จับ 3 สาวสุดแสบ ตุ๋นคนหูหนวกเล่นหุ้น ล่อใจได้กำไรเกือบ 400 เปอร์เซ็นต์ ก่อนเชิดเงินกว่า 6 แสน อีกรายรวบ 2 สาวลวงเป็นตัวแทนขายเครื่องสำอาง มีรางวัลเพียบ เหยื่อหลงเชื่อเสียหายกว่า 2 ล้าน
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 24 ธันวาคมนี้  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโลโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) แถลงข่าวจับกุม น.ส.พรทิพย์ รัศมีเวสารัช น.ส.สุนันทา เจริญสุทธโยธิน และนางหว่า แซ่หว่อง ร่วมกันหลอกลวงคนหูหนวกนำเงินมาลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยรับประกันผลตอบแทนสูง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 600,000 บาท
    พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ศปอส.ตร.ได้รับร้องเรียนจากประชาชน 7 คน ซึ่งเป็นคนหูหนวก ตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกลวงนำเงินมาลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าความเสียหายมากกว่า 600,000 บาท ซึ่งเข้าข่ายกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานงานกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางกอกน้อยดำเนินคดีตามกฎหมาย
    จากการสืบสวนทราบว่า มิจฉาชีพกลุ่มนี้คือ น.ส.พรทิพย์ น.ส.สุนันทา และนางหว่า โดย น.ส.พรทิพย์เป็นผู้ชักชวนผู้เสียหายให้มาร่วมลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เสียค่าสมัครสมาชิกคนละ 2,500 บาท และมีเงื่อนไขลงทุนเป็นรายเดือน เดือนละ 900 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี 6 เดือน เมื่อลงทุนครบกำหนดจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงิน 1,500,000 บาท หรือคิดเป็น 396 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุน ผู้เสียหายทั้ง 7 คนเป็นคนหูหนวกที่มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาทุกวันอาทิตย์ที่คริสตจักรแห่งหนึ่ง เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ต้องหา จนรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จึงหลงเชื่อรวมลงทุนกับกลุ่มผู้ต้องหาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2558 เป็นต้นมา
    กระทั่งช่วงเดือนสิงหาคม 2561 มีผู้ที่มาร่วมประกอบพิธีกรรมที่คริสตจักรดังกล่าวได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงขอดูหลักฐานการสมัครสมาชิกและเอกสารหลักฐานในการลงทุนซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้เสียหาย ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่เคยได้รับเอกสารหลักฐานดังกล่าว และเมื่อทวงถามเงินเงินคืนจากกลุ่มผู้ต้องหากลับถูกบ่ายเบี่ยง เชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงมาพบพนักงานสอบสวน สน.บางกอกน้อยเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย 
    ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัว น.ส.พรทิพย์ ขณะหลบหนีอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และจับกุมตัว น.ส.สุนันทา ได้ที่เขตห้วยขวาง กทม. นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางกอกน้อยดำเนินคดี ส่วนนางหว่าติดต่อขอเข้ามอบตัว โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกง" ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    อีกคดี ตำรวจ ศปอส.ตร.จับกุม น.ส.พรรณวดี ขวัญบุญจันทร์ และ น.ส.กิจจาณัฐ ชัยยศบูรณะ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน หลังจากได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายจำนวน 7 ราย ว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ชักชวนให้ร่วมลงทุนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Advance white gold serum ยี่ห้อฮานาบิ โดยเสนอผลประโยชน์และของรางวัลตอบแทนการสมัคร แต่เมื่อผู้เสียหายสมัครแล้วกลับไม่ได้ผลประโยชน์ตามที่ตกลงไว้ โดยเปลี่ยนเงื่อนไขและโน้มน้าวชักจูงให้เพิ่มการลงทุนจนผู้เสียหายต้องจ่ายเพิ่มอีก รวมความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท.