5 ปีไวเหลือเกิน 'ประยุทธ์' บ่นแก้ปัญหาหลายอย่างยังไม่จบ


เพิ่มเพื่อน    

24 ธ.ค.61 -  ที่วัดบางไผ่ พระอารามหลวง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และคณะ พบปะประชาชนและเยี่ยมชมการดำเนินกิจกรรมร้านค้าชุมชนและผลิตภัณฑ์โอทอป โดยมีข้าราชการ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และประชาชนกว่า 5,000 คนมารอต้อนรับ ทั้งนี้นายทศพล เพ็งส้ม อดีตส.ส. จ.นนทบุรีและฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ พร้อมภริยา นางภัทธมน เพ็งส้ม รองนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองพิมลราช ได้มาร่วมต้อนรับด้วย 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าทุกคนคงฟังตนพูดมาเยอะแล้ว ขอย้ำอีกครั้งว่า วันนี้ไม่ได้มาเพื่อการเมือง ไม่ได้มาเพื่อให้สนับสนุนพรรคใดทั้งสิ้น มาด้วยตัวของผมเอง มาด้วยรัฐบาลนี้ จำเป็นที่จะต้องมาพบกับทุกคนเพื่อทำความเข้าใจ สื่อสารว่าจะร่วมมือกันทำให้บ้านเมืองเดินต่อไปข้างหน้าได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่รัฐบาลกำหนดออกมานั้นก็เพื่อคนทุกคน ทุกวัย เป็นการดูแลในรูปแบบสวัสดิการแห่งรัฐ และนโยบายนี้ไม่ได้ทำเพื่อให้มาชอบตน ทุกอย่างทำมาตามขั้นตอน เมื่อถึงเวลาก็ทำเพิ่มเติมให้ วันข้างหน้าก็เป็นเรื่องของรัฐบาลต่อไปที่จะมาพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อ ไม่ใช่มาว่ากันไปมา และตนก็ไม่เคยไปว่าอะไรใคร และไม่เห็นว่ามันจะเกิดอะไรที่ดีขึ้นจากการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ที่ผ่านมาเราก็ยอมรับในกติกามาโดยตลอด ดังนั้น เมื่อถึงเวลาก็ควรยอมรับกติกากันบ้าง กฎหมายว่าอย่างไรก็ต้องว่าไปตามนั้น ขอให้ทุกคนเข้าใจตรงจุดนี้

“เจตนารมณ์ของรัฐบาลที่เข้ามาทำงานช่วง 4 ปีที่ผ่านมา หลายคนอาจมองว่านานเหลือเกินเบื่อหน้านายกฯแล้วอยู่มา4-5 ปี น่าเบื่อเหลือเกิน แต่ผมกลับรู้สึกว่าเวลามันรวดเร็ว ที่ว่าเร็วไม่ใช่เพราะว่าอยากอยู่ต่อ แต่เร็วเพราะการแก้ไขปัญหาหลายอย่างยังไม่จบ ใช้เวลามากขนาดนี้ ผมอยากถามว่าแล้วถ้าไม่มีรัฐบาล แล้วจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ที่ทุกคนจะต้องเลือกเข้ามา เป็นหน้าที่ของประชาชนที่จะเลือก ไม่ใช่ผม เพราะแม้แต่ผมจะบอกให้เลือกแล้วพวกท่านจะเลือกตามหรือ มันทำไม่ได้ผิดกฎหมาย 

ดังนั้นทุกคนมีหน้าที่ที่จะเลือกด้วยตัวเอง แต่ขอความกรุณาให้เลือกด้วยเหตุและผล ควรจะต้องเลือกคนที่มีความรู้ มีคุณธรรม มีความตั้งใจดี มีความปรารถนาดีเข้ามา ที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองดีขึ้น ไม่ใช่พูดแค่ดิสเครดิตตรงนั้นตรงนี้ ว่าทุกคนไปหมด มันไม่ได้จะทำให้ทุกอย่างชะงักไปเสียทั้งหมด หลายอย่างที่เคยได้รับความร่วมมือก็จะเสียหาย และทำให้เสียเวลา ผมไม่ได้รังเกียจใครทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเรื่องกลไกทางการเมือง และประชาธิปไตยก็ว่ากันไป การที่ผมเข้ามา 4-5 ปีก็เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งหลายอย่างเป็นปัญหาที่ทับถมมานาน เราจึงจำเป็นต้องมีมาตรการในการแก้ไขปัญหา ยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร”

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การเดินหน้าประเทศถ้าไม่ต้องมัวแต่แก้ไขปัญหาก็คงไม่ยาก แต่ปัญหาที่ผ่านมามันพะรุงพะรังและทับถมมายาวนาน จึงจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ชาติ ทุกคนจึงต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเพื่อเดินหน้าประเทศ และติดตามข่าวสารต่างๆที่เป็นข้อเท็จจริงดีกว่าติดตามข่าวสารที่เป็นเรื่องการทะเลาะเบาะแว้ง ขัดแย้งกัน ถ้าทุกคนมองแต่เรื่องความขัดแย้งก็จะไม่ได้อะไรขึ้นมา เสียเวลา ไม่ได้ฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะมัวแต่ไปฟังสิ่งที่เป็นความขัดแย้ง 

“วันนี้ที่ผมมาไม่ได้ต้องการสร้างความแตกแยกใดๆ ผมมาในฐานะรัฐบาล และผมมาก็ไม่ได้เพื่อหวังผลทางการเมือง วันนี้คนจะรักหรือชอบเราไปบังคับใครไม่ได้ เป็นเรื่องของจิตใจมนุษย์ ยากแท้หยั่งถึง หลายคนก็ไม่ชอบผม และผมก็ไปโกรธเกลียดท่านไม่ได้ ถึงจะรู้ผมก็โกรธไม่ได้เพราะเขาเข้าใจแบบนั้น ก็ไม่เป็นไร วันข้างหน้าอาจจะเข้าใจมากขึ้น แต่คนที่เข้าใจอยู่แล้วก็ควรจะช่วยผม ให้เกิดความเข้าใจและมั่นใจ เชื่อมั่นในโครงการที่ทำออกมา แต่แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีทั้งคนได้และเสียประโยชน์"นายกฯกล่าว 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"