24 ธ.ค.61- นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ร่องฟอง และ ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ และพันธมิตรอีก 12 ตำบล ซึ่งคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 28.5 เมกะวัตต์ ของนายทุนที่มีอดีตนักการเมืองใหญ่ของจังหวัดให้การหนุนหลังอยู่ ซึ่งมีแผนที่จะก่อสร้างบริเวณบ่อขยะเดิมใน ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ ใกล้กับชุมชน 5 หมู่บ้านของ ต.ร่องฟอง และยังอยู่ใกล้วนอุทยานแห่งชาติแพะเมืองผีประมาณ 500 เมตรเท่านั้น ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่คัดค้านอย่างหนัก 

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า มีการขึ้นป้ายผ้าต่อต้านบริเวณหน้าบ้านแทบทุกหลังคาเรือนในทุกหมู่บ้าน แต่ทว่าผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าดังกล่าว ยังคงเดินหน้าที่จะก่อสร้างให้ได้ โดยไม่สนใจเสียงทักท้วงของชาวบ้านที่วิตกกังวลเกี่ยวกับมลพิษ น้ำเสีย สารก่อมะเร็ง ที่จะแพร่กระจายมากระทบวิถีของชาวบ้าน เกษตรกร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัด คือ วนอุทยานแห่งชาติแพะเมืองผี ที่อาจจะผุกร่อนเร็วขึ้นอันเนื่องมาจากแรงสั่นสะเทือนจากรถบรรทุกขยะ และมลพิษจากปล่องโรงไฟฟ้าที่อาจก่อตัวสร้างฝนกรดมาทำลายลงได้ รวมทั้งแหล่งวัตถุดิบของโรงไฟฟ้านี้ที่จะใช้เศษไม้เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำให้มีการลักลอบการตัดไม้มาขายให้กับโรงงานหมดป่าแน่นอน เพราะโรงงานไม่มีแหล่งวัตถุดิบเป็นของตนเอง ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่พยายามร้องเรียนผู้ว่าฯ นายอำเภอ อบต. อุตสาหกรรมจังหวัดแพร่แล้วแต่ไม่เป็นผล
          

ด้วยเหตุดังกล่าวชาวร่องฟองและเหมืองหม้อ และพันธมิตรอีก 12 ตำบลจึงรวมตัวกันใช้สิทธิตามมาตรา 43(3) ของรัฐธรรมนูญ 2560 โดยได้เข้าชื่อกันกว่า 2,000 คน เพื่อทำข้อเสนอแนะไปยังนายกรัฐมนตรี รมว.อุตสาหกรรม และ กกพ. เพื่อขอให้สั่งระงับการดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลดังกล่าวในพื้นที่ต่อไป และหากหน่วยงานต่างๆ ยังเพิกเฉยสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและชาวบ้านจักได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป
        
ทั้งนี้ สมาคมฯและตัวแทนชาวบ้านร่องฟองและเหมืองหม้อ และพันธมิตรอีก 12 ตำบลจะเดินทางด้วยรถบัสจากจังหวัดแพร่มายื่นคำร้องต่อนายกรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 25 ธันวาคม 2561 เวลา 10.30 น. ณ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ทำเนียบรัฐบาล ตึก กพร.เดิม.