องค์กรสื่อบี้คสช. ปลดตรวนคำสั่ง การเมืองร่วมดัน


เพิ่มเพื่อน    

     องค์กรสื่อจี้บิ๊กตู่-คสช.ปลดโซ่ตรวน ยกเลิกประกาศ-คำสั่ง คสช.ที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพการทำหน้าที่ของสื่อทั้งหมด ก่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ตัวแทน 7 พรรคการเมืองเห็นพ้องหนุนเต็มสูบ 
     เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีการจัดกิจกรรมราชดำเนินเสวนา หัวข้อ “ปลดล็อกสื่อมวลชน คืนเสรีภาพประชาชน เดินหน้าสู่ประชาธิปไตย” โดยมีตัวแทน 7 พรรคการเมืองร่วมเสวนา ประกอบด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์, นายนิกร จำนง ตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนา, นางลดาวัลลิ์  วงศ์ศรีวงศ์ ตัวแทนพรรคเพื่อไทย, น.ส.พรรณิการ์ วานิช  ตัวแทนพรรคอนาคตใหม่, นายวิโชติ วัณโณ ตัวแทนพรรคเพื่อชาติ, นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ ตัวแทนไทยรักษาชาติ และ พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก ตัวพรรคพรรคชาติพัฒนา 
    โดยตัวแทนทั้ง 7 พรรคการเมืองมีความเห็นร่วมกันให้มีการยกเลิกประกาศและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ลิดรอนเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชนก่อนเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้ง
    ในเวทีเสวนา นายองอาจให้ความเห็นว่า บ้านเมืองกำลังเข้าสู่บรรยากาศประชาธิปไตย จึงต้องอยู่บนพื้นฐานที่ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงออกทางการเมืองได้อย่างเสรี แต่เมื่อพิจารณาบรรยากาศตอนนี้ เราพบความจริงว่า มีประกาศคำสั่งหัวหน้า คสช.หลายเรื่องที่กระทบสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน ประกาศที่ออกมาตั้งแต่ปี 2557-2559 ที่เห็นได้ชัดคือคำสั่งที่ 3/2558 ข้อ 4 เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่รัฐตรวจค้นเคหสถานและตรวจรถ ซึ่งค้นเมื่อไรก็ได้ ตรงนี้กระทบประชาชนโดยตรง เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข 
    "ต้องยอมรับความจริงว่า หัวหน้า คสช.ที่ออกคำสั่งเหล่านี้กำลังจะมีชื่อในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งเป็นการทับซ้อนอำนาจที่น่าเกลียดมาก ในประเทศที่ไม่ไกลจากบ้านเราก็ใช้อำนาจแบบนี้เข้าไปจัดการพรรคการเมืองที่ไม่ได้ให้การสนับสนุน อยากเตือนสติผู้มีอำนาจในรัฐบาลและ คสช. ว่าประเทศไทยไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวในโลก แต่อยู่ในรัฐภาคีของสิทธิพลเมือง การปลดล็อกคำสั่งจึงเป็นเรื่องที่ควรดำเนินการอย่างยิ่ง เพราะถ้ายังมีอยู่ จะส่งผลกระทบต่อประเทศโดยรวม คำสั่ง คสช. ทำให้มีการใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อตนเองและพวกพ้อง การปลดล็อกคำสั่งจึงควรดำเนินการ" นายองอาจกล่าว
     ด้านนายนิกรกล่าวว่า คำสั่ง คสช.ฉบับต่างๆ ต้องเรียกร้องให้ถอนทั้งหมด คำสั่งถูกประกาศออกมาแบบไหนก็ควรถอนไปแบบนั้น ไม่เช่นนั้นจะยุ่งยากไปหมด การที่เราจะเรียกร้องให้เขายกเลิกคำสั่งทั้งหมด คงไม่มีทางเป็นไปได้ จึงเสนอว่าให้เรียงลำดับและขอให้ดี ขอให้ถอนในสิ่งที่เขาไม่มีเหตุผลในการปฏิเสธ
    น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า เสรีภาพสื่อไม่ใช่แค่เสรีภาพประชาชน แต่คือเสรีภาพการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน จึงขอให้ปลดคำสั่งที่ลิดรอนเสรีภาพทั้งหมดให้หมด และยุติการออกคำสั่งใหม่ และระงับการใช้อำนาจตามคำสั่งเดิมที่ออกมาทั้งหมดทันทีที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง พรรคการเมืองต้องสนับสนุนให้กำลังใจสื่อมวลชนให้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตย 
    ในช่วงท้ายของการเสวนา นายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ นายกสมาคมนักข่าวฯ ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกให้กับตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ ที่เข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้ เพื่อขอให้ร่วมรณรงค์ยกเลิกประกาศและคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ลิดรอนเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชน ทั้งนี้ จดหมายเปิดผนึกดังกล่าวระบุตอนหนึ่งว่า มีประกาศ คสช./คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ปิดกั้น ลิดรอน เสรีภาพ ของสื่อมวลชนและประชาชน 4 ฉบับ อาทิ 1.ประกาศ คสช.ฉบับที่ 97/2557 เรื่องการขอความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของ คสช. และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ กรณีการห้ามเสนอข่าวสารที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคง ความลับของหน่วยราชการ 2.ประกาศ คสช.ที่ 103/2557 แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 3.คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 (ข้อ 5) ให้อำนาจเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยมีอำนาจออกคำสั่งห้ามการเสนอข่าว การจำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด และได้กำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 4.คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 41/2559 เรื่องการกำกับดูแลการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ โดยมีเจตนาในการขยายอำนาจ ตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ของ กสทช. ให้ครอบคลุมไปถึงประกาศของ คสช. ฉบับที่ 97/2557 และฉบับที่ 103/2557 รวมทั้งคุ้มครองการใช้อำนาจของ กสทช.
    "ความจริงแล้วองค์กรวิชาชีพสามารถสอบสวนทางจริยธรรมของสมาชิกได้อยู่แล้ว หากสื่อมวลชนทำผิด ก็สามารถใช้กฎหมายปกติดำเนินการได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีประกาศและคำสั่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ทำให้สื่อมวลชนทำหน้าที่นำเสนอข่าวสารด้วยความหวาดกลัว และส่งผลให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ครบถ้วนรอบด้าน โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้ง จำเป็นอย่างยิ่งที่สื่อมวลชนจะต้องมีเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสาร จึงหวังว่าพรรคการเมืองทุกพรรคจะให้การสนับสนุน แสดงเจตนารมณ์ในการเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศ/คำสั่งดังกล่าวทั้งหมด" จดหมายระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"