แนะ 5 วิธี ผู้สูงอายุรับมือ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย


เพิ่มเพื่อน    

    ช่วงปลายปีแบบนี้ อุณหภูมิที่เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวเปลี่ยนแปลงบ่อย ร่างกายปรับตัวไม่ทัน จึงส่งผลให้ป่วยง่าย โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจอย่าง โรคไข้หวัด และโรคไข้หวัดใหญ่ ยิ่งในผู้สูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนทั่วไป ร่างกายติดเชื้อได้ง่าย จึงอาจเสี่ยงเป็นโรคปอดบวมซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
    นพ.ปุณพงศ์ หาญศิริพันธุ์ แพทย์เฉพาะทางอายุรศาสตร์ คลินิกอายุรกรรมทั่วไป โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวว่า “โรคปอดบวมในผู้สูงอายุรุนแรงและน่ากลัวกว่าในวัยอื่นๆ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน โรคระบบทางเดิน หายใจเรื้อรัง หากมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด หรือระบบทางเดินหายใจล้มเหลว จะทำให้การรักษาเป็นไปได้อย่างยากลำบาก และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตเลยก็ได้ จากสถิติพบว่า ผู้สูงอายุที่เสียชีวิตด้วยโรคนี้มีสูงถึง 50% เลยทีเดียว”
    โรคปอดบวมเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อราก็ได้ มักเป็นอาการต่อเนื่องมาจากโรคไข้หวัดใหญ่ โดยปกติแล้วผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอมีเสมหะ คลื่นไส้อาเจียน เหนื่อยหอบ แต่ในผู้สูงอายุอาจจะแสดงอาการไม่ชัดเจน อาจมีไข้ และมีอาการซึมลงเท่านั้น จึงจำเป็นต้องสังเกตอาการของผู้สูงอายุเป็นพิเศษ เพราะหากไม่รีบรักษาหรือร่างกายไม่แข็งแรงอาจติดเชื้อแทรกซ้อนจนเป็นอันตรายได้ หากสังเกตพบอาการผิดปกติควรรีบพาไปพบแพทย์
    “แม้ว่าการรักษาโรคปอดบวมจะสามารถหายได้ด้วยการใช้ยาฆ่าเชื้อ แต่ปัจจุบันเชื้อมีการดื้อยามากขึ้น ทำให้การรักษายากและซับซ้อนขึ้น อาจไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร การดูแลตัวเองให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน เพื่อเป็นการป้องกันก่อนป่วยจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” นพ.ปุณพงศ์ หาญศิริพันธุ์ กล่าว พร้อมแนะนำ 5 วิธี ผู้สูงอายุรับมืออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยไว้ดังนี้ 
    1.ดูแลร่างกายให้แข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ร่างกายอ่อนแอด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามที่ร่างกายต้องการ และดื่มน้ำให้พอเพียง
    2.สวมใส่เสื้อผ้าที่หนาเพียงพอ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่มีอากาศหนาวเย็น เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวจัดต้องระวังอาจเกิดภาวะอุณหภูมิของร่างกายลดลงมากผิดปกติ เนื่องจากผิวหนังของผู้สูงอายุมีความไวของประสาทรับรู้อากาศที่หนาวเย็นลดลง ร่างกายจึงไม่สามารถตอบสนองด้วยการหนาวสั่น หรือการหดตัวของกล้ามเนื้อให้เกิดความอบอุ่นได้ดีเหมือนคนหนุ่มสาว
    3.ล้างมือเป็นประจำให้ติดเป็นนิสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นหวัด ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสเชื้อบริเวณจมูก ปาก ตา เนื่องจากเชื้อไข้หวัดใหญ่อาจปนเปื้อนอยู่ จะเป็นการแพร่กระจายเชื้อ
    4.หลีกเลี่ยงการอยู่ในฝูงชนที่มีการระบายอากาศไม่ดี เพราะอาจรับเชื้อไวรัสไข้หวัด หรือไข้หวัด
    5.ฉีดวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันในโรคที่มีวัคซีนป้องกัน เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนปอดอักเสบ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"