่นำคลิปมาปล่อยจนเกิดความเสียหายตอนหนึ่งว่า ที่ตัดสินใจฟ้องใช้เวลาเพียง 1 นาที เพราะเราปรึกษากันและได้รับข้อมูลมาจากหน่วยงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ใหญ่ที่สุดในโลกว่า ถ้าเราฟ้อง เขาจะเอาไปทำเรื่องสิทธิมนุษยชนของการละเมิดสิทธิเรื่องหนึ่งของโลก แม้จะรู้ว่าจะจับใครมาดำเนินคดีไม่ได้ก็ตาม
    "ก่อนหน้านี้ที่บอกไม่ฟ้อง เพราะมีคลิปถูกเบี่ยงเบนประเด็นตลอดเวลา และรู้อยู่แล้วว่าใครทำ พอมีคดีต่างๆ ก็จับมือใครดมไม่ได้ เลยจะเสียเวลาทำไม แต่ดูเหมือนคนจะไม่เข้าใจ เมื่อวานมีการสร้างสตอรีว่าเมียเก่ามาปล่อย เหมือนกล่าวหาผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นคนธรรมดาว่าเป็นอาชญากร ทั้งที่ผู้หญิงคนหนึ่งไม่รู้เรื่อง ไม่มีพื้นที่ชี้แจงอะไร เราจึงต้องตัดสินใจดำเนินการ ตอนที่ไม่ฟ้อง เพราะรู้ว่าเอาผิดใครไม่ได้แน่ รู้ว่าใครและเขาเก็บคลิปมากว่า 5 เดือนแล้ว เก็บมานานหลักฐานไม่น่าจะเหลือแล้ว และช่วงที่ปล่อยคลิปออกมาในวันรุ่งขึ้น พรรคเพื่อไทยก็จะมีการประชุมใหญ่ รวมทั้งมีเรื่องโต๊ะจีน เรื่องทนายวันชัย ก็รู้เจตนาอยู่แล้ว" น.ส.ณัฏฐาระบุ
    เธอบอกว่า อยากให้ทุกคนเข้าใจในความเป็นเหยื่อ แต่ที่ลุกขึ้นมาไว เพราะเป็นนักกิจกรรม อยู่กับความไม่ยุติธรรมตลอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมาคบหาใครก็ไม่ปิดบัง ที่เห็นในภาพก็เดินเข้าร้านอาหารที่สาธารณะมากๆ โดยการถูกติดตามมีขึ้นตลอดเวลาอยู่แล้ว ทั้งหมู่บ้าน หรือตามที่ต่างๆ ตอนไปส่งลูกก็โดนตาม แต่ไม่คิดว่าจะใช้วิธีสกปรกเช่นนี้ ส่วนที่คบหากันก็ไม่ได้บอกใคร เพราะถ้ารู้ก็จะโยงว่ารับงานพรรคเพื่อไทยมาเคลื่อนไหว แต่พอเกิดเรื่อง 2 วันมานี้น้ำหนักลดไป 2 กิโล นอนไม่ค่อยหลับ เหมือนร่างกายรับรู้ว่ามีภัยตลอดเวลา ไม่ค่อยกินอะไร อยากเปิดโทรศัพท์เช็กตลอดว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งการฟ้องร้องก็คงต้องหารือกับทนายความก่อน
    นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับกรณีความปลอดภัยของประชาชนทางไซเบอร์ ว่า การดักฟังโทรศัพท์ การดักฟังเสียง วิดีโอ ข้อความแชต การดักรับและถ่ายโอนข้อมูลต่างๆ ของแอปพลิเคชันหรือโปรแกรมติดต่อสื่อสารระหว่างกันทางระบบอินเทอร์เน็ต ที่ใช้เครื่องมือที่มีเทคโนโลยีระดับสูงโดยฝ่ายข่าวของหน่วยงานความมั่นคง ถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศจริงๆ หรือไม่ เหตุใดกรณีเป็นข่าวดังล่าสุดซึ่งเป็นการสะกดรอย แอบถ่ายและตั้งเครื่องมืออุปกรณ์ในสถานที่ปิดเกิดขึ้นได้อย่างไร
    "การได้มาของคลิปและนำมาเผยแพร่เกิดจากขบวนการใด จึงไม่ใช่เรื่องความมั่นคงปลอดภัยของประเทศเพียงอย่างเดียว แต่มันอาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงมากขึ้น ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องตระหนักถึงหลักสิทธิมนุษยชน สิทธิความเป็นส่วนตัวขั้นพื้นฐาน ร่วมกันแสดงออก แสดงจุดยืนต่อต้านการละเมิดสิทธิของเรา เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดความรับผิดชอบจากการคุกคามนี้" นายวิญญัติระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"